[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
เมนูหลัก
หน่วยงานในวิทยาลัย
ข้อมูลพื้นฐานวิทยาลัย
งานนโยบายและแผนฯ
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 84 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
หน่วยงานต่างๆ
poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก



 

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
หนังDC ภาพยนตร์ฝ่าฟันวิกฤติ ‘The Flash’  VIEW : 128    
โดย ลูกเกด

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 21
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 3
Exp : 73%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 49.228.242.xxx

 
เมื่อ : จันทร์ ที่ 17 เดือน กรกฏาคม พ.ศ.2566 เวลา 16:01:52    ปักหมุดและแบ่งปัน

หนังDC นับเป็นอีกหนึ่งหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ผู้คนรอคอยกันยาวนาน หลัง DC Comics จัดหนังภาคแยกให้กับทุกตัวละครบิ๊กเนมทั้งหลายจนหมดแล้ว จะเหลือก็แต่ ‘The Flash’ ที่ยังไม่มีหนังที่เล่าเรื่องราวของตัวเองสักที แถมก่อนหนังจะได้เข้าฉายก็ยังมีข่าวไม่ใคร่จะดีนักกับนักแสดงนำเสียอีก แต่จนแล้วจนรอด หนังก็ได้เข้าฉายอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
หนังDC ภาพยนตร์ฝ่าฟันวิกฤติ ‘The Flash’
เรื่องย่อ ‘The Flash’
แบร์รี อัลเลน หรือ เดอะ แฟลช (Ezra Miller จากหนังเรื่อง ‘Justice League’) จ้าหน้าที่นิติเวชแห่งเซ็นทรัล ซิตี้ เขาอยู่ในโลกที่มีแบทแมน (Ben Affleck จากหนังเรื่อง ‘Gone Girl’ และ ‘The Accountant’) เป็นเพื่อน ในวันที่ก็อตแธมมีภัย เขาคือคนที่อัลเฟรดเลือกมาช่วยเหลือผู้คน แต่ในโลกตอนนี้ ก็ไม่ได้มีแค่แบทแมน แต่ยังมีไดอาน่าหรือวันเดอร์วูแมน หญิงทรงพลังที่ร่วมกอบกู้สถานการณ์อยู่ด้วย
เมื่อกลับมายังเรื่องวุ่นของตัวเอง เขายังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ กับการที่ต้องสูญเสียแม่ไปในอดีต และพ่อก็ยังต้องติดคุกถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร แต่ทั้งหมด ดูจะมีทางออก เมื่อแบร์รีค้นพบว่าสปีดฟอร์ซของตนสร้างทำให้เกิดการย้อนเวลาได้ เขาจึงคิดจะใช้มันเพื่อย้อนและเปลี่ยนอดีตนั้น ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก เมื่อนายพลซ้อด (Michael Shannon จากหนังเรื่อง ‘Take Shelter’ และ ‘Amsterdam’) กลับมาบุกคุกคามโลกอีกครั้ง
แต่ผลพวงของมันก็เป็นไปอย่างที่บรูซ เวย์น เตือนไว้ เมื่อมันส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับไทม์ไลน์ ทำให้แบร์รี่เจอกับแบร์รี่อีกคนที่ไม่มีพลังอะไรเลย และกลายเป็นไทม์ไลน์ที่ไม่มีซูเปอร์ฮีโร่ในไทม์ไลน์เดิมหลงเหลือ จนต้องขอให้แบทแมนในอีกไทม์ไลน์ (Michael Keaton จากหนังเรื่อง ‘Birdman’) มาช่วย แถมได้เจอกับซูเปอร์เกิร์ล (Sasha Calle จากซีรีส์เรื่อง ‘The Young and the Restless’) อีก
รีวิว หนังDC ‘เดอะ แฟลช’
หนังเริ่มด้วยการแนะนำโลกของแบร์รี่ หรือเดอะแฟลช ในไทม์ไลน์ปกติที่เขารู้จักกันก่อน ด้วยภารกิจช่วยชีวิตผู้คนบนตึกที่กำลังจะถล่ม โปรยความสนุกแกมกวนตีนที่ผู้คนหลงไหลและหวังจะได้เห็นจากมนุษย์สายฟ้าคนนี้ ก่อนจะพากลับเข้าสู่ชีวิตส่วนตัวของเขา ผู้ที่ยังเจ็บปวดกับการสูญเสียแม่ไป และพ่อก็ถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกร ขณะที่โลกกำลังเผชิญหน้ากับวายร้ายจากดาวคริปตอน ที่หวนกลับมาเยือนโลกอีกครั้ง แบร์รี่ก็ได้พบหนทางที่จะย้อนกลับยังวันที่แม่ยังอยู่ และเปลี่ยนอดีตทั้งที่รู้ว่าจะทำให้อะไรๆ เปลี่ยน แต่เขาก็ยังเลือกจะทำ
ปมเรื่องพ่อแม่มักอยู่ในตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ดีซี ดังจะเห็นว่า บรูซ เวย์น เองก็อยู่กับเรื่องนี้มาตลอดชีวิต แต่เขาไม่เห็นด้วยกับแบร์รี่ เขาเลือกที่จะปล่อยวางมัน และมองว่าเพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้เขากลายเป็นเขาในวันนี้
แต่แล้ว สิ่งที่บรูซ เวย์น เตือนมาตลอดก็เป็นความจริง การค้นพบว่าพลังซูเปอร์สปีดของเขาสร้างภาวะย้อนเวลาได้ มันทำให้เขาได้ช่วยแม่ได้จริงๆ แต่ก็ทำให้ไทม์ไลน์ดั้งเดิมมันเปลี่ยนแปลงไปด้วย กลับกลายเป็นเขาได้เจอแบร์รี่อีกคนที่เด็กกว่า ทั้งยังได้เจอว่า อะไรๆ มันก็ผิดเพี้ยนไปจากเดิมซะทั้งหมด เหล่าซุปทีมเก่าหายหน้า แต่ก็ยังได้ซุปเก่า พร้อมกับซุปใหม่ มาร่วมรับมือนายพลซ้อดด้วยกัน
หนังพาให้ผู้ชมตื่นตาตั้งแต่ช่วงแรกของหนัง ไม่เพียงมีฉากขำๆ ในการช่วยเหลือผู้คนของเดอะ แฟลช แต่ยังได้พบกับฉากแอ็คชันยาวๆ ของตัวละครที่ผู้คนชื่นชอบ แถมยังมาพร้อมกับเสียงดนตรีประกอบเฉพาะของซูเปอร์ฮีโร่แต่ละตัวด้วย ก่อนจะหันกลับไปเล่าพาร์ตชีวิตของแบร์รี่จนพาให้เกิดเหตุเปลี่ยนความจริงเดิมสู่ความจริงใหม่ และพาทุกคนกลับไปเจอกับแบทแมนเวอร์ชัน ไมเคิล คีตัน ที่เป็นความทรงจำของแฟนดีซี พร้อมกำเนิดตัวละครใหม่ในโลกภาพยนตร์อย่าง ซูเปอร์เกิร์ล พร้อมกับแนะนำนักแสดง ซาช่า แคลล์ ให้ทุกคนได้รู้จัก ซึ่งเธอก็ทำไว้ได้ไม่เลวเลย
มันคือการขมวดรวมเอาทุกสิ่งที่สร้างกันมาสิบกว่าปี ให้กลายเป็นหนังฮีโร่ที่เพียงจุดเล็กๆ กลับก่อให้เกิดเรื่องราวใหญ่ๆ ขึ้นมา หนังผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันอย่างใกล้เคียงความลงตัว ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกความกวนของเดอะ แฟลช,​ การนำตัวละครและนักแสดงคนเก่าที่ผู้คนคิดถึงกลับมา, ฉากการต่อสู้สุดมันที่เหมาะจะได้รับชมในแบบ IMAX 3D แต่ด้านซีจีอาจจะมีบางส่วนที่ทำให้รู้สึกว่า ว้าว โคตรสวย กับบางส่วนที่รู้สึกว่า ไม่ชอบเลย ปะปนกันไป
ใครที่ได้เข้าไปดู ‘เดอะ แฟลช’ ภาคนี้ก็คงจะได้พบเหมือนๆ กันว่า หนังมีเซอร์ไพรส์ให้คนดูได้ตื่นตาตื่นใจอยู่หลายจุด ขณะที่ก็ต้องชื่นชมในความสามารถของ เอซร่า มิลเลอร์ ที่เล่นเป็นแบร์รี่สองคนไว้ได้อย่างดี เป็นสองคนที่ยังมีบุคลิกความเป็นแบร์รี่ แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่อย่างเห็นได้ชัด
สิ่งที่หนังทำได้อีกจุด คือ พาร์ทดราม่าที่มาแม้เพียงสั้นๆ แต่ทุกอย่างที่เล่ามาทั้งหมด ทำให้ช่วงเวลานี้มีพลังพอจะทำให้บ่อน้ำตาออกมาทำงาน
รายละเอียดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้
ชื่อภาพยนตร์     The Flash / เดอะ แฟลช
กำกับ   Andy Muschietti
เขียนบท Christina Hodson, Joby Harold
แสดงนำ Sasha Calle, Ben Affleck, Ezra Miller, Michael Keaton, Michael Shannon
เป็นหนังแนวไหน ?
แนว/ประเภท    แอ็คชัน, ผจญภัย, แฟนตาซี, ไซไฟ
ความรู้สึกหลังจากชมหนังจบ
จากเรื่องเล็กๆ อย่างปมในใจของซูเปอร์ฮีโร่ซูเปอร์สปีดอย่าง เดอะ แฟลช ที่ต้องการนำแม่กลับคืนมา แต่กลับกลายเป็นการสร้างไทม์ไลน์ใหม่ และกลายเป็นหนังมัลติเวิร์สในแบบดีซี หนังมีฉากกวนๆ ของแบร์รี่ นำพานักแสดงและตัวละครเก่าๆ มาเจอกับตัวละครใหม่ ฉากต่อสู้มันและตื่นเต้นดี มีพาร์ทดราม่าให้เสียน้ำตาได้ด้วย แม้จะไม่ชอบซีจีบางช่วงไปบ้างก็ตาม

ติดตามข่าวสารหนังน่าดูได้ที่ movies.doodido.com

หรือ ดูหนัง ออนไลน์ได้ฟรีที่ moviesdoofree.com






วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
237 หมุู่ 8 ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ 38170 โทรศัพท์ 042-086002 โทรสาร 042-086002