2 ช้างไทยทูตสันถวไมตรีศรีลังกา ความเป็นอยู่ดีกว่า “พลายศักดิ์สุรินทร์”
พลายศักดิ์สุรินทร์ ช้างไทยที่ถูกส่งไปเป็นทูตสันถวไมตรีให้กับศรีลังกาเมื่อ 22 ปีก่อนกำลังจะเดินทางกลับไทยเพื่อมารักษาตัว ที่ผ่านมาทางการไทยเคยส่งช้างไปให้ศรีลังกา อีก 2 เชือก คือ พลายประตูผา อายุ 49 ปี เป็นช้างตัวแรกที่ส่งมาเมื่อ 37 ปีก่อน และพลายศรีณรงค์ ที่ส่งมาพร้อมพลายศักดิ์สุรินทร์ ทั้งนี้มีกลุ่มคนไทยที่เดินทางมาศรีลังกา เพื่อติดตามชีวิตของช้างที่เหลืออยู่ โดยพบว่ามีการเลี้ยงดูที่ดีกว่าพลายศักดิ์สุรินทร์ แต่พลายประตูผา ค่อนข้างมีสภาพร่างกายที่ชรามากแล้ว
พลายศรีณรงค์
ดร.ชญาน์นันท์ อัศวธรรมานนท์ อาจารย์ประจำสาขาพระพุทธศาสนา-วิทยาลัยสงฆ์แห่งหนึ่ง ได้เดินทางมาจากประเทศไทย เพื่อติดตามหาช้างไทยทั้ง 2 เชือก ได้เล่าให้ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า หลังจากเห็นความทุกข์ทรมานของพลายศักดิ์สุรินทร์ที่กำลังจะส่งกลับไทย ทำให้ตัดสินใจเดินทางมาตามหาช้างไทยอีก 2 เชือก เริ่มจากการไปดู พลายศรีณรงค์ ที่ส่งมาเมื่อ 22 ปีก่อน เมื่อพบจึงได้สื่อสารเป็นภาษาไทย ช้างก็ฟังรู้เรื่อง แม้มาอยู่ที่ศรีลังกานาน
พลายศรีณรงค์ อยู่ในวัดที่เมืองรัตนปุระ ปัจจุบันยังมีการใช้งานในขบวนแห่พระเขี้ยว ตามวัดต่างๆ โดยเป็นตัวเด่นในขบวน เพราะลักษณะช้างสง่างาม แม้งาไม่ยาวในลักษณะเป็น “งาอุ้มบาตร” เหมือนพลายศักดิ์สุรินทร์ แต่พลายศรีณรงค์มีสีผิวคล้ายกับช้างเผือก ทำให้ผู้ที่พบเห็นชื่นชมในความสง่างาม
สำหรับสภาพการเลี้ยงดู พลายศรีณรงค์ ค่อนข้างดี ช้างอ้วนสมบูรณ์ โดยเจ้าอาวาสวัดที่ดูแล ส่งไปอยู่เมืองรัตนปุระที่มีน้ำตกและธารน้ำจากธรรมชาติ ทำให้อาหารต่างๆ ค่อนข้างสมบูรณ์กว่าอยู่ในเมือง ขณะที่อาหารจะกินตามธรรมชาติ โดยมีควาญดูแล 2 คน มีการปลดโซ่พาเดินทุกวัน นอกจากนี้ยังมีรถขนช้างประจำตัวที่พาไปในขบวนแห่ตามวัดต่างๆ
“อาหารของช้างที่นี่เป็นทางมะพร้าวเป็นหลัก แต่พลายศรีณรงค์มีความฉลาด จะเลือกกินใบทางมะพร้าวที่อ่อนๆ พอเวลากินจะเอาใบทางมะพร้าวตีกับท้องให้มันนุ่มก่อนแล้วค่อยกิน ปกติช้างในขบวนแห่ที่ศรีลังกามีงานตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จากนั้นจะมีงานตามวัดทั่วประเทศ ไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคมของทุกปี ด้วยวัฒนธรรมนี้ทำให้ช้างมีลักษณะพิเศษ จะได้รับความสนใจจากวัดต่างๆ ในการนำมาเป็นช้างร่วมขบวนแห่”
ส่วนช้างอีกเชือกคือ พลายประตูผา ถูกส่งมาเป็นตัวแรกให้กับศรีลังกาเมื่อ 37 ปีก่อน มีอายุ 49 ปี ไทยมอบให้ตั้งแต่มีอายุเพียง 12 ปี อยู่ที่วัดพระเขี้ยวแก้ว เมืองแคนดี้ มีสภาพร่างกายค่อนข้างชรา หนังหยาบกระด้าง เบื้องต้นทางวัดไม่ได้นำช้างไปเดินในขบวนแห่ งาของพลายประตูผาแม้ไม่ได้ยาว แต่งามีความแข็งแรงสวยงาม
พลายประตูผา
จากการมาติดตามดูช้างทั้ง 2 เชือก ยังอุ่นใจว่ามีสวัสดิภาพและการเลี้ยงดูดีกว่า พลายศักดิ์สุรินทร์ แต่สำหรับ พลายประตูผา ค่อนข้างมีความชราภาพ อาจต้องให้ทีมแพทย์จากไทยเข้ามาช่วยเหลือและแนะนำในการดูแลร่างกายของช้างต่อไป.
ขอบคุณรูปภาพจาก : thairath.co.th
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th
ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net