[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
เมนูหลัก
หน่วยงานในวิทยาลัย
ข้อมูลพื้นฐานวิทยาลัย
งานนโยบายและแผนฯ
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 84 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
หน่วยงานต่างๆ
poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก



 

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
หนังตากระตุก" อาจไม่ใช่ลางบอกเหตุ แต่เป็นสัญญาณเตือนสุขภาพ  VIEW : 358    
โดย กก

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 18
ตอบแล้ว : 9
เพศ :
ระดับ : 4
Exp : 21%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 49.228.238.xxx

 
เมื่อ : จันทร์ ที่ 25 เดือน กรกฏาคม พ.ศ.2565 เวลา 17:50:59    ปักหมุดและแบ่งปัน

สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ เผยภาวะตาปิดเกร็ง หนังตากระตุก หลายคนมักคิดว่าเป็นลางบอกเหตุ แต่เป็นสัญญาณบอกโรค แนะสังเกตอาการ-ปรึกษาแพทย์เพื่อรักษา

วันนี้ (25 ก.ค.2565) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า Blepharospasm หรือภาวะตาปิดเกร็ง เป็นส่วนหนึ่งของอาการ focal dystonia ซึ่งเป็นภาวะความผิดปกติที่เกิดจากอาการเกร็งของกล้ามเนื้อดวงตา มักพบในผู้ป่วยเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และช่วงอายุที่พบบ่อย คือ ช่วงอายุประมาณ 40-60 ปี มักเกิดขึ้นพร้อมกันทั้ง 2 ตา

อาการเริ่มต้นของภาวะนี้ คือ มีกระพริบตาบ่อยครั้ง ผู้ป่วยมักให้ประวัติว่า รู้สึกเคืองตาแสบตา จากนั้นจะเริ่มมีอาการเกร็ง หรือรู้สึกดึงรั้ง หรือแน่นรอบดวงตา โดยเกิดขึ้นทั้งด้านบนและด้านล่าง ทำให้มีความลำบากในการลืมตา ตาเริ่มหรี่แคบลงจนถึงตาเปิดไม่ได้ชั่วขณะ อาการจะเป็น ๆ หาย ๆ โดยระยะเวลาที่เกิดเป็นวินาทีถึงหลายนาทีได้ การโดนแสงแดดหรือไฟสว่างจ้า ความเครียดวิตกกังวล มักกระตุ้นให้เกิดอาการมากขึ้น

ผู้ป่วยอาจมี sensory trick หรือการบรรเทาอาการจากการสัมผัสเบา ๆ ที่บริเวณอื่น เช่น หางตาหรือแก้มแล้วทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาคลายตัว พบได้ในระยะแรกของโรค จากนั้นอาการจะค่อยๆหายไป ผู้ป่วยควรมาพบแพทย์ประเมินหาสาเหตุ เพื่อการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

ขณะที่ นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยจะมีอาการภาวะอื่นที่อาจมีอาการคล้าย Blepharospasm เช่น หนังตาตกจากกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรืออาการที่ไม่สามารถเปิดตาได้จากสมองส่วนกลาง หรือใบหน้ากระตุกครึ่งซีก ซึ่งการแยกโรคต้องอาศัยแพทย์ในการตรวจวินิจฉัย

นอกจากนี้ Blepharospasm อาจเป็นส่วนหนึ่งของอาการเกร็งของใบหน้า คือ พบร่วมกับอาการเกร็งบริเวณปาก หรือในบางรายอาการเกร็งอาจลามถึงบริเวณคอหรือทั้งร่างกาย การรักษาด้วยการรับประทานยาไม่ค่อยได้ประสิทธิภาพ ผู้ป่วยอาจได้รับผลข้างเคียงจากยาลดอาการเกร็ง เช่น ง่วงนอน ปากคอแห้ง อาการสับสน

ในปัจจุบันการรักษาจึงเน้นยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะที่และไม่มีผลข้างเคียง การฉีดยาโบทูลินัมจึงเป็นการรักษาที่ใช้ในผู้ป่วยเพื่อลดอาการเกร็งรอบดวงตา ได้นาน 3-6 เดือนต่อการฉีด 1 ครั้ง ซึ่งมีผลข้างเคียงค่อนข้างน้อยและหายได้เองเมื่อยาหมดฤทธิ์

อย่างไรก็ตาม การฉีดโบทูลินัมไม่ได้ทำให้หายขาดจากโรคเป็นเพียงการรักษาตามอาการเท่านั้น ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้อาการแย่ลง หลีกเลี่ยงการขับรถหากยังคุมอาการได้ไม่ดีพอ และเฝ้าระวังอาการทางระบบประสาทอื่น ๆ

2012ua.net





วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
237 หมุู่ 8 ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ 38170 โทรศัพท์ 042-086002 โทรสาร 042-086002