ลิตเติ้ล แว้น บี ว้าว ไรเดอร์ ได้เยาวชนสายแว้น 25 คนสุดท้าย เตรียมเข้าโปรแกรมฝึกคัดไปยุโรป

ลิตเติ้ล แว้น บี ว้าว ไรเดอร์ ได้เยาวชนสายแว้น 25 คนสุดท้าย เตรียมเข้าโปรแกรมฝึกคัดไปยุโรป พร้อมเปิดตัวหนังสั้นของโครงการหวังช่วยลดปัญหาเด็กแว้นซิ่งบนถนน

สมาคมกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย (MSAT) ร่วมกับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
จัดกิจกรรม Little Wann be Wow Rider เปลี่ยนมุมมอง ปรับทัศนคติเด็กแว้นทั่วประเทศสู่การเป็นนักขับอาชีพบนสนามแข่งขันจริงต่อเนื่องเป็นสนามที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณลานหน้า อาคารกีฬา นิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา

Little Wann be Wow Rider โดยกิจกรรมในสนามที่ 5 นี้ บรรดาโค้ชระดับดีกรีนักแข่งระดับประเทศ

ได้จัดทำฐานสุดท้าทาย พร้อมการอบรมทักษะการขับขี่ในสนามแข่งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติแบบเข้มข้น ทั้งการปฐมพยาบาลเบื้องต้น, การใช้เบรก,
คันเร่ง, การควบคุมรถ (ท่านั่ง, มือ, เท้า, เข่า, ศอก), การขับขี่ทางโค้ง (จุดเลี้ยว, วงกลม, เลข8) รวมถึงปิดกิจกรรมปรับทัศนคติ (Life Coach) เพื่อการขับขี่ที่ถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้นำไปต่อยอดในการพัฒนาศักยภาพของตัวเองต่อไปในอนาคต

ด้าน “ตาล”รัชฎา นาคเจริญศรี ผู้ดูแลโครงการ Little Wann be Wow Riderเผยว่า “ในที่สุดก็เดินทางมาถึงสนามสุดท้ายของโครงการในปีแรก
ซึ่งต้องบอกว่าไม่คาดคิดว่าจะได้การตอบรับจากน้องๆเด็กแว้นจากทั่วประเทศมากขนาดนี้ จนกระทั่งวันนี้เราได้น้องๆจากตัวแทนในแต่ละสนามครบ 25 คนแล้ว ก็ดีใจเป็นอย่างมากค่ะและอยากจะทำให้น้องๆได้มีอนาคตที่ดีบนวงการรถสองล้อของไทยให้ได้ แต่วันนี้ตาลอยากจะบอกว่ามีเซอร์ไพรส์ให้กับน้องๆที่ไม่ผ่านในสนามที่ผ่านมา จะมีโอกาสกลับมาอีกครั้งด้วยการในน้องๆโหวตคนที่ชอบที่สุดอีก 5 คนในเพจเฟซบุุ๊คของโครงการและนำมารวมกับตัวแทนแต่ละสนามรวมเป็ร 30 คน เพื่อจะไปฝึกอบรมกับการอีกครั้งนึง ก่อนที่จะได้ 2 คนสุดท้าย”

โดยกิจกรรมสนามที่ 4 ลิตเติ้ล แว้น บี ว้าว ไรเดอร์ ยังคงอัดแน่นไปด้วยการอบรมทักษะการขับขี่

ในสนามแข่งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติจากโค้ชที่มีประสบการณ์และมีดีกรีเป็นนักแข่งระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ซึ่งการอบรมจะเน้นไปที่การช่วยเหลือและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น, การใช้เบรก, คันเร่ง, การควบคุมรถ (ท่านั่ง, มือ, เท้า, เข่า, ศอก), การขับขี่ทางโค้ง (จุดเลี้ยว, วงกลม, เลข8) รวมถึงปิดกิจกรรมปรับทัศนคติ (Life Coach) เพื่อการขับขี่ที่ถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้นำไปต่อยอดในการพัฒนาศักยภาพของตัวเองต่อไปในอนาคต

“ตาล”รัชฎา นาคเจริญศรี ผู้ดูแลโครงการ ลิตเติ้ล แว้น บี ว้าว ไรเดอร์เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าประหลาดใจเป็นอย่างมากที่น้องๆ ที่เข้าร่วมโครงการมีทักษะอันยอดเยี่ยมขึ้นในทุกๆ สนามที่ตาลได้ไปเจอ ซึ่งถือเป็นทีดี แต่ก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการต้องหนักใจในการคัดเลือกมากขึ้นในแต่ละสนาม ต้องขอบคุณผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน ที่มอบโอกาสดีๆ แบบนี้ให้กับน้องๆ ทุกคน ส่วนน้องๆ คนไหนที่ไม่ได้เข้ารอบในปีนี้ไม่ต้องเสียใจ ปีหน้ายังสามารถกลับมาสมัครเข้าร่วมโครงการได้เหมือนเดิม

สำหรับน้องๆ ที่ผ่านการคัดเลือก 5 คน ในสนามที่ 4 ประกอบด้วย วีรภัทร ยกทอง, อติรุจ ทั่งเกิด, ณภัทร ชื่นศิริกุล, บริวัฒน์ ช้างแย้ม, ชนาธิป พรมมา สำหรับกิจกรรม Little Wann be Wow Rider สนามสุดท้าย จะขึ้นในวันที่ 1-2 ก.ค.นี้

นอกจากนี้ภายในงานยังมีการเปิดตัวหนังสั้นเรื่อง “เพื่อเธอ”

ซึ่งเกิดจากแรงบันดาลใจที่ตนเองต้องการสร้างสรรค์สังคม
โดยได้รับแรงสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ กองทุนการพัฒนากีฬาแห่งชาติ และการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมขับเคลื่อนโครงการดีดี
เน้นเจาะกลุ่มเยาวชนชาย-หญิง ที่แว้นซิ่งบนท้องถนน เพื่อรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ตระหนักถึงความสำคัญของการขับขี่รถมอเตอร์ไซด์ให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดย “ตาล”รัชฎา นาคเจริญศรี ผู้ดูแลโครงการได้ร่วมเป็นนักแสดงนำอีกด้วย ซึ่งสามารถชมได้แล้วทางยูทูป https://youtu.be/_nmYJMySHEY

สำหรับน้องๆที่ผ่านการคัดเลือก 5 คนในสนาม 5 นี้ ประกอบไปด้วย นายอัครพนธ์ ศรีบัวเอี่ยม, นายจริพงศ์  สังเกษคิด, นายวิชัยโรจน์  คงพรหม,
นายปิยวัฒน์  สุดชา และนายชุมพล บุญล้อม

สรุป

โดยเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับสิทธิพิเศษ ทั้งการร่วมชมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรายการโมโตจีพี ที่สนามช้าง อินเตอร์ เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ช่วงเดือนตุลาคม รวมถึงเยาวชนที่ทำคะแนนสูงสุด 2 คนจะได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และทริปเอ็กซ์คลูซีพเดินทางไปชมโรงงาน BMW Motorrad ที่ประเทศเยอรมนี พร้อมกับ “ตาล” รัชดา นาคเจริญศรี นักแข่งรถจักรยานยนต์ ไอดอลของวงการมอเตอร์สปอร์ต และอีกส่วนจะได้สัมผัสประสบการณ์เรซซิ่งในสนามแข่งขันจริง 1 วัน รวมทั้งกิจกรรม CSR ออนทัวร์ทุกภาค เพื่อช่วยเหลือสังคมอีกด้วย

อ้างอิง

https://www.sanook.com/