ด้วยสกอร์ 0-0 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเกมผ่าเมืองแมนเชสเตอร์ที่ไม่ค่อยได้อรรถรส
ปัจจัยส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการขาดหายไปของเหล่าแฟนบอลทั้งฝั่ง ‘เรด อาร์มี่’ และ ‘ซิตี้เซนส์’ ที่ยังคงโดนสั่งห้ามเข้าสนาม เนื่องจากเขตแมนเชสเตอร์ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19
กอปรกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ลงไปเล่นแบบรัดกุมตามคำสั่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ดูเหมือนจะเน้นเอาแต้มมากกว่าเอามัน ซึ่งส่วนหนึ่งคิดว่าเขาคงไม่อยากให้ทีมพลาดท่าต่อเนื่องจากเกมกลางสัปดาห์บนเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
แค่การจัดทีมลงสนามก็มั่นใจในเรื่องนั้นได้ระดับหนึ่ง เพราะทาง โซลชา อัดแดนกลางลงไปถึง 4 ราย ซึ่งเขาพยายามปิดกั้นพื้นที่ของ เควิน เดอ บรอยน์ ตัวทำเกมระดับโลกของ เรือใบสีฟ้า
พร้อมกับพื้นที่ด้านในยามที่บรรดาปีกทั้งสองฝั่งอย่าง รียาด มาห์เรซ และ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ตัดเข้ากลาง ซึ่งถือว่ามันได้ผลและไม่ค่อยเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนสร้างจังหวะจะแจ้งมากนัก
โดยทางกุนซือชาวนอร์เวย์คอยอาศัยแผนตีหัวเข้าบ้านด้วยการใช้จังหวะสวนกลับและความเร็วของแนวรุกอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ เมสัน กรีนวูด เล่นงาน นอกจากนั้นยังมีลูกตั้งเตะที่เจ้าตัวยอมรับว่าซ้อมมาพอสมควรเพื่อเอาไว้ใช้จัดการอริร่วมเมือง
จะเห็นได้จากจังหวะเตะมุมหลายๆ ครั้งในครึ่งแรกที่เกือบเล่นงานลูกทีม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ให้หงายเก๋ง อาทิ ลูกชาร์จเสาไกลของ SAGAME66 ที่เข้าถึงช้านิดเดียว หรือการเติมเกมโหม่งของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ
ส่วนทีมเยือนก็ยังคงเล่นตามรูปแบบของพวกเขาในการ ‘เพรสซิ่ง’ สูงและกดดันฝ่ายตรงข้าม อาศัยการตัดบอลหรือขึ้นเกมเร็วโดยมี เดอ บรอยน์ เป็นศูนย์กลาง หรือใช้งานความเร็วของสามแนวรุกที่คอยเล่นงานแนวรับ ปิศาจแดง
mobilitynorthernireland.com
|