สุดอาลัย! ร่วมอาลัยอำลาส่งร่าง สารวัตรศิว
ช่วงบ่ายของวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่ผ่านมามีพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรทางหลวงที่ถูกยิงเสียชีวิต โดยมีนายตำรวจระดับผู้บัญชา เพื่อน และญาติมาร่วมอาลัย ซึ่งบรรยากาศระหว่างร้องเพลงนี้ ทำเพื่อนตำรวจ รวมถึงแขกที่มาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ต่างก็สะเทือนใจและร่ำไห้ด้วยความอาลัย
ขณะเดียวกัน ระหว่างมีการอ่านคำไว้อาลัย พบว่า สารวัตรศิว ไม่ได้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ โดยก่อนจะเสียชีวิต สารวัตรศิวได้พูดว่า “ผมยังตายไม่ได้ ผมมีลูกน้องที่ต้องดูแล” และนั่นก็เป็นคำพูดสุดท้ายของ สารวัตรศิว ก่อนจะสิ้นลมหายใจ
ด้านพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ได้พูดถึงสารวัตรศิว ว่าเป็นคนตรงไป ตรงมา และเป็นเรื่องของนโยบาย ที่มีการปราบปรามไปแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อมีงานเลี้ยง และผู้บังคับบัญชาโทรศัพท์มา เพื่อให้สารวัตรศิวไปร่วมงาน จึงถือว่าได้ทำหน้าที่ของตัวเองจนนาทีสุดท้าย การที่ผู้บังคับบัญชาชวนไปพูดคุย ยังถือเป็นหน้าที่ราชการ และยังอยู่พื้นที่
โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกอีกว่า ผู้บังคับบัญชาทุกคนก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่จะทำให้ได้ คือ การทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ และคืนความยุติธรรมให้ข้าราชการตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ตามที่ได้รับปากเอาไว้กับ สารวัตรศิว ก่อนจะสิ้นลมหายใจ พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ ต้องดำเนินการต่อ
“ผมอยู่กับสารวัตรศิวจนวาระสุดท้ายของชีวิตนะครับ สิ่งหนึ่งที่เราทำได้คือการทำให้กฎหมายมันศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็เรื่องของการคืนความยุติธรรมให้กับข้าราชการตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมพูดกับสารวัตรศิว ตอนที่ถอดเครื่องหายใจแล้ว ผมบอกว่าพี่ๆ น้องๆ ผมเอามือลูบหัว พี่ๆ น้องๆ จะทวงความเป็นธรรมให้ วันนี้เราก็ได้ทวงให้เขาแล้วไปส่วนหนึ่ง ซึ่งหนังเรื่องนี้มันยังไม่จบ ต้องว่ากันต่อ”พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
ส่วนการดำเนินคดีกับตำรวจที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ จะถูกดำเนินการทุกคน แต่จะมีการแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มที่ช่วยเหลือสารวัตรศิว และ รองผู้กำกับ ส่งโรงพยาบาล กลุ่มที่สอง กลุ่มที่ช่วยเหลือผู้ต้องหา และกลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มข้าราชการตำรวจที่หลบหนีเอาตัวรอด
|