ถ้าจะบอกว่าฤดูกาล 2019-20 เป็นซีซั่นที่น่าผิดหวังของ ยูเวนตุส ก็คงไม่ผิดอะไรนัก จริงอยู่ว่าพวกเขาได้แชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ไปครองเป็นฤดูกาลที่ 9 ติดต่อกัน แต่มันก็ต้องลุ้นจนถึงนัดที่ 36 กว่าที่จะได้เฮกันจริงๆ ซ้ำร้ายยังแห้วแชมป์ โคปปา อิตาเลีย จากการแพ้ นาโปลี ในช่วงดวลเป้าของนัดชิงชนะเลิศ และตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยน้ำมือ โอลิมปิก ลียง อีก

    เรื่องดังกล่าวทำให้ เมาริซิโอ ซาร์รี่ เทรนเนอร์ ยูเวนตุส โดนตำหนิอย่างหนัก จนสุดท้ายต้องตกงานทั้งที่เพิ่งเข้ามาคุมทีมได้เพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น

โดยหลายฝ่ายตำหนิเขาว่าทำให้ ยูเวนตุส มีสไตล์การเล่นที่ย่ำแย่ และหลายนัดที่เอาชนะมาได้ก็เพราะพึ่งพาความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะมากกว่ารูปเกม

 ทั้งนี้ วันนี้เราจึงจะมาเจาะลึกกันว่าเกมรุกของ ยูเวนตุส ในยุคของ ซาร์รี่ มันย่ำแย่จริงๆ หรือไม่ โดยยึดสถิติในเกมระดับ กัลโช่ เซเรีย อา จาก https://fbref.com/ เว็บไซต์ด้านสถิติชื่อดังมาเป็นตัวหลักในการตัดสิน ลองไปดูกันดีกว่าว่ามันจะเป็นยังไงบ้าง

    - การผ่านบอล
    ว่ากันว่าหนึ่งในสไตล์การทำทีมที่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ถนัดเป็นอย่างมากคือการให้ลูกทีมครองบอลให้เหนียวแน่นและเน้นผ่านบอลระยะสั้นอย่างรวดเร็วเพื่อทำให้เกมการเล่นมันเคลื่อนที่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งสื่อของอังกฤษก็ตั้งฉายาให้กับสไตล์นี้ว่า "ซาร์รี่ บอล"

 ถ้าหากวัดเฉพาะการผ่านบอลแล้วล่ะก็ ซาร์รี่ ก็ทำได้ดี เพราะ ยูเวนตุส คือทีมที่มีเปอร์เซ็นต์การผ่านบอลเข้าเป้ามากที่สุดใน กัลโช่ เซเรีย อา ประจำฤดูกาลล่าสุด ด้วยจำนวน 86.9 เปอร์เซ็นต์ เฉือนชนะ นาโปลี ที่เป็นอันดับ 2 ไปเพียง 0.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนถ้าจะวัดเฉพาะที่เปอร์เซ็นต์ความแม่นยำในการผ่านบอลระยะสั้นแล้วล่ะก็ ยูเวนตุส ของ ซาร์รี่ ก็เป็นอันดับ 2 ด้วยจำนวน 48.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อันดับ 1 คือ ลาซิโอ ที่ทำได้ 50.5 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยูเวนตุส ยังเป็นทีมที่มีจังหวะผ่านบอลในพื้นที่สุดท้ายมากเป็นอันดับ 2 ของลีกด้วย จากจำนวน 1,556 ครั้ง

    อย่างไรก็ตาม ถ้าจะบอกว่าหลายครั้งการผ่านบอลของ ยูเวนตุส ไปไม่ถึงเส้นชัยมันก็คงไม่ผิดนัก เพราะพวกเขาสามารถผ่านบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษได้เพียง 368 หน เป็นเพียงอันดับ 6 ของลีก โดยอันดับ 1 คือ อตาลันต้า ที่ทำได้ถึง 479 ครั้ง

เพิ่มเติม : preschoolctr.com