ราคาทองคำร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่าทศวรรษในวันอังคาร 123bet เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังทองคำปรับตัวสูงขึ้น 9 สัปดาห์ และทำลายสถิติติดต่อกันหลายสัปดาห์แล้ว ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าด้วย ทำให้นักลงทุนเทขายกันโดยในระหว่างการซื้อขาย ราคาทองคำโกลด์สปอต ได้ร่วงลงไปเกือบ 300 ดอลลาร์ ภายในวันเดียวจากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 4,381.21 ดอลลาร์ ลงมาแตะที่ราคา 4,090.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นการปรับลดภายในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 อย่างไรก็ตาม ราคาได้กระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อยมาอยูที่ 4,115.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ - 5.5% แต่กระนั้นก็เป็นการร่วงลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 ขณะที่ราคาทองคำโกลด์ฟิวเจอร์ ปิดตลาดลดลง 5.7% สู่ระดับ 4,109.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์การปรับลดอย่างรุนแรงในครั้งนี้เป็นผลมาจากการเทขายทำกำไร หลังจากที่ราคาปรับขึ้นต่อเนื่องมาหลายวัน ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นด้วย โดยดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐ ได้เพิ่มขึ้น 0.4% ทำให้ทองคำแท่งมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นๆทำให้คนไม่เข้าซื้อทองคำ
ทางด้าน ไท หว่อง เทรดเดอร์โลหะอิสระให้ความเห็นว่า 123bet ราคาทองคำที่ร่วงลงเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แต่ความผันผวนที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้เกิดความระมัดระวัง และอาจกระตุ้นให้เกิดการขายทำกำไรในระยะสั้นนอกจากนั้น การเทขายทองคำครั้งนี้สอดคล้องกับช่วงที่ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเริ่มผ่อนคลายลง เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนดูเหมือนจะคลี่คลายลง โดยทั้งสองฝ่ายมีกำหนดจะบรรลุข้อตกลงก่อนเส้นตายภาษีศุลกากรในวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้แม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงอย่างมากในวันอังคาร แต่กระนั้น ทองคำก็ยังคงเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปี 2568 โดย ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,381.21 ดอลลาร์เมื่อ วันจันทร์ และปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 60% ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ การคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ย และแรงซื้ออย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางนอกจากนั้น ในขณะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ธนาคารและนักวิเคราะห์รายใหญ่ยังคงเพิ่มมุมมองต่อทองคำ โดยคาดการณ์ว่าความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้ความต้องการและราคาทองคำสูงขึ้น นักลงทุนบางราย รวมถึง HSBC ได้ตั้งเป้าหมายราคาไว้ที่ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์สำหรับปีหน้า
|