Lexus LBX 2024 ใหม่ B-SUV หรูขุมพลังไฮบริด 1.5 ลิตร เปิดตัวครั้งแรกที่ยุโรป

Lexus LBX 2024 ใหม่ เอสยูวีรุ่นเล็กสุดของค่ายถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่ยุโรป พร้อมขุมพลังไฮบริด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 136 แรงม้า เตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป

Lexus LBX ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม GA-B ที่มีการปรับปรุงต่อยอดเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของเลกซัส ทั้งยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์การขับขี่แบบ Lexus Driving Signature แม้ว่าจะมีขนาดตัวถังเล็กที่สุดในไลน์อัปของเลกซัสเองก็ตาม โดยระบุว่าได้มีการเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง ควบคู่ไปกับการใช้วัสดุน้ำหนักเบาเพื่อลดน้ำหนักลง เช่น ฝากระโปรงทำจากวัสดุอะลูมิเนียม, ซุ้มล้อทำจากเรซินขึ้นรูป เป็นต้น

ระบบกันสะเทือนของ Lexus LBX ถูกพัฒนาเพื่อเน้นการควบคุมที่เฉียบคมและมีน้ำหนักเบา

โดยทุกรุ่นย่อยมาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบทอร์ชันบีมในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) หรือแบบดับเบิลวิชโบนในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) เสริมด้วยระบบ Vehicle Braking Posture Control ที่สามารถกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหน้าและล้อหลังเพื่อลดการโคลงตัวในขณะเข้าโค้ง ช่วยเพิ่มเสถียรภาพ และยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือนลงได้อีกด้วย

Lexus LBX ที่วางจำหน่ายในยุโรปถูกติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริดแบบ 3 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบอยู่ที่ 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 185 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อมแบตเตอรี่แบบนิกเกิลเมทัลไฮดราย (NiMH) ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สามารถจ่ายไฟแรงสูงได้อย่างรวดเร็วคล้ายกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ส่งผลให้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 9.2 วินาทีเท่านั้น

ขณะที่รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four ถูกเพิ่มเติมด้วยมอเตอร์สำหรับขับเคลื่อนล้อคู่หลัง ซึ่งเลกซัสระบุว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนทั้งในขณะเร่งออกตัว, เข้าโค้ง และบนถนนที่มีพื้นผิวขรุขระ โดยระบบสามารถส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังได้โดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นใจในทุกสภาพถนน

Lexus LBX 2024 ยังคงไว้ซึ่งความพรีเมียมภายในห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหนัง Semi-aniline

แม้ว่าจะเป็นรถเอสยูวีขนาดเล็กสุดของค่าย แต่ ที่สามารถเลือกออปชันเสริมเป็นหนังสังเคราะห์เพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่ตำแหน่งของผู้ขับขี่ยังคงยึดหลักการออกแบบ Tazuna ที่นำมาใช้เป็นครั้งแรกในรุ่น NX เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ ได้โดยง่าย เสริมด้วยการใช้หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้วเป็นครั้งแรก และสามารถเลือกติดตั้งหน้าจอ Head-up display เป็นออปชันเสริมได้

Lexus LBX มาพร้อมระบบเชื่อมต่อ Lexus Link Connect ทำงานผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 9.8 นิ้ว

เพื่อใช้งานระบบนำทางผ่านคลาวด์ แสดงข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ และยังสามารถสั่งงานด้วยคำสั่งเสียงเพียงพูดว่า “Hey Lexus” ได้อีกด้วย อีกทั้งยังรองรับระบบ Digital Key ผ่านสมาร์ทโฟนระบบ iOS และ Android โดยที่เจ้าของรถไม่จำเป็นต้องนำสมาร์ทโฟนออกจากกระเป๋า ก็สามารถล็อก-ปลดล็อกประตู และสตาร์ทเครื่องยนต์ขับออกไปได้ทันที

ด้านระบบความปลอดภัยมีการติดตั้งฟีเจอร์ Lexus Safety System+ ที่มาพร้อมฟังก์ชันหลากหลาย เช่น ระบบป้องกันการชน Pre-Collision System ทำงานคู่กับระบบ Intersection Turn Assist, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Tracing Assist / Lane Keeping Assist และระบบอ่านป้ายจราจร Road Sign Assist เป็นต้น

สรุป

นอกจากนี้ Lexus LBX ยังมาพร้อมระบบ Safe Exit Assist ที่ทำงานควบคู่กับกลอนประตูไฟฟ้า e-latch เพื่อป้องกันอันตรายจากการชนในขณะที่กำลังจะเปิดประตู และระบบ Remote Parking ที่สามารถสั่งจอดรถระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟนได้ เป็นต้น

เลกซัสยังมีบริการ Lexus Bespoke Build (เฉพาะบางประเทศ) ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าที่สั่งซื้อ Lexus LBX สามารถปรับแต่งรายละเอียดการตกแต่งภายในได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนัง L-aniline ที่ปัจจุบันมีให้เลือกเฉพาะในรุ่น LBX และ LS เท่านั้น รวมถึงการตกแต่งสีเข็มขัดนิรภัย, การตกแต่งแผงคอนโซล หรือแม้กระทั่งสีของตะเข็บ เป็นต้น

All-new Lexus LBX มีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในยุโรปภายในปี 2567 นี้

อ้างอิง

https://www.sanook.com/

Lexus LBX 2024 ใหม่ เอสยูวีรุ่นเล็กสุดของค่ายถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่ยุโรป พร้อมขุมพลังไฮบริด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 136 แรงม้า เตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป

Lexus LBX ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม GA-B ที่มีการปรับปรุงต่อยอดเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของเลกซัส ทั้งยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์การขับขี่แบบ Lexus Driving Signature แม้ว่าจะมีขนาดตัวถังเล็กที่สุดในไลน์อัปของเลกซัสเองก็ตาม โดยระบุว่าได้มีการเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง ควบคู่ไปกับการใช้วัสดุน้ำหนักเบาเพื่อลดน้ำหนักลง เช่น ฝากระโปรงทำจากวัสดุอะลูมิเนียม, ซุ้มล้อทำจากเรซินขึ้นรูป เป็นต้น

ระบบกันสะเทือนของ Lexus LBX ถูกพัฒนาเพื่อเน้นการควบคุมที่เฉียบคมและมีน้ำหนักเบา

โดยทุกรุ่นย่อยมาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบทอร์ชันบีมในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) หรือแบบดับเบิลวิชโบนในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) เสริมด้วยระบบ Vehicle Braking Posture Control ที่สามารถกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหน้าและล้อหลังเพื่อลดการโคลงตัวในขณะเข้าโค้ง ช่วยเพิ่มเสถียรภาพ และยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือนลงได้อีกด้วย

Lexus LBX ที่วางจำหน่ายในยุโรปถูกติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริดแบบ 3 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบอยู่ที่ 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 185 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อมแบตเตอรี่แบบนิกเกิลเมทัลไฮดราย (NiMH) ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สามารถจ่ายไฟแรงสูงได้อย่างรวดเร็วคล้ายกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ส่งผลให้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 9.2 วินาทีเท่านั้น

ขณะที่รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four ถูกเพิ่มเติมด้วยมอเตอร์สำหรับขับเคลื่อนล้อคู่หลัง ซึ่งเลกซัสระบุว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนทั้งในขณะเร่งออกตัว, เข้าโค้ง และบนถนนที่มีพื้นผิวขรุขระ โดยระบบสามารถส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังได้โดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นใจในทุกสภาพถนน

Lexus LBX 2024 ยังคงไว้ซึ่งความพรีเมียมภายในห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหนัง Semi-aniline

แม้ว่าจะเป็นรถเอสยูวีขนาดเล็กสุดของค่าย แต่ ที่สามารถเลือกออปชันเสริมเป็นหนังสังเคราะห์เพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่ตำแหน่งของผู้ขับขี่ยังคงยึดหลักการออกแบบ Tazuna ที่นำมาใช้เป็นครั้งแรกในรุ่น NX เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ ได้โดยง่าย เสริมด้วยการใช้หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้วเป็นครั้งแรก และสามารถเลือกติดตั้งหน้าจอ Head-up display เป็นออปชันเสริมได้

Lexus LBX มาพร้อมระบบเชื่อมต่อ Lexus Link Connect ทำงานผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 9.8 นิ้ว

เพื่อใช้งานระบบนำทางผ่านคลาวด์ แสดงข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ และยังสามารถสั่งงานด้วยคำสั่งเสียงเพียงพูดว่า “Hey Lexus” ได้อีกด้วย อีกทั้งยังรองรับระบบ Digital Key ผ่านสมาร์ทโฟนระบบ iOS และ Android โดยที่เจ้าของรถไม่จำเป็นต้องนำสมาร์ทโฟนออกจากกระเป๋า ก็สามารถล็อก-ปลดล็อกประตู และสตาร์ทเครื่องยนต์ขับออกไปได้ทันที

ด้านระบบความปลอดภัยมีการติดตั้งฟีเจอร์ Lexus Safety System+ ที่มาพร้อมฟังก์ชันหลากหลาย เช่น ระบบป้องกันการชน Pre-Collision System ทำงานคู่กับระบบ Intersection Turn Assist, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Tracing Assist / Lane Keeping Assist และระบบอ่านป้ายจราจร Road Sign Assist เป็นต้น

สรุป

นอกจากนี้ Lexus LBX ยังมาพร้อมระบบ Safe Exit Assist ที่ทำงานควบคู่กับกลอนประตูไฟฟ้า e-latch เพื่อป้องกันอันตรายจากการชนในขณะที่กำลังจะเปิดประตู และระบบ Remote Parking ที่สามารถสั่งจอดรถระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟนได้ เป็นต้น

เลกซัสยังมีบริการ Lexus Bespoke Build (เฉพาะบางประเทศ) ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าที่สั่งซื้อ Lexus LBX สามารถปรับแต่งรายละเอียดการตกแต่งภายในได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนัง L-aniline ที่ปัจจุบันมีให้เลือกเฉพาะในรุ่น LBX และ LS เท่านั้น รวมถึงการตกแต่งสีเข็มขัดนิรภัย, การตกแต่งแผงคอนโซล หรือแม้กระทั่งสีของตะเข็บ เป็นต้น

All-new Lexus LBX มีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในยุโรปภายในปี 2567 นี้

อ้างอิง

https://www.sanook.com/