All-new Toyota Alphard / Vellfire 2024 ใหม่ ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ญี่ปุ่น

All-new Toyota Alphard และ Vellfire 2024 ใหม่ ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศญี่ปุ่น ปรับดีไซน์เน้นความหรูหราเต็มพิกัดทั้งภายนอกและภายใน พร้อมขุมพลังที่มีให้เลือกทั้งเบนซิน 2.5 ลิตร เบนซินเทอร์โบ 2.4 ลิตร และไฮบริด 2.5 ลิตร

     All-new Toyota Alphard และ Vellfire รุ่นปี 2024 ใหม่ ถูกพัฒนาต่อเนื่องมาเป็นเจเนอเรชันที่ 4 โดยใช้แพล็ตฟอร์ม GA-K
ที่ถูกปรับแต่งสำหรับตัวถังแบบเอ็มพีวีโดยเฉพาะ มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบดับเบิลวิชโบน
พร้อมด้วยโช้กอัปที่มีการปรับปรุงเพื่อลดแรงสะเทือนจากพื้นถนนแต่ยังคงไว้ซึ่งความมั่นคงในการขับขี่ อีกทั้งยังมีการออกแบบเบาะนั่งแถวที่ 2 ให้สามารถซับแรงสะเทือนด้วยการใช้บูชยางและเมมโมรี่โฟม นอกเหนือไปจากการซับแรงสะเทือนด้วยช่วงล่างเพียงอย่างเดียว

     ดีไซน์ภายนอกของ Alphard และ Vellfire ใหม่ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Forceful x IMPACT LUXURY” โดยยังคงออกแบบให้ทั้งสองรุ่น
มีดีไซน์ที่แตกต่างกันออกไป ขณะที่ห้องโดยสารมีการพัฒนาเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างเบาะนั่งแถวที่ 1 และ 2 ขึ้นอีก 5 มิลลิเมตร และเพิ่มระยะห่างระหว่างเบาะแถว 2 และ 3 ขึ้นอีก 10 มิลลิเมตร

     บริเวณเหนือเพดานถูกออกแบบให้มีแผงควบคุมที่เรียกว่า Super-Long Overhead Console ที่พาดยาวครอบคลุมพื้นที่เหนือศีรษะ
ของผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 ช่วยให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งสามารถเปิดกระจกหน้าต่างฝั่งตรงข้ามได้อย่างสะดวก พร้อมทั้งติดตั้งบันไดข้างแบบ Universal Steps เป็นครั้งแรก ช่วยให้เด็กเล็กหรือผู้สูงอายุสามารถเข้า-ออกตัวรถได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

     นอกจากนี้ โตโยต้ายังมีการออกแบบหลังคามูนรูฟให้สามารถแยกเปิดม่านกรองแสงฝั่งซ้ายและขวาออกจากกันอย่างอิสระ พร้อมด้วยม่านกรองแสงด้านข้างแบบเลื่อนจากด้านบนลงมาด้านล่าง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดในขณะที่ผู้โดยสารยังคงเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ภายนอกได้

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

มีการเพิ่มเติมด้วยระบบ Intra-Lane Steering Assist ที่สามารถคาดเดาการหมุนพวงมาลัยของผู้ขับขี่และเพิ่มแรงหมุนพวงมาลัยโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ และระบบ Deceleration Assist when Turning at Intersections ที่ช่วยลดความเร็วของตัวรถในจังหวะที่ผู้ขับขี่ปล่อยคันเร่งพร้อมกับเปิดไฟเลี้ยวบริเวณสี่แยก

     ขณะที่ฟังก์ชัน Toyota Teammate ซึ่งเป็นระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงสำหรับการเข้าจอดและช่วยขับขี่ขณะรถติด ประกอบด้วย Advanced Park ที่สามารถสั่งจอดรถผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้แม้ไม่ได้อยู่ภายในรถ และ Advanced Drive ที่ทำงานร่วมกันระหว่างระบบ Radar Cruise Control และ Lane Tracing Assist เพื่อช่วยขับขี่ขณะการจราจรหนาแน่นที่ความเร็ว 0-40 กม./ชม.

     ด้านขุมพลังของ All-new Toyota Alphard และ Vellfire มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FE และเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร รหัส T24A-TFS ซึ่งถูกทำตลาดแทนที่เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.5 ลิตรเดิม โดยเวอร์ชันญี่ปุ่นสามารถเลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FF) และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD)

     ขณะที่รุ่นไฮบริดทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดรวมถึง 250 แรงม้า (PS) แต่ยังคงมีอัตราสิ้นเปลืองต่ำเพียง 17.5 กม./ลิตร ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และ 16.5 กม./ลิตร ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four

สรุป

ราคาจำหน่ายของ All-new Alphard ใหม่ อยู่ระหว่าง 5,400,000 – 8,720,000 เยน หรือประมาณ 1,320,000 – 2,140,000 บาท และ All-new Vellfire ใหม่ อยู่ระหว่าง 6,550,000 – 8,920,000 เยน หรือประมาณ 1,600,000 – 2,190,000 บาท

อ้างอิง

https://www.sanook.com/