ซีรีส์ไทย มาแรง Bangkok Breaking ออริจินัล ซีรีส์ไทย เรื่องที่สองจาก Netflix ที่สร้างความน่าสนใจให้กับซีรีส์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อฉากหลังของเรื่องคือกรุงเทพฯ ที่สามารถเชื่อมโยงกับผู้ชมได้ไม่ยาก และยังเสริมให้พล็อตเรื่องที่ตัวละครหลักอย่าง วันชัย (เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ) ต้องเข้ามาเป็นหนึ่งในอาสาสมัครกู้ภัยเพื่อเปิดโปงความลับอันดำมืดยิ่งน่าสนใจมากกว่าเดิม
เนื้อเรื่อง Bangkok Breaking มหานครเมืองหลวง
ซีรีส์ไทย จากทุนสร้าง Netflix โดยตรงเรื่องที่ 3 ต่อจาก เคว้งกับเด็กใหม่ซีซั่น 2 (ซีซั่นแรกฉายลงทีวีก่อนมาฉายเน็ตฟลิกซ์) โดยเป็นผลงานกำกับกับเขียนบทของ โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ ผู้กำกับที่ถนัดแนวทริลเลอร์ สยองขวัญ หรือกระทั่งดราม่าหนักๆ ก็ยังได้ โดยมี ปราบดา หยุ่น นักเขียนที่เข้ามาวงการบันเทิงเต็มตัวครั้งแรกเป็นผู้อำนวยการสร้าง และได้ 2 นักแสดงฝีมือ เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ กับ ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง มารับบทนำ Bangkok Breaking เป็นเรื่องราวของ “วันชัย” หนุ่มบ้านนอกที่ตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตามคำแนะนำของพี่ชาย ที่มีงานอย่างหนึ่งจะให้เขาช่วยทำ ส่วนตัวเขาเองไม่ได้เจอพี่ชายมานานแล้ว ก็เลยอยากจะมาอยู่กับพี่ชายเพื่อหาเงินส่งกลับบ้าน แต่แล้วชีวิตในเมืองหลวงที่วันชัยวาดฝันก็ต้องพังทลายลงตั้งแต่คืนแรกที่เท้าเหยียบกรุงเทพฯ เมื่อเขาดันเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด ที่แย่ไปกว่านั้น เขาสูญเสียพี่ชายที่ไม่ได้เจอกันมานานไป โดยที่ไม่ได้คุยอะไรกันสักคำ เขาสงสัยว่าเหตุการณ์นั้น พี่ชายเขาจากไปทั้งที่เป็นแพะรับบาป จึงถูกสังคมตั้งคำถามมากมาย หลังจากนั้นอีกไม่นาน เขาก็พบว่าภายใต้แสงสีของเมืองหลวงนี้ มีความลับเลวร้ายซ่อนอยู่ เรื่องเลวร้ายกว่าที่คิด เขาจึงต้องเข้ามาเป็นหนึ่งในอาสาสมัครกู้ภัยอย่างไม่ได้ตั้งใจมากนัก เพื่อต้องทำบางอย่างทั้งที่ไม่อยากทำ ระหว่างนั้น เขาได้ร่วมมือกับ “แคต” นักข่าวสาวไฟแรงสุดห่ามและบ้าระห่ำ เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกปกปิดจากพวกผู้มีอิทธิพล เปิดโปงโฉมหน้าซาตานในคราบนักบุญ และเปิดโปงมูลนิธิกู้ภัย องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่บอกว่าอาสาทำประโยชน์เพื่อสังคมนั้นเป็นเรื่อหลอกลวงสิ้นดี
รีวิว ซีรีส์ไทย มาแรง หลังดูจบ
Bangkok Breaking มหานครเมืองลวง มีหลากหลายเรื่องมาก แน่นอนว่าเรื่องแรกคือมุมมองภาพของเมืองกรุงเทพ ซึ่งเป็นเมืองที่มีทั้งสีสัน ความหลากหลายในทุก ๆ ด้าน แต่ในขณะเดียวกันก็นับได้ว่าเป็นเมืองที่น่ากลัวและอันตราย ถ้าพูดให้เห็นภาพได้ชัดเจนมันก็เป็นเหมือน ‘หยินหยาง’ ที่มีทั้งขาวดำในตัวเอง
จุดเด่นของซีรีส์
เป็นภาพยนตร์ที่พยายามตีแผ่ความดาร์ก ในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยแสงสีที่สวยงาม ตั้งแต่ระดับนักธุรกิจใหญ่ นักธุรกิจสื่อ อาสากู้ภัย มาเฟียค้ายา ไปจนถึง พริตตี้ที่ผันตัวเป็นภรรยาน้อย เรียงร้อยมาเป็นรูปแบบของบทภาพยนตร์ซีรีส์ถึง 6 ตอน มีมุมมองและแง่คิดแอบแฝงไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกที่จะความดี-ความเลว หน้าที่กับความรับผิดชอบ ไปจนถึงความรักความเสียสละ ใครที่ชอบหนังที่แนวสูตรสำเร็จ จากพระเอกตกยากไปสู่ฮีโร่ที่มีชื่อเสียง เป็นคนดังของสังคม ขณะที่ตัวเองต้องหาทางต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมต่าง ๆ ชนิดดิ้นรนกันไปสุดทาง ก็คงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง สำหรับตัวละครที่โดดเด่นที่สุด เล่นได้ดีมากจนขโมยซีนเด่น ๆ ไปเพียบ ก็ต้องยกให้บทตัวร้ายอย่าง “ฮาร์ดคอร์” หรือ “หนึ่ง-ภาสวร บวรกีรติ” หัวหน้ามาเฟียตัวแสบกับรถตู้คู่ใจ ที่ไม่ว่าจะปรากฏตัวในฉากไหน สีหน้าและอารมณ์ยียวนกวนประสาท กลับแอบแฝงไว้ด้วยสายตาที่อํามหิตเสมอ
จุดอ่อนของซีรีส์
พล็อตเรื่องเดาทางได้ง่ายมาก มาแนวละครทีวีแต่แรกแล้ว ลองคิดถึง “พระเอก” ที่เป็นคนซื่อ ๆ ตรงไปตรงมา เผอิญอยู่ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่สามารถช่วยเหลือ “นางเอก” ขณะเดือดร้อนได้เรื่อย ๆ จนทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกัน เกิดเป็นการปิ๊งปั๊งรักกัน จากนั้นก็ร่วมมือกันต่อสู้กับฝ่ายผู้ร้ายที่ทำเลวไว้มากมาย สิ่งเหล่านี้คือ “สูตรสำเร็จ” ที่ไม่ได้มีความแปลกใหม่แต่อย่างใด สามารถหาดูได้ตามละครทีวีปกติทั่วไป ขณะที่บทดราม่าในหลาย ๆ กลับไม่โดดเด่น หรือไปไม่สุด เช่น ความรักของพ่อลูก ความสูญเสียของพี่ชาย หรือแม้แต่ความโรแมนติก ความจิ้นของคู่รักพระเอกนางเอกเองก็ตาม ไม่ได้ถึงขึ้นฟินจิกหมอน หรือ ลุ้นอะไรเลย มีความเนือย ๆ ให้เห็นประจำ นอกจากนี้ยังมีช่องว่างของเนื้อหาที่ยังไม่ได้ถูกเปิดเผยอีกหลายแง่มุม เช่น ประเด็น “โจรกลับใจ” ซึ่งไม่ได้มีการอธิบายให้เกิดความกระจ่างหรือบทเสริมขึ้นมา จนเกิดความสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
สรุป
Bangkok Breaking มหานครเมืองลวง สรุปแล้วเป็นซีรีส์ไทยที่ดีมาก ๆ พระนางและตัวละครเสริมต่าง ๆ มีบทบาทคาแรคเตอร์ชัดเจน Production ปังภาพคมชัด สีสวยทำให้อรรถรสนั้นเกินต้านมาก แต่ฉากที่มี CG ก็ดูไม่เนียนไม่เท่าไหร่ พล็อตหนังมีสูตรเดิม ๆ สามารถเดาทางได้เป็นฉาก ๆ ฟิลแบบดูเพลิน ๆ ไม่ได้คิดตามหรือน่าตื่นเต้นเท่าไหร่ และไม่ค่อยมีฉากพีคจุดไคลแมกซ์ของเรื่องให้ว้าวเลย โดยรวมก็เรียกว่าเป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่ดูเพลิน ส่องเสพ Production แบบปัง ๆ และในฉากปิดของเรื่องก็มีการทิ้งฉากที่เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่น่าจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นใน Season2 เรียกว่าน่าติดตามต่อมาก ๆ
รับชมผ่านช่องทางไหน?
รับชมผ่านช่องทาง Netflix
ซีรีส์มีความยาวเท่าไหร่?
ความยาว : 6 ตอน / ตอนละ 1 ชั่วโมง
ซีรีส์เป็นแนวไหน
แนว: แอ๊คชั่น-ดราม่า
ติดตามข่าวสารหนังน่าดูได้ที่ movies.doodido.com
หรือ ดูหนัง ออนไลน์ได้ฟรีที่ moviesdoofree.com
ขอบคุณแหล่งที่มาเพิ่มเติม http://thestandard.co
ขอบคุณแหล่งที่มารูปภาพ ภาพที่ 1 http://www.matichon.co.th
ภาพที่ 2 http://www.matichon.co.th
|