อย่างที่รู้กันว่าหลังจบศึกบุนเดสลีกาฤดูกาลล่าสุด ติโม แวร์เนอร์ ศูนย์หน้าฝีเท้าจัดจ้านของแอร์เบ ไลป์ซิก จะย้ายไปซบทีมเชลซี ในพรีเมียร์ลีกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไลป์ซิกก็ยังมีคิวเตะศึกยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบน็อคเอ็าท์ที่กำลังจะฟาดแข้งกันต่อในเดือนหน้า ยูเลียน นาเกลส์มันน์ จึงมีภารกิจใหญ่ในการอุดช่องว่างจากการสูญเสียแข้งตัวเก่งวัย 28 ปีออกจากทีมไป
การตัดสินใจย้ายทีมของแวร์เนอร์ครั้งนี้น่าจะสร้างผลกระทบให้เกมรุกของไลป์ซิกมากพอสมควร แวร์เนอร์ยิงประตูได้มากมาย หากไม่มียอดดาวยิงเสือใต้อย่างโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ป่านนี้แข้งอินทรีเหล็กรายนี้คงคว้ารางวัลดาวซัลโวบุนเดสลีกาไปแล้ว
แต่ใช่ว่าไลป์ซิกจะไม่เหลือไม้เด็ดในแดนหน้า การที่แวร์เนอร์ยิงประตูได้เยอะก็ต้องให้เครดิตกับผู้เล่นตัวรุกคนอื่นๆ ในทีมด้วยเช่นกัน มาส่องดูขุมกำลังพลพรรคกระทิงแดงกันเลยว่ายังเหลืออาวุธอะไรไปต่อกรกับคู่แข่งบ้าง
1) ชิคไงจะใครล่ะ
ก่อนพาทริค ชิค จะถูกยืมตัวจากโรม่า มายังไลป์ซิกด้วยสัญญายืมตัวเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ไลป์ซิกใช้ระบบการเล่น 4-4-2 โดยให้แวร์เนอร์ยืนหน้าคู่กับยุสซุฟ โพลเซ่น แต่หลังจากศูนย์หน้าชาวเช็กเข้ามาเสริมทัพเป็นหัวหอกในแนวรุก เกมบุกของไลป์ซิกก็ดูกลายเป็นโมเดิร์นฟุตบอลขึ้นทันตา พาทริค ชิคยิงให้ไลป์ซิกไปแล้ว 10 ประตู คิดเป็นอัตรายิงประตูทุก 130 นาที การมีชิคยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าทำให้นาเกลส์มันน์ขยับแวร์เนอร์ลงต่ำ และหากชิคเกิดได้รับบาดเจ็บหรือฟอร์มตกขึ้นมา พวกเขาก็ยังมีโพลเซ่นที่เล่นตำแหน่งเดียวกันได้ แถมในฤดูกาลที่ผ่านมาก็ยังยิงได้ถึง 15 ประตูเลยทีเดียว
2) กองสนับสนุนเกมรุก
มาร์เซล ซาบิทเซอร์ และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู สามารถพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาจนเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรุกที่ดีที่สุดในยุโรปเลยทีเดียว โดยเอ็นคุนคูยิงไป 5 ประตูและทำได้ถึง 13 แอสซิสต์ในซีซั่นล่าสุด ส่วนซาบิทเซอร์ยิง 9 ประตูและจ่าย 7 แอสซิสต์ แถมยังยิงในศึกแชมเปียนส์ลีกไป 4 ประตูเท่ากับแวร์เนอร์เลยด้วย
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ทั้งสองเล่นเกมรุกได้ดีก็เพราะทั้งคู่ต่างก็เคยเล่นเป็นกองหน้ามาก่อน ทำให้มีทักษะในการหาที่ว่างและวางเท้ายิงประตูได้อย่างดีเยี่ยม ดังนั้นการใช้พาทริค ชิคยืนเดี่ยวเป็นหน้าเป้าโดยที่มีเอ็นคุนคูและซาบิทเซอร์คอยสนับสนุนเกมรุกจึงน่าจะการันตีประตูให้กับทีม “กระทิงแดง” ได้ไม่น้อย
เพิ่มเติม : dgc-gmbh.com
|