  
	 
	หลังจากที่ ลิเวอร์พูล ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับ ปีเตอร์ มัวร์ ประธานบริหารที่กำลังจะหมดสัญญาหลังหมดเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งคนที่จะรับไม้ต่อคือ บิลลี่ โฮแกน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของสโมสรลิเวอร์พูล 
	    ชื่อของ โฮแกน อาจไม่ได้เป็นที่รู้จักสำหรับแฟนบอลเท่าไหร่นัก เพราะงานของเขาคือการทำงานเป็นเบื้องหลังเรื่องเชิงพาณิชย์ ทั้งการเจรจา ดีลสปอนเซอร์, การตลาด ซึ่งอะไรที่เกี่ยวข้องกับ เงิน ๆ ทอง ๆ นั่นแหละคือหน้าที่ของ โฮแกน 
	ส่วนความรับผิดชอบของตำแหน่งประธานบริหารของสโมสรนั้น หลังจากที่ มัวร์ เข้ามารับตำแหน่งนี้ต่อจาก เอียน แอร์ ตำแหน่งนี้จะเน้นเรื่องการทำธุรกิจมากกว่าเรื่องฟุตบอล ซึ่งจะไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องซื้อ-ขายหรือต่อสัญญาผู้เล่น เพราะหน้าที่นี้เป็นของ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ 
	ธุรกิจโฆษณา 
	    สำหรับ โฮแกน ที่จะเข้ามาเป็นซีอีโอคนใหม่ ก็ไม่ได้เป็นคนอื่นคนไกลกับสโมสรเลย เขาทำงานร่วมกับ มัวร์ และมีความสนิมสนมกันอยู่แล้ว 
	    โฮแกน เคยเป็น ประธานบริหารให้กับบริษัทในเครือของ FSG กลุ่มเจ้าของสโมสร มีหน้าที่คอยดูแลเรื่องแบรนด์และภาพลักษณ์ 
	 
	    ประสบการณ์ในด้านการพาณิชย์ระหว่าง โฮแกน กับ FSG มีมานานถึง 16 ปี โดยก่อนหน้านั้น โฮแกน ใช้เวลาสั้น ๆ ในการเป็น ผู้อำนวยการฝ่ายขาย กับบริษัท ANC Sports 
	    ต่อมาเดือนพฤษภาคม ปี 2012 โฮแกน เข้ามาทำหน้าที่ในสโมสรลิเวอร์พูล ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ ดูแลเรื่องการเจรจาธุรกิจและการตลาด 
	    และพอเดือนมีนาคม ปี 2016 แอร์ ลาออกจากซีอีโอ แล้วตั้ง มัวร์ ขึ้นมาแทน โฮแกน ก็เลื่อนขั้นเป็นกรรมการผู้จัดการควบคู่กับผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ของทีม 
	ทำความรู้จัก ซีอีโอคนใหม่ ลิเวอร์พูล ฝีมือไม่ธรรมดา 
	    โฮแกน ใช้เวลาส่วนใหญ่ที่ ลอนดอน แต่ก็เดินทางมายัง ลิเวอร์พูล อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และก็บินไปต่างประเทศในคราวที่จำเป็น 
	    ทุกครั้งที่สโมสรทำการเซ็นสัญญากับสปอนเซอร์ เราจะได้เห็นโฮแกน ร่วมเฟรมอยู่เสมอ เขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังดีลธุรกิจต่างๆที่เกิดขึ้น 
	    โฮแกน เน้นเรื่องการตลาดโดยเน้นไปทางสื่อโซเชี่ยลที่กำลังได้รับความนิยมเหมาะสมกับยุคปัจจุบันในโลกดิจิตัล ซึ่งรายได้ของ ลิเวอร์พูล ก็มาจากส่วนนี้เหมือนกัน อีกทั้งแฟนบอลก็จะยังมีส่วนร่วมกับสโมสรได้ทุกเมื่อไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน 
	ทำความรู้จัก ซีอีโอคนใหม่ ลิเวอร์พูล ฝีมือไม่ธรรมดา 
	    เมื่อเรื่องในสนามและผลงานเป็นหน้าที่ของ คล็อปป์ และทีมงานสตาฟฟ์ สิ่งที่ โฮแกน พยายามจะทำ นั่นคือการสร้างรายได้และการค้า ซึ่งรายได้นั้นมันก็จะกลับไปยังสโมสร 
	ในช่วงที่ โฮแกน ทำงานกับลิเวอร์พูล เขาสร้างรายได้เชิงพาณิชย์ต่อปีให้กับสโมสรเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวถึง 136 ล้านปอนด์ ซึ่งอำนาจทางการเงินที่ดีนี้ช่วยให้เจอร์เก้น คล็อปป์ นำไปใช้ปรับปรุงซื้อผู้เล่นเข้ามาในทีม 
	    ช่วงที่สัญญาระหว่าง นิว บาลานซ์ กับ ลิเวอร์พูล ใกล้จะหมดลง ก็มีคำถามเกิดขึ้นมาสโมสรจะทำอย่างไรต่อ ซึ่ง โฮแกน ก็เลี่ยงที่จะตอบแบบตรงๆ โดยบอกเพียงว่า "เราจะยังไม่ให้ความเห็นใดๆเกี่ยวกับเรื่องสัญญาที่จะหมดลง ถึงเวลาที่เหมาะสมเมื่อไหร่เราจะมาพูดเรื่องนี้กันอีกที" 
	    แน่นอนครับ ในดีลกับ ไนกี้ เจ้าใหม่ ล่าสุดนี้ คนที่เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญในการเจรจา จนทำให้แบรนด์ระดับโลกเซ็นสัญญาเป็นผู้ผลิตชุดแข่งให้กับทีม ซึ่งเป็นไปได้ว่า ลิเวอร์พูล จะได้รับเงินถึงปีละ 80 ล้านปอนด์ 
	ทำความรู้จัก ซีอีโอคนใหม่ ลิเวอร์พูล ฝีมือไม่ธรรมดา 
	    "หลังจากได้รับเกียรติให้ทำงานร่วมกับสโมสรแห่งนี้มานานเกิน 8 ปี ผมก็ถือว่าเป็นเกียรติอย่างมากที่จะได้เป็นประธานบริหารของทีม และจะได้สานต่องานอันยอดเยี่ยมที่ทุกคนในองค์กรทำร่วมกันมาจนถึงตอนนี้ ผมขอขอบคุณ จอห์น (ดับเบิ้ลยู เฮนรี่), ทอม (เวอร์เนอร์) และ ไมค์ (กอร์ดอน) สำหรับโอกาสในครั้งนี้ที่ทำให้ผมได้นำองค์กรเข้าสู่ช่วงต่อไปของเรื่องราวอันน่าตื่นเต้น" โฮแกน กล่าวแบบเป็นเกียรติสุดๆ หลังได้รับตำแหน่งนี้ต่อจาก มัวร์ 
	    แฟนหงส์มั่นใจได้เลยว่า บิลลี่ โฮแกน คนนี้ จะพา ลิเวอร์พูล เดินหน้า ก้าวไกลในด้านธุรกิจ แบบติดปีกแน่นอน 
 
	เพิ่มเติม : puntoecuador.com 
 
 
 
 
                              
 
  |