ติดตามข่าวสาร ได้ที่ : mydeedees.com
แมวติดสัด ร้องดัง ต้องทำยังไง?
ถ้าจะถามถึงช่วงเวลาที่สุดแสนจะน่าปวดหัวในการเลี้ยงแมวสักตัว คงหนีไม่พ้นช่วงที่เรียกว่าช่วงติดสัดครับ เพราะช่วงนี้น้องแมวของเรานั้นจะมีความต้องการทางเพศ และอารมณ์ที่สูงมาก ทำให้ช่วงนี้แมวจะเริ่มแสดงอาการต่างๆ ออกมามากมาย โดยเฉพาะกับอาการแมวหง่าว หรืออาการร้องของแมวที่เรียกได้ว่าเสียงดังมากๆ โดยเฉพาะกับช่วงเช้านี่ถือได้ว่าเป็นช่วงที่น้องแมวของเรานั้นจะทำงานแทนนาฬิกาปลุก ช่วงเวลาประมาณตี 5 – 6 โมงเช้า บอกเลยครับว่าร้องลั่นทุ่งแน่นอน การที่เราใช้ชีวิตร่วมกับแมวทำงานมาเหนื่อยๆ เพื่อซื้ออาหาร ซื้อทรายแมวมาให้ แทนที่เราจะได้พักผ่อนกลับต้องลุกขึ้นมาดุน้องแทน เล่นเอานอนไม่หลับเลยทีเดียว แถมยังไม่พอครับ น้องแมวของเราก็อาจจะร้องขึ้นมากอีกก็ได้ จึงถือได้ว่าเรื่องนี้นั้นเป็นปัญหาใหญ่เลยครับสำหรับบ้านไหนก็ตามที่คิดที่จะกำลังเลี้ยงแมวแต่ไม่ชอบเสียงดัง รบกวนเวลาพักผ่อนอาจจะต้องมานั่งพิจารณากันอีกที แต่หากคุณยืนยันว่าจะรับน้องมาเลี้ยงให้ได้ ผมก็มีวิธีที่จะจัดการกับน้องๆ ให้อยู่หมัดกับอาการติดสัดและการร้องหง่าวได้ หากคุณพร้อมกันแล้วไปดูกันดีกว่าครับว่าวิธีที่ผมจะพูดถึงในวันนี้คือเรื่องอะไรใน แมวติดสัด ร้องดัง ต้องทำยังไง?
1. พาน้องแมวไปทำหมัน
วิธีแรกเลยคือการพาน้องแมวไปทำหมันครับ ในกรณีที่คุณนั้นไม่อยากให้แมวของเรานั้นมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว เอาแต่ใจมากเกินไป การพาน้องแมวไปทำหมันจึงถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีเลยครับ การทำหมันอาจดูโหดร้ายกับสัตว์เลี้ยง แต่ในความเป็นจริงแล้วเราควรทำหมันน้องไว้ครับหากคุณไม่อยากให้น้องมีพฤติกรรมดังกล่าว แน่นอนว่าสำหรับการทำหมันนั้น บอกได้เลยครับว่าเป็นเรื่องสำคัญมากในการควบคุมปริมาณ และประชากรแมวบนโลก คุณลองคิดดูนะครับ แมว 1 คอกที่คลอดออกมา ไม่ได้ออกมา 1 – 2 ตัว แต่ออกมามากสุด 5 – 6 ตัวเลยครับ นั่นหมายความว่าแมวเหล่านั้นต้องอยู่ในการดูแลของคุณซึ่งนั่นหมายถึงค่ารักษา ค่าอาหาร รวมไปถึงวัคซีนและสิ่งของอื่นๆ มากมาย หากคุณไม่พร้อมที่จะรับสมาชิกเพิ่ม ขอแนะนำเลยครับว่าการทำหมันคือวิธีที่ดีต่อการดูแลสมาชิก และประชากรน้องแมว
2. พาน้องไปผสม
ถ้าทางออกของการทำหมันไม่ใช่สำหรับคุณ และแมวของคุณก็เป็นแมวพันธุ์แท้อีกด้วย ผมขอแนะนำให้พาน้องไปผสมนะครับ ย้ำว่าการผสมนี้ ควรเป็นการผสมที่ตรงกับสายพันธุ์ และควรจะเป็นพันธุ์แท้เท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงแมวเกิดการรกกลายพันธุ์ เพราะปัญหาส่วนใหญ่ของการเลี้ยงแมวที่เราทุกคนแทบจะเจอมาเหมือนกันคือคนมักจะให้ความสนใจไปกับแมวที่เป็นสายพันธุ์แท้มากว่าแมวที่มาเป็นพันธุ์ผสม ทำให้หลายๆ ที่น้องแมวของเรานั้นไม่ได้รับการเลี้ยงดู ทำให้แมวเหล่านั้นบ้างก็อยู่ในฟาร์มจนแก่ บ้างก็ถูกปล่อยเพื่อลดภาระของการให้อาหาร และการค่าใช้จ่ายลง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่แย่มากเลย หากคุณนำน้องไปผสมแล้ว น้องก็จะนิ่งลง อาการสัดในตัวเมียก็จะหายลงไปนั่นเอง ฉะนั้นใครที่ไม่อยากใช้วิธีรุนแรง วิธีนี้ก็ได้ผลครับ แต่ก็ต้องทำใจหน่อยนะครับ เพราะก่อนผสมน้องอาจร้องหนักจนคุณต้องปิดหูนอนลงไปเลยก็ได้
3. เล่นกับน้องให้เหนื่อย
แมวก็เหมือนกับคนนี่แหละครับ ที่หากมีอารมณ์ทางเพศแล้วน้องก็จะหมกมุ่น และรอคอยการได้ปลดปล่อยอีกครั้ง การที่เราจะทำให้แมวหลุดออกจากความรู้สึกนี้ก็สามารถทำได้ครับ คือการเปลี่ยนเรื่องและความสนใจของน้องแมวออกไป หากน้องแมวมีความต้องการทางเพศ ก็ให้พาน้องเล่นครับ ด้วยของเล่น ไม่ต้องไปดุ หรือตีน้อง เล่นจนน้องแมวของเรานั้นรู้สึกเหนื่อยลง เมื่อน้องแมวของเราเหนื่อยก็จะทำให้น้องนอนหลับได้ง่ายขึ้น ไม่รบกวนเราเวลาที่นอนหรือทำกิจกรรมต่างๆ อยู่นั่นเอง โดยการเล่นอาจจะต้องเล่นมากกว่าปกติใช้เวลานาน และเล่นแบบเร็วให้น้องได้ไล่จับ เพราะช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่น้องแมวของเรานั้นจะมีความแอคทีฟที่สูงกว่าปกติ ฉะนั้นแล้ว อยากให้ทุกคนได้ลองพาน้องเล่นดูก่อน ถ้าถึงจุดที่เหนื่อยน้องแมวของเราก็จะหลับไปเองครับ
4. น้องร้องนัก ก็จับมากอดซะเลย
ช่วงเช้าเวลาประมาณ 05.00 – 07.00 น. นี่ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการร้องเลยครับ ทางที่ดีที่ผมสามารถแนะนำให้คุณทำได้คำการเรียกน้องตอนที่น้องร้องออกมา หลังจากที่น้องสบตาเรา น้องแมวก็จะวิ่งเข้ามาหาเราและกระโดดขึ้นเตียงมาใกล้ๆ เรา จากนั้นแมวของเราก็จะนอนลงข้างๆ เวลานี้แหละครับ เราสามารถจับน้องมานอนข้างๆ หรือกอดได้น้องจะไม่ขัดขืน แต่ห้ามแรงมากเกินไป เพราะจะส่งผลให้แมวของเรานั้นเกิดความเครียดได้นั่นเอง ซึ่งจุดนี้ผมก็อยากจะบอกทุกคนไว้ครับว่าห้ามกอดแรงนะครับ เอาพอดีๆ ไม่รัดแน่นจนน้องอึดอัดเกินไปก็พอครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ แมวติดสัด ร้องดัง ต้องทำยังไง? ที่ทาง Petsayhi ได้นำมาฝากกันในวันนี้ ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่บอกได้คำเดียวเลยครับว่าน่าปวดหัวมากสำหรับใครที่อยากเลี้ยงแมว ซึ่งก่อนเลี้ยงผมแนะนำเลยนะครับว่าอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่เวลาเกิดขึ้นแล้วน้องก็จะสร้างความรำคาญอย่างมาก เราผู้เลี้ยงจึงต้องทำความเข้าใจ และหาทางที่จะรับมือกับสิ่งเหล่านี้ให้ได้นั่นเอง
ขอบคุณรูปภาพจาก : petsayhai.com
ขอบคุณแหล่งที่มา : petsayhai.com