ประโยชน์ของ “ลูกหม่อน-มัลเบอร์รี่” (Mulberry) เบอร์รี่จิ๋วแต่คุณประโยชน์สุดแจ๋ว
หากจะพูดถึงเบอร์รี่เมืองไทย ก็เรียกได้ว่ามีอยู่หลายชนิดให้นึกถึง แต่ถ้าให้พูดขึ้นมาสักหนึ่งชื่อก็คงจะต้องร้องอ๋อกันเป็นแน่ เพราะหนึ่งในเบอร์รี่เมืองไทยที่เรารู้จักและคุ้นหูกันเป็นอย่างดีก็คือ ลูกหม่อน หรือ มัลเบอร์รี่ นั่นเอง แต่นอกจากชื่อเสียงเรียงนามว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดเบอร์รี่เมืองไทยแล้ว ก็จัดได้ว่าลูกหม่อนเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และยังมีประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพในหลายๆ ด้านด้วย
ประโยชน์ของ ลูกหม่อน เบอร์รี่เมืองไทย
ลูกหม่อนหรือ มัลเบอร์รี่ (Mulberry) เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ส่วนต่างๆ ของต้นหม่อนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งใช้เพื่ออุตสาหกรรมการทอผ้า การนำใบหม่อนมาแปรรูปเป็นชา หรือแม้แต่ลูกหม่อนเองก็ยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารเพื่อสุขภาพได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มสมูทตี้ หรือเป็นวัตถุดิบในอาหารต่างๆ
ลูกหม่อนเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก เพราะเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ให้แคลอรี่ต่ำ มีสารอาหารสำคัญอย่างคาร์โบไฮเดรตและไฟเบอร์ที่ทำให้อิ่มท้อง ทั้งยังช่วยเพิ่มพลังงานแก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี มากไปกว่านั้นลูกหม่อนก็ยังจัดว่าเป็นผลไม้ฉ่ำน้ำอีกด้วย เนื่องจากองค์ประกอบกว่า 88 เปอร์เซ็นต์ของลูกหม่อนนั้นเป็นน้ำ การรับประทานลูกหม่อนจึงสามารถช่วยเพิ่มระดับน้ำในร่างกาย และมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดภาวะขาดน้ำ (Dehydration)ได้
นอกจากนี้ลูกหม่อนยังเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญอย่าง วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค1 ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม และยังเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ อย่างเช่น แอนโทไซยานิน (Anthocyanin ) ไซยานิดิน (Cyanidin) ไมริเซติน (Myricetin) กรดคลอโรจีนิก (Chlorogenic Acid) รูทิน (Rutin) ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ดีต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และปกป้องเซลล์ในร่างกายไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ
ประโยชน์ของลูกหม่อน หรือ มัลเบอร์รี่
-
ลดความเสี่ยงของมะเร็ง
สารต้านอนุมูลอิสระ เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรง ทั้งยังกระตุ้นการทำงานของเซลล์และป้องกันเซลล์ต่างๆ ในร่างกายไม่ให้ถูกทำร้ายจากอนุมูลอิสระที่ไม่ดี มากไปกว่านั้นสารต้านอนุมูลอิสระยังมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโต หรือลดโอกาสในการเป็นมะเร็ง - ลูกหม่อน หรือ มัลเบอร์รี่ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดทั้งสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มของฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) อย่างแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ไซยานิดิน (Cyanidin) ไมริเซติน (Myricetin) กรดคลอโรจีนิก (Chlorogenic Acid) รูทิน (Rutin) การรับประทานลูกหม่อนอย่างสม่ำเสมอจึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งได้
-
ดีต่อการลดน้ำหนัก
ลูกหม่อนมีไฟเบอร์สูงและให้แคลอรี่ต่ำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร โดยไฟเบอร์จะไปทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้นานขึ้น ทำให้ไม่หิวบ่อยๆ และไม่ทำให้แคลอรี่พุ่งสูงเพราะมีแคลอรี่ต่ำ สามารถจำกัดหรือควบคุมแคลอรี่ในแต่ละวันได้อย่างสบายใจ -
ดีต่อสุขภาพตับ
ตับเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อร่างกายของเรา โดยเฉพาะการทำหน้าที่สำคัญในเพื่อกรองสารพิษต่างๆ ทำหน้าที่ในการสลายไขมัน รวมถึงป้องกันการแข็งตัวของเลือดด้วย ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระในลูกหม่อนถือว่าเป็นสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพตับอย่างมาก เนื่องจากมีส่วนช่วยในการล้างสารพิษที่ตับ และยังมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันสะสมไว้ที่ตับ อันเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคไขมันพอกตับ -
ปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
ระดับน้ำตาลในเลือดที่พุ่งสูง สามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ และโรคเบาหวานได้ ซึ่งเพื่อป้องกันความเสี่ยงของโรคเรื้อรังเหล่านั้น การให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะกับลูกหม่อนซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง และการกินไฟเบอร์เป็นประจำจะมีส่วนช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในกระแสเลือด จึงช่วยป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงได้ -
อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก
แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วธาตุเหล็กมักจะพบได้ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์หรือเครื่องในสัตว์ แต่ในผลไม้ก็อุดมไปด้วยธาตุเหล็กเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะลูกหม่อน ที่ให้ปริมาณของธาตุเหล็กสูงถึง 2.6 มิลลิกรัม (ต่อลูกหม่อนหนึ่งถ้วย) ซึ่งคิดเป็น 14 เปอร์เซ็นต์ต่อปริมาณของธาตุเหล็กที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน
โดยธาตุเหล็กนี้มีประโยชน์ในการช่วยจัดเก็บและขนส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดภาวะออกซิเจนต่ำ รวมถึงยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งดีต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และมีส่วนป้องกันภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ด้วย
ข้อควรระวังในการรับประทาน
ลูกหม่อน หรือ มัลเบอร์รี่ แม้จะให้คุณค่าทางโภชนาการสูง และมีส่วนช่วยป้องกันอาการทางสุขภาพต่างๆ แต่ก็ยังมีข้อควรระวังบางประการเกี่ยวกับลูกหม่อนที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะถ้าหากมีอาการแพ้ลูกหม่อน หรือแพ้ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ซึ่งถึงแม้จะพบได้น้อย แต่ก็ควรระวัง และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานลูกหม่อน เพื่อป้องกันไม่ให้อาการแพ้กำเริบ
ขอบคุณรูปภาพจาก : pexels.com
ขอบคุณแหล่งที่มา : sanook.com
ติดตามข่าวสาร ได้ที่ : thaigoodherbal.com