แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี ระบุ ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าน่าขันที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล พาดพิงเรื่องที่ซัมเมอร์นี้ทีมของตนใช้เงินซื้อนักเตะไปเยอะ เพราะหลายๆ ฤดูกาลก่อน "หงส์แดง" ก็จ่ายเงินไปกับการช็อปแข้งมากมายก่ายกอง
แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตอบโต้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ที่พาดพิงเรื่องการทุ่มเงินเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ของ "สิงโตน้ำเงินคราม" ทั้งที่จริงๆ แล้ว "หงส์แดง" ก็ทุ่มเงินไปกับการซื้อนักเตะเยอะสุดๆ ก่อนที่จะมีขุมกำลังอย่างในทุกวันนี้
แม้ว่าฤดูกาลก่อน ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์ลีกไปครองได้ แต่ในช่วงซัมเมอร์นี้มีบางฝ่ายมองว่าพวกเขากำลังทำพลาดที่ไม่เสริมทัพมากเท่าที่ควร โดยจนถึงตอนนี้มีเพียง คอสตาส ซิมิกาส ที่เป็นแข้งรายใหม่ของทีม ซึ่งที่จริง "หงส์แดง" มีข่าวกับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์ บาเยิร์น มิวนิค อย่างหนักในช่วงหลายวันก่อนด้วย แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้มาร่วมทัพ ในทางกลับกันช่วงซัมเมอร์นี้ เชลซี ใช้เงินเสริมทัพไปแล้วถึงมากกว่า 200 ล้านปอนด์ (ประมาณ 8,200 ล้านบาท)
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ คล็อปป์ เคยให้สัมภาษณ์ว่าช่วงซัมเมอร์นี้ทีมของตนอาจจะไม่ได้ทุ่มเงินเสริมทัพมากเท่าไหร่ทั้งจากด้านผลกระทบของเชื้อไวรัสโควิด-19 และการที่ "หงส์แดง" ไม่ได้มีแนวทางการทำทีมแบบนั้น โดยถึงขั้นบอกด้วยว่า ลิเวอร์พูล ต่างจากบางสโมสรที่มีประเทศหรือผู้มีอำนาจเป็นเจ้าของทีม ซึ่งในกรณีแรกเชื่อว่า คล็อปป์ สื่อถึง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะ "เรือใบสีฟ้า" มี ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป กลุ่มทุนที่นำโดยบริษัทของ ชีคห์ มันซูร์ บิน ซา*** อัล นาห์ยาน สมาชิกในราชวงศ์ของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเจ้าของทีม ส่วนกรณีหลังเชื่อกันว่าเขาพาดพิงถึง เชลซี เพราะตอนให้สัมภาษณ์ คล็อปป์ ใช้คำว่า oligarch ซึ่งเป็นคำที่บางครั้งคนใช้สื่อถึง โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีม เชลซี
หลังจากโดนถามถึงคำให้สัมภาษณ์ของ คล็อปป์ แล้วนั้น แลมพาร์ด ก็ตอบว่า "ผมไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดเลยนะ กลับกันผมคิดว่ามันน่าขบขันนิดๆ มากกว่า เพราะผมคิดว่าเมื่อคุณพูดถึงเจ้าของสโมสรแล้วน่ะ มันก็ไม่สำคัญหรอกว่าพวกเขาจะทำธุรกิจอะไรมาก่อน เรากำลังพูดถึงเหล่าเจ้าของทีมใน พรีเมียร์ลีก ที่ต่างก็ร่ำรวยมากๆ กันอยู่"
"ผมคิดว่าเรื่องราวของ ลิเวอร์พูล เป็นเรื่องราวที่น่าทึ่งกับการที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ อยู่ที่นั่นมาราว 4 ปีครึ่งถึง 5 ปี แล้วสามารถทำการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยมได้เป็นอย่างดี และที่จริงผมก็พูดแบบนี้หลายครั้งตั้งแต่ฤดูกาลก่อนแล้ว และความเป็นจริงก็คือในยุคนี้น่ะแทบทุกทีมที่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ต่างก็ทำการเสริมทัพได้ดีและใช้เงินกับการสร้างทีมไปเยอะกันทั้งนั้น อาจจะยกเว้นแค่ เลสเตอร์ ซิตี้ เอาไว้ 1 ทีม ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจสุดๆ ในรายของ ลิเวอร์พูล คุณสามารถไล่ชื่อได้เลย ไม่ว่าจะเป็นนักเตะอย่าง ฟาน ไดค์, ฟาบินโญ่, เกอิต้า, มาเน่, ซาลาห์ หรือนักเตะชั้นยอดอีกหลายคนของพวกเขาต่างก็ย้ายไปอยู่กับที่นั่นด้วยค่าตัวสูงสุดๆ กันทั้งนั้น"
"นั่นหมายความว่า ลิเวอร์พูล ใช้เงินไปเยอะแล้วเหมือนกัน และพวกเขาก็ทำอย่างนั้นตลอดช่วงที่ผ่านมา ส่วนการทุ่มเงินเสริมทัพของเรามันเกิดขึ้นหลังจากที่เราพ้นโทษห้ามทำการเสริมทัพ ซึ่งที่จริงนั่นอาจจะเป็นช่วงที่เปิดโอกาสให้เราได้พยายามจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ด้วยตัวเราเองเพื่อทำให้เราเก่งขึ้นเหมือนกัน"
"ดังนั้นผมจึงคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ และผมคิดว่าเราทุกคนต่างก็รู้ดีว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งคำนวณตัวเลขมากเกินไปด้วย เพราะผมรู้ดีว่า ลิเวอร์พูล ใช้เงินไปเยอะมากๆ เรารู้ดีว่าพวกเขามีโค้ชที่เก่ง เรารู้ดีว่าพวกเขามีนักเตะชั้นยอดเยอะแยะ และผมคิดว่าสิ่งที่ ลิเวอร์พูล ทำได้ดีคือการเชื่อในตัวโค้ชของพวกเขา, เชื่อมั่นในระบบของพวกเขาเป็นเวลาหลายปี ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยม แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นเรื่องราวที่เกิดจากการใช้เงินกับการซื้อนักเตะไปเยอะเหมือนกัน ส่วนในช่วงซัมเมอร์นี้เราใช้เงินไปกับการเสริมทัพอย่างเต็มที่ และตอนนี้เราก็ต้องทำงานกันให้ดี"
เพิ่มเติม : hwdesign.net
|