วิธีการฝึกสุนัข แมวด้วยหลักการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิคถือเป็นรูปแบบทางจิตวิทยาที่มีมานานและเป็นการวางเงื่อนไขที่มีนานก่อนกาล โดยการให้หลักของความเคยชิน พฤติกรรม รวมเข้ากับการกระตุ้นเพื่อให้เกิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นในการกระทำนั้นๆ ซึ่งนั่นเองที่ทำให้แนวคิดนี้ถูกนำมาใช้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านของการพัฒนาคน จิตวิทยาเด็กและการศึกษา การดูแลผู้ป่วย หรือแม้แต่การฝึกสัตว์เลี้ยงเองก็เรียกได้ว่าถูกนำมาใช้กันอย่างกว้างขวางไม่น้อยเลยครับ หลายคนที่ได้ลองใช้การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค ต่างเห็นผลและการตอบสนองที่เป็นไปในทิศทางที่ต้องการและจนถึงปัจจุบันผู้คิดค้นทฤษฎีนี้อย่างพาฟลอฟเองก็ได้มีการถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญทางจิตวิทยาคนหนึ่งแบบเป็นบิดาแห่งวางเงื่อนไขแบบคลาสสิคที่อาจจะต้องบอกเลยครับว่าสำคัญมาก แน่นอนครับว่าวันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูกันครับว่าถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงของเราแล้วการใช้ทฤษฎี หลักการดังกล่าว สามารถทำอย่างไรได้บ้าง สุนัขแมว สามารถใช้ได้ไหม รวมไปถึงประวัติความเป็นมา และต้นกำเนิดของเรื่องนี้ด้วยกันครับใน วิธีการฝึกสุนัข แมวด้วยหลักการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
ที่มาของการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
ที่ไปที่มาของเรื่องนี้เริ่มมาจากการที่พาฟลอฟ บิดาแห่งการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิคคนเห็นสงสัยครับว่า ทำไมกันนะ เราทุกคนถึงเลือกที่จะทำอะไรสักอย่างในชีวิตแตกต่างกันออกไป และหากเรานั้นอยากที่จะให้ใครสักคนทำอะไรสักอย่าง ทำไมมันยากจัง เขาได้คิดถึงเงื่อนไขต่างๆ ที่พอจะเป็นแรงกระตุ้นให้กับตัวของเขาเองอยากที่จะทำอะไรต่างๆ และเขาก็เริ่มนึกออกและทำการทดลองในทันที พาฟลอฟ ได้นำเอาสุนัขตัวหนึ่งเข้ามาในห้องทดลอง จากนั้นจึงเริ่มทำการวางเงื่อนไขต่อการกระทำขึ้น โดยการที่ให้สุนัขนั่งในห้องสี่เหลี่ยม และส่งเสียงเรียก ผลปรากฏว่าสุนัขไม่มีการตอบสนองใด ๆ เลยครับจากนั้นจึงเริ่มมีการเอากระดิ่งมาสั่นหลังเรียกชื่อ ปรากฏว่าสุนัขเริ่มมีการสั่นหางเบาๆ ไปมา แต่ยังไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร และสุดท้าย เมื่อสั่นกระดิ่งอีกครั้ง พาฟลอฟได้นำอาหารมาไว้ตรงหน้าทำให้สุนัขเกิดการรู้ได้ว่า หากสั่นกระดิ่ง สุนัขจะได้ในสิ่งที่พึงพอใจ ซึ่งทฤษฎีดังกล่าวถูกเป็นที่ยอมรับในไม่นานหลายศาสตร์ที่เกี่ยวเนื่องกับสังคม ผู้คน หรือแม้แต่กับสิ่งมีชีวิตก็ต่างใช้วิธีการนี้ในการสื่อสารและการเรียนรู้กันทั้งสิ้น
การฝึกสัตว์เลี้ยงด้วยวิธีการนี้ สามารถทำได้จริงหรือไม่
การฝึกสัตว์เลี้ยงด้วยการวางเงื่อนไข คุณอาจจะไม่รู้ว่าเป็นสิ่งที่เราทำกันอยู่แล้ว หากเราได้เข้าไปดูในช่องทางต่างๆ ในโลกออนไลน์ เราจะเห็นได้ว่าในการฝึกสัตว์เลี้ยงนั้นมีความคล้ายคลึงกันอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ เพราะด้วยรูปแบบการฝึก การต่อยอด ต่างๆ หากมองให้ดี มันคือแก่นเดียวกันคือการวางเงื่อนไขให้กับสัตว์เลี้ยงนั่นเอง ซึ่งเป็นการปักธงไว้ว่า หากทำถูก ทำตามเรา จะได้ของรางวัลแบบนี้และนั่นเองที่ทำให้ทุกๆ การฝึกสัตว์เลี้ยง จะต้องมีการนำของที่น้องต้องการ หรือชอบมาเป็นตัวล่อเพื่อให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้แล้วการฝึกสัตว์เลี้ยงยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีตัวหนึ่งที่จะช่วยลดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของสัตว์เลี้ยงลงได้แล้ว หากคุณฝึกเอง จะเป็นการเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้นทั้งกับคุณและสัตว์เลี้ยงของคุณนั่นเอง
เราสามารถฝึกสุนัข และแมวด้วยหลักการนี้ได้หรือไม่
ในการฝึกสุนัขกับแมวบอกเลยครับว่าเป็นเรื่องที่ยากในระดับหนึ่ง หากคุณต้องการที่จะทำความเข้าใจ เพราะในการฝึกนั้นคุณจะต้องเข้าใจในพฤติกรรมต่างๆ ของสัตว์เลี้ยงครับ เพื่อไม่ให้แมว หรือสุนัขของคุณนั้นเกิดความเครียดที่มากจนเกินไป และเกิดการปรับตัวได้ การฝึกต้องอยู่ในความพอดี สิ่งที่คุณนั้นอยากได้ จึงจะเกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงของคุณ และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญหากคุณต้องฝึกน้องให้เชื่อง การให้น้องแมวของคุณเริ่มรู้ว่า ขนม หรือรางวัลนั้นเป็นของสำคัญ ยากที่จะหาได้ เราจะต้องไม่ให้พร่ำเพรื่อ ให้เป็นเวลา และในทุกๆ การฝึก ต้องมีขนมอยู่ติดไว้ข้างตัวด้วย เพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้เกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงนั่นเอง
ฝึกให้พอดี มากไปอาจเกิดผลเสีย
สำหรับการฝึกมีเทคนิคง่ายๆ ที่คุณไม่ต้องจำอะไรให้มากเลยครับ นั่นคือความพอดี หลักการนี้ต้องเกิดจากความพึงพอใจ ของทั้งสองฝ่าย ทั้งตัวของสัตว์เลี้ยงและผู้ฝึก หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดอาการเบื่อ ไม่ให้ความร่วมมือให้หยุดทันทีเลยครับ เพราะหากฝืนทำต่อในความไม่ชอบ สัตว์เลี้ยงของเราอาจมองเป็นว่านี่คือการลงโทษมากกว่าการวางเงื่อนไข หรือให้รางวัลได้เช่นกันครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ วิธีการฝึกสุนัข แมวด้วยหลักการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค ที่ทาง Petsayhi ได้นำมาฝากกันในวันนี้ ขอบอกเลยนะครับว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นที่คุณจะต้องรู้ถึงแก่นของเรื่องนี้ ยิ่งหากคุณนั้นอยากที่จะให้แมวมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ ก็ขอแนะนำเลยครับว่าให้ทำการฝึกน้องแต่พอดี โดยใช้หลักการของพาฟลอฟในการจัดการ รับรองเลยครับว่าน้องจะนิ่ง และการฝึกจะเป็นไปได้ด้วยดี แน่นอน
ขอบคุณรูปภาพจาก : petsayhai.com
ขอบคุณแหล่งที่มา : petsayhai.com
ติดตามข่าวสาร ได้ที่ : mydeedees.com
|