[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
เมนูหลัก
หน่วยงานในวิทยาลัย
ข้อมูลพื้นฐานวิทยาลัย
งานนโยบายและแผนฯ
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 84 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
หน่วยงานต่างๆ
poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก



 

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
หลังเกม สิงโตคำราม เชือด โคนม เข้าชิงครั้งแรกในประวัติศาสตร์   VIEW : 712    
โดย ฟ้าใหม่

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1213
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 28
Exp : 29%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 1.2.170.xxx

 
เมื่อ : พุธ ที่ 14 เดือน กรกฏาคม พ.ศ.2564 เวลา 17:20:17    ปักหมุดและแบ่งปัน

ฟุตบอล ยูโร 2020 รอบ 4 ทีมสุดท้าย

คืนวันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2021 

อังกฤษ 2-1 เดนมาร์ก

สนาม: เวมบลีย์ (ลอนดอน ประเทศอังกฤษ)

 

1. เดนมาร์ก แก้เกมผิดพลาด

เกมนี้ต้องบอกว่าช่วง 70 นาทีแรกนั้น เดนมาร์ก แม้จะครองบอลได้น้อยกว่าแต่พวกเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมดูไม่เป็นรอง อังกฤษ เลยแม้แต่น้อย

โดยเฉพาะในช่วง 45 นาทีแรก ที่เป้นฝ่ายสร้างโอกาสเข้าทำแบบหวาดเสียวได้มากกว่าเจ้าถิ่นเสียด้วยซ้ำ กระทั่งนาทีที่ 67 ฮูลมันด์ ตัดสินใจถอดกองหน้าออกแล้วเสริมผู้เล่นในแดนกลางเข้าไปแทน

นั่นทำให้เกมรุกของพวกเขาลดความอันตรายลงไปมากพอสมควร จนทำให้เกมของ อังกฤษ ดูดีขึ้นมาทันตาเพราะแทบไม่ถูกกดดันบริเวณหลังบ้าน จึงสามารถเปิดเกมบุกเข้าใส่ได้แบบเต็มตัว นวดไปนวดมา ๆ จนมาได้จุดโทษเป็นที่มาของประตูชัยในที่สุด

 

2. อังกฤษ เสียประตูแรกด้วยฟรีคิกแรกของ ยูโร 2020

ประตูออกนำ 1-0 ของ เดนมาร์ก จากฟรีคิกของ มิกเคล ดัมสการ์ด นั้นนอกจากจะเป็นการเจาะประตูทีมชาติอังกฤษได้เป็นลูกแรกในทัวร์นาเมนต์นี้แล้ว ยังเป็นลูกยิงฟรีคิดโดยตรงเข้าประตูเป็นลูกแรกในศึกยูโร 2020 อีกด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นลูกยิงที่งามหมดจดลูกหนึ่งของรายการนี้เลยทีเดียว

 

3. สเตอร์ลิง ตอบแทนความไว้วางใจ เซาธ์เกต

แน่นอนว่าต้นเกมหลายคนยังคงตั้งคำถามถึงการโรเทชั่นในแนวรุกที่ทุกคนต่างผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันลงสนามเว้นเสียแต่ลูกรักอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ยังคงได้รับโอกาสลงสนามเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งวันนี้เจ้าตัวจัดว่าเล่นได้ค่อนข้างดีในช่วง 45 นาทีแรกแถมยังไล่กดดัน ซิมอน เคียร์ จนต้องสกัดเข้าประตูตัวเองไป แต่หลังจากครึ่งเวลาหลังก็แทบจะหายไปจากเกมอย่างสิ้นเชิง กระทั่ง เซาธ์เกต ตัดสินใจส่ง กรีลิช ลงสนาม เชื่อว่า ณ เวลานั้นหลายคนคนเกาหัวกันบ้างกับการเปลี่ยนคนทำแอสซิสต์ ซาก้า ออกและเก็บ สเตอร์ลิง ที่บทบาทค่อนข้างน้อยเอาไว้จนครบ 90 นาที

แต่แล้วช่วงต่อเวลาพิเศษหลังจากเงียบไปนาน ในที่สุดเขาก็แผลงฤทธิ์อีกครั้งด้วยการลากเดียวแหวกกระจายจนเรียกจุดโทษให้ทีมได้สำเร็จ ตอบแทนความไว้วางใจของนายใหญ่ เซาธ์เกต พาทีมเข้าชิงได้อย่างสวยสดงดงามเลยทีเดียว

 

4. คู่ชิงในฝัน อังกฤษ มาไกลสุดในประวัติศาสตร์

เป็นไปตามคาด ในที่สุด อังกฤษ เต็ง 1 ณ เวลานี้ก็สามารถเข้าไปชิงชนะเลิศกับ อิตาลี คู่ชิงที่ดูจะสมศักดิ์ศรีที่สุดแล้วสำหรับชั่วโมงนี้ และแน่นอนว่ายากจะคาดเดาผลการแข่งขันเพราะทั้งสองทีมต่างทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ทัพสิงโตคำราม ยังทำสถิติเข้าชิงชนะเลิศในศึก ยูโร ได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ชาติ เพราะก่อนหน้านี้พวกเข้าทำได้ดีที่สุดเพียงแค่รอบ 4 ทีมสุดท้ายในปี 68 และปี 96 แต่แน่นอนแม้จะมาไกลมากกว่าทุกๆ ครั้ง แต่เชื่อได้เลยว่าแฟนบอล ทรีไลออน คงหวังไปไกลถึงการชูถ้วยครั้งแรกคืนวันอาทิตย์นี้แล้วอย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวแวดวงกีฬา เทรนใหม่ๆ  ได้ที่   

barbizon-angelus-immo.com





วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
237 หมุู่ 8 ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ 38170 โทรศัพท์ 042-086002 โทรสาร 042-086002