อสังหาฯ เมืองท่องเที่ยว ฟื้นหรือฟุบ? เมื่อ 5 เดือน เปิดประเทศ ความสนใจ “ภูเก็ต” วูบ 13%
ภาคการท่องเที่ยว นอกจากจะถูกวางบทบาทเป็น “พระเอก” ของเศรษฐกิจไทย ยังมีความหมายสำคัญสำหรับทิศทางอสังหาริมทรัพย์ที่เคยอยู่ในภาวะหดตัวอย่างรุนแรงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะในหัวเมืองท่องเที่ยว พร้อมๆ กับการหายไปของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีผลผูกพันกันอย่างมาก
ข้อมูลล่าสุดจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ประเทศไทย มียอดนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. – 25 มิ.ย. 2566 ทั้งสิ้น 12,464,812 คน หรือคิดเป็น 539% ช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศแล้ว 5.14 แสนล้านบาท
ขณะในปี 2566 ไทยคาดจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 29.5 ล้านคน และจะมีรายได้จากกลุ่มนี้ประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท ตอกย้ำบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ รวมไปถึงการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วย
เจาะข้อมูลความเป็นไปได้ที่ภาคการท่องเที่ยวจะมีผลต่ออสังหาฯไทย ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพิ่งรายงานข่าวใหญ่เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยพบการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมของคนต่างชาติทั่วประเทศ ณ ไตรมาส 1 ปี 2566 พบว่า หน่วยโอนฯ ทั่วประเทศจากคนต่างชาติขยายตัวมากถึง 79.2% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี
ส่วนมูลค่าก็เพิ่มขึ้น 67.6% นี่เป็นชุดข้อมูลที่ถูกใช้สะท้อนให้เห็นทิศทางการฟื้นตัว
ที่ดีในตลาดอสังหาฯ หลังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดประเทศ ส่งผลให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาทำธุรกรรมและโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในไทยได้เหมือนเก่า
ในมุมกลับกัน หากพิจารณาจากการวิเคราะห์ของ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ภายใต้การคาดว่าในปี 2566 สัดส่วนชาวต่างชาติที่ซื้อคอนโดฯ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาจจะกลับมาอยู่ที่ระดับ 15% ของมูลค่าทั้งหมด หลังจากที่ช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2562 มีมูลค่าประมาณ 14.6%
นอกจากนี้ ผู้พัฒนาอสังหาฯ ยังคาดหวังว่ารัฐบาลใหม่จะออกมาตรการกระตุ้นตลาดที่เอื้อให้ชาวต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัยในไทยอย่างถูกกฎหมายให้มีมากขึ้น โดยไม่ผ่านตัวแทน หรือนอมินี (Nominee) ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและต้องติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
เช็กลิสต์อสังหาฯ 5 เมืองท่องเที่ยวไทย ฟื้นหรือฟุบ?
ล่าสุด ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เผยข้อมูลเชิงลึกจากผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ www.DDproperty.com เกี่ยวกับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในหัวเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต, ชลบุรี และนครราชสีมา ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 (ม.ค.-พ.ค.) ซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นทิศทางการเติบโตของตลาดอสังหาฯไทย หลังกำลังซื้อต่างชาติกลับมาอีกครั้งหลัง จากเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และจะบ่งบอกได้ว่า “กำลังซื้อชาวต่างชาติ” มีบทบาทสำคัญต่อการฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯไทย อย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้หรือไม่
ความสนใจอสังหาฯ กรุงเทพฯ 5 เดือน บวก3%
DDproperty เผยว่า ภาพรวมความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วง 5 เดือนแรก ปี 2566 ของทำเลกรุงเทพฯ ยังมีทิศทางเติบโตเป็นบวก โดยเพิ่มขึ้น 3% ขณะในเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นถึง 13% โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความต้องการซื้อคอนโดฯ และทาวน์เฮาส์ในระดับราคา 1-3 ล้านบาทมากที่สุด ขณะที่บ้านเดี่ยวระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท จะได้รับความนิยมมากที่สุด (ลดลง 3% จากเดือนมกราคม)
ทำเลยอดนิยมกรุงเทพฯ หากเป็นคอนโดฯ จะอยู่ในแขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง ส่วนทำเลยอดนิยมที่ผู้ซื้อบ้านเดี่ยวให้ความสนใจจะอยู่ในแขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง ขณะที่แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง ถือเป็นทำเลที่มีความต้องการซื้อทาวน์เฮาส์สูงที่สุด
ค่าฝุ่นเชียงใหม่พ่นพิษอสังหาฯ
อีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นถึง 14% MoM แต่ลดลงถึง 28% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม ประเด็นนี้มาจากปัจจัยลบที่มีอย่างต่อเนื่องของปัญหาฝุ่นควัน รวมถึงตลาดท่องเที่ยวที่เริ่มชะลอตัวลง ทำให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในระยะสั้นไม่เติบโตเท่าที่ควร และปรับลดลงในทุกประเภทที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยความต้องการซื้อบ้านเดี่ยวและคอนโดฯ ปรับลดลงมากที่สุดในสัดส่วนเท่ากันที่ 35% จากเดือนมกราคม ตามมาด้วยทาวน์เฮาส์ (ลดลง 25% จากเดือนมกราคม)
ทำเลยอดนิยมที่มีความต้องการซื้อมากที่สุดในเชียงใหม่ส่วนใหญ่จะอยู่ในตัวเมือง โดยทำเลที่ผู้บริโภคสนใจซื้อคอนโดฯ มากที่สุด คือ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ส่วนทำเลฝั่งทาวน์เฮาส์ที่ได้รับความนิยมจะอยู่ในตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ ขณะที่ทำเลยอดนิยมของบ้านเดี่ยวจะอยู่ในตำบลสันผักหวาน อำเภอหางดง
อสังหาฯ ภูเก็ต ไม่รุ่งเหมือนคิด ต้องการซื้อลดลง 13%
ภาพรวมความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 พบว่า ลดลง 13% จากเดือนมกราคม โดยคอนโดฯ เป็นที่อยู่อาศัยประเภทเดียวที่มีการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา มีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้น 10% สวนทางกับที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวที่ลดลงถึง 26% ส่วนทาวน์เฮาส์ลดลง 15% จากเดือนมกราคม
เมื่อพิจารณาตามระดับราคาที่อยู่อาศัยที่ได้รับความต้องการซื้อมากที่สุด พบว่าอยู่ในระดับราคา 1-3 ล้านบาท ในทุกประเภทที่อยู่อาศัย ทั้งคอนโดฯ ทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยว (เพิ่มขึ้น 7%, ลดลง 4% และลดลงถึง 62% จากเดือนมกราคม ตามลำดับ)
ขณะที่ทำเลที่มีความต้องการซื้อมากที่สุด พบว่าความนิยมกระจายไปในพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ตเป็นหลัก โดยทำเลที่ได้รับความนิยมในการซื้อคอนโดฯ อยู่ที่ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต ด้านบ้านเดี่ยวจะได้รับความนิยมในเขตตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต ส่วนทาวน์เฮาส์มีคนสนใจซื้อในตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต มากที่สุด
อสังหาฯทำเลชลบุรีมาแรง EEC หนุน
สำหรับจังหวัดที่มีอสังหาฯ โดดเด่นน่าสนใจ กลับเป็นจังหวัดชลบุรี DDproperty เผยว่า อสังหาฯ ชลบุรี มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ประกอบกับมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการพัฒนาโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมไปถึงการพัฒนาระบบคมนาคมและนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ จึงทำให้ชลบุรีโดดเด่นทั้งด้านท่องเที่ยวและด้านอุตสาหกรรม ส่งผลให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเดือนพฤษภาคมเติบโต 9%
นอกจากนี้ ภาพรวมความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังเพิ่มขึ้น 3% จากเดือนมกราคม โดยทาวน์เฮาส์ได้รับความสนใจ มีการความต้องการซื้อเพิ่มถึง 21% ตามมาด้วยคอนโดฯ เพิ่มขึ้น 9% โดยมีเพียงบ้านเดี่ยวเท่านั้นที่ความต้องการซื้อลดลง 4%
เมื่อพิจารณาตามระดับราคาที่อยู่อาศัยที่มีความต้องการซื้อมากที่สุด พบว่าอยู่ในระดับราคา 1-3 ล้านบาท ในทุกประเภทที่อยู่อาศัย ทั้งคอนโดฯ ทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยว (เพิ่มขึ้น 11%, เพิ่มขึ้น 20% และลดลง 6% จากเดือนมกราคม ตามลำดับ)
สำหรับทำเลยอดนิยมในชลบุรีนั้นส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่อำเภอศรีราชา และอำเภอบางละมุง ที่เป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของ EEC จึงทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย โดยบ้านเดี่ยวจะได้รับความต้องการซื้อมากที่สุดในตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา ทาวน์เฮาส์จะเป็นที่นิยมในตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา ขณะที่ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จะเป็นทำเลยอดนิยมในการซื้อคอนโดฯ
นครราชสีมา ต้องการซื้อลดลง 27%
นครราชสีมามีศักยภาพในการเป็นเมืองศูนย์กลางของระบบการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ที่สำคัญในอนาคต โดยมีโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา หรือมอเตอร์เวย์ (M6) รวมทั้งแผนพัฒนารถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ และท่าเรือบกในอนาคต
แม้ว่าจะมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจของเมืองยังต้องพึ่งพาความชัดเจนจากความคืบหน้าของโครงการคมนาคมต่างๆ ด้วย ส่งผลให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมายังทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
ขณะที่ภาพรวมความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 นั้นลดลง 27% จากเดือนมกราคม และปรับตัวลดลงในทุกประเภทที่อยู่อาศัย โดยทาวน์เฮาส์ลดลงมากที่สุดถึง 55% จากเดือนมกราคม ตามมาด้วยบ้านเดี่ยว และคอนโดฯ (ลดลง 28% และลดลง 11% จากเดือนมกราคม ตามลำดับ)
โดยระดับราคาที่อยู่อาศัยที่ได้รับความสนใจมากที่สุด พบว่า คอนโดฯ และทาวน์เฮาส์ อยู่ในระดับราคา 1-3 ล้านบาท (ลดลง 19% และลดลง 46% จากเดือนมกราคม ตามลำดับ) สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อผู้บริโภคที่ส่วนใหญ่ต้องการที่อยู่อาศัยในราคาที่จับต้องได้ มากกว่าเน้นความหรูหราแบบบ้านพักตากอากาศ ส่วนบ้านเดี่ยวอยู่ในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท ลดลง 45% จากเดือนมกราคม
ด้านทำเลที่อยู่อาศัยยอดนิยมนั้น อำเภอปากช่อง ยังคงเป็นทำเลยอดนิยมที่ผู้คนให้ความสนใจค้นหาที่อยู่อาศัยมากที่สุด โดยทำเลที่มีความต้องการซื้อคอนโดฯ และบ้านเดี่ยวมากที่สุดอยู่ในตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง ซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขณะที่ทาวน์เฮาส์จะได้รับความนิยมซื้อในพื้นที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา.
ขอบคุณรูปภาพจาก : thairath.co.th
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th
ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net