หลังจากกลับมาอยู่ในพื้นที่สื่ออีกครั้ง เนื่องจากการยกเลิกสัญญากับ มาริติโม ทีมในลีกโปรตุเกส สำหรับ ฟาอิค โบลเกียห์ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่รวยที่สุดในโลก ชาวบรูไน
สำหรับ ฟาอิค โบลเกียห์ วัย 23 ปี เกิดที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เขามีศักดิ์เป็นหลานของสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ หรือกษัตริย์ของประเทศบรูไนคนปัจจุบัน ซึ่งพ่อของเขาก็คือ เจ้าชายเจฟรี โบลเกียห์ น้องชายคนเล็กของพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัลนั่นเอง
ฟาอิค โบลเกียห์ สมัยเป็นแข้งเยาวชนเลสเตอร์ ซิตี้ (ซ้าย) และคุณลุง สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ (ขวา)
และจากการที่เขาเป็นหลานชายแท้ๆ ของสุลต่านฮัสนัล โบลเกียห์ ที่ล่าสุดนิตยสาร Forbes เผยว่ามีทรัพย์สินอยู่ที่ 25,000 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 8.33 แสนล้านบาท จากการครอบครองกิจการธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติทั้งหมดของประเทศ ทำให้ ฟาอิค ได้ชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลที่มีฐานะทางบ้านร่ำรวยที่สุดในโลกไปโดยปริยาย
ฟาอิค โบลเกียห์ สมัยเด็ก ถ่ายกับคุณพ่อ เจฟรี โบลเกียห์
อย่างไรก็ดี ฟาอิค โบลเกียห์ แม้จะได้ชื่อว่าเกิดมาบนกองเงินกองทอง แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยมีข่าวกับการถือตัวและใช้จ่ายมหาศาลกับสิ่งใดๆ เนื่องจากเจ้าตัวมีความต้องการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้พุ่งเป้าไปที่การฝึกซ้อมลูกหนังอย่างเดียว แถมยังแทบไม่เคยบอกใครว่าตัวเองเป็น 1 ใน "เจ้าชาย" เสียด้วย และนั่นทำให้เจ้าตัวดูจะเป็นเชื้อพระวงศ์คนเดียวของบรูไนที่ไม่มีตำแหน่งใดๆ ในการบริหารประเทศเลย
แตกต่างจากผู้เป็นบิดา เมื่อ เดอะ ซัน สื่อจอมแฉแห่งประเทศอังกฤษ เคยรายงานว่า เจฟรี โบลเกียห์ คุณพ่อของ ฟาอิค เคยใช้เงินสูงถึง 45 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,500 ล้านบาท) ภายใน 1 เดือน ไปกับการซื้อรถหรู, นาฬิกา และ ปากกา นอกจากนี้ยังมีการใช้เงิน 1.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 40 ล้านบาท) เพื่อจัดงานปาร์ตี้กับสาวๆ มาแล้ว
เจ้าชายเจฟรี โบลเกียห์ ในนิตยสาร Vanity Fair เมื่อปี 2011
โดยปัจจุบัน เจฟรี โบลเกียห์ มีรถยนต์สะสมมากกว่า 2,000 คัน นำมาโดยยี่ห้อดังครบครันอย่าง โรลส์-รอยซ์, เฟอร์รารี และ เบนท์ลีย์ รวมถึงมีเรือยอชต์อีก 2 ลำ ที่ใช้ชื่อว่า "Nipple 1" และ "Nipple 2" และอีกเรื่องที่ยังเป็นที่เล่าขานมาจนทุกวันนี้ก็คือในงานฉลองครบรอบอายุ 50 ปี ได้มีการทุ่มเงินจ้าง "ราชาเพลงป็อป" ไมเคิล แจ็กสัน มาร้องเพลงในงานวันเกิดด้วยเงินสูงถึง 12 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 400 ล้านบาท) เมื่อปี 2004
จากนี้ก็ต้องมาเฝ้าดูกันต่อไปว่า เส้นทางอาชีพพ่อค้าแข้งของ ฟาอิค โบลเกียห์ จะดำเนินต่อไปอย่างไร? เจ้าตัวจะถอดใจจนกลับไปใช้ชีวิตในฐานะเชื้อพระวงศ์ หรือจะหาสโมสรใหม่จนกว่าจะแจ้งเกิดในสนามหญ้าได้เสียทีกันแน่
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวแวดวงกีฬา เทรนใหม่ๆ ได้ที่ blazingbedstanning.com
|