3 เหตุผลที่เราไม่ควรใส่เสื้อผ้าให้กับสัตว์เลี้ยง

เคยเจอไหมครับเวลาไถมือถือเล่นโซเชียลเราจะเห็นภาพสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ มากมายที่ใส่ชุดสวยๆ ไม่ว่าจะเป็นชุดวิน ชุดการ์ตูนเท่ๆ ทำให้เรานั้นก็อดอยากหาไอเทมเหล่านั้นมาใส่ให้กับสัตว์เลี้ยงภายในบ้านของเราไม่ได้ แต่รู้หรือไม่ครับว่าการใส่เสื้อให้กับสัตว์เลี้ยงนั้นถือเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อสัตว์อย่างมากเลยครับ เพราะสัตว์เลี้ยงของเราไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใส่เสื้อผ้า

แต่ความเข้าใจผิดนี้เองก็ยืดยาวและเป็นที่สนใจของใครหลายคนจนน่ากลัว ซึ่งนอกจากสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมอย่างสุนัข หรือแมวแล้ว ก็ยังมีชุดสำหรับหนูแฮมสเตอร์ และสัตว์แปลกประเภทอื่นๆ ซึ่งวันนี้ผมอยากพาทุกคนไปดูกันครับว่าทำไมเราถึงไม่ควรใส่เสื้อผ้าให้กับสัตว์เลี้ยง และความน่ารักนั้นเองก็คือจุดเริ่มต้นของปัญหาหลายอย่างที่ตามมา ถ้าคุณอยากรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ผมจะพาทุกคนไปดูกันครับว่าทำไมเราถึงไม่ควรใส่เสื้อผ้าให้สุนัขใน 3 เหตุผลที่เราไม่ควรใส่เสื้อผ้าให้กับสัตว์เลี้ยง

1. ความอึดอัด ไม่ชิน เคลื่อนที่ยาก

โดยปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมวหรือสัตว์ใดๆ ในอดีตล้วนถูกวิวัฒนาการมาจากธรรมชาติ ร่างกายของน้องๆ ทั้งภายนอกและภายในถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับสภาพต่างๆ และพฤติกรรมความเป็นอยู่เพื่อใช้ในการดำรงชีวิต โดยการปกป้องร่างกาย ผิวหนังของสัตว์เหล่านี้จะเป็นในส่วนของขนที่ขึ้นมาอยู่ตามตัว ซึ่งขนเหล่านี้เป็นขนที่จะช่วยให้ร่างกายของสัตว์นั้นไม่ถูกขีดข่วนจากสิ่งต่างๆ รอบตัว และเป็นเสมือนเสื้อผ้าของสัตว์อยู่แล้ว

โดยในหน้าหนาวขนเหล่านี้จะช่วยในการทำให้ร่างกายของสัตว์อุ่นขึ้น และสามารถทนต่ออากาศหนาวได้ ส่วนหน้าร้อนขนที่ยาวและหนาก็จะถูกผลัดออก ทำให้สั้นและบางลง สามารถใช้ชีวิตในหน้าหนาวได้นั่นเอง ซึ่งวิธีการเหล่านี้ถือเป็นวิธีที่สมบูรณ์ในการใช้ชีวิตของสัตว์อยู่แล้ว ฉะนั้นการใส่เสื้อให้สัตว์จึงไม่จำเป็นเลยครับ และยังส่งผลเสียในอีกหลายๆ เรื่อง ที่คุณอาจคาดไม่ถึง ทั้งความอึดอัด ไม่สบายตัว ไปจนถึงอาจเกิดโรคกับผิวหนังได้เลยนะครับ

2. น้องจะร้อนและมีโอกาสเกิดโรคผิวหนังได้

อย่างที่รู้กันดีครับว่าอากาศเมืองไทยช่วงหน้าร้อนนี่เรียกได้ว่าร้อนจนทำอะไรแทบไม่ได้เลย ซึ่งหน้าร้อนแบบนี้ หลายบ้านก็จะใช้วิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงด้วยการพาไปทะเล ไปเล่นน้ำใช่ไหมครับ แต่ก็มีหลายคนที่ทำพลาดเพราะความไม่รู้แล้วอยากให้การออกไปข้างนอกของน้องๆ เป็นเรื่องที่สนุก ด้วยการใช้เสื้อผ้าให้น้องในหน้าร้อน วิธีนี้ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้นะครับ สามารถทำได้ เพียงแต่ว่า น้องๆ จะร้อนมากขึ้นครับ เพราะการสวมเสื้อทับขนหนาๆ ของน้อง เหมือนกับเราใส่เสื้อแขนยาว และใส่เสื้อกันหนาวทับลงไปอีกชั้นในหน้าร้อน ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องที่น่าประทับใจเลยใช่ไหมล่ะครับ และเชื่อว่าน้องๆ ก็คงไม่ชอบเช่นกัน ฉะนั้นทางที่ดีเราควรปล่อยให้น้องได้อยู่แบบธรรมชาติ และยังไม่หมดแค่นั้น การใส่เสื้อให้น้องแบบนี้ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนังได้ ซึ่งโรคผิวหนังเป็นอะไรที่รักษายากมาก และการรักษาแต่ละทีก็หมดเงินไปไม่ใช่น้อยๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราจึงต้องระวังเรื่องของการใส่เสื้อผ้าให้กับน้องนั่นเอง

3. ทำให้น้องรู้สึกว่าเป็นการลงโทษ เพราะถูกจำกัดด้วยเสื้อ

เวลาเราใส่เสื้อให้น้องๆ เรามักจะรู้สึกว่าเสื้อผ้าเหล่านี้ดูสวย น้องใส่แล้วดูน่ารัก โลกเป็นสีชมพู แต่รู้หรือไม่ครับ หากเราสังเกตพฤติกรรมให้ดี น้องจะรู้สึกว่านี่คือการลงโทษ ถ้ายังไม่มั่นใจลองย้อนกลับไปดูเวลาเราทำโทษน้องครับ เรามักจะใช้วิธีการที่ขัดต่อความต้องการของน้องเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการกักขัง การตี การดุ หรือตะโกน แน่นอนครับว่าถ้าคุณเลี้ยงสุนัขแบบนี้กับสุนัขตัวที่คุณกำลังจะสวมเสื้อให้อยู่ก็ต้องขอบอกไว้เลยครับว่า มีโอกาสสูงมากที่น้องนั้นจะคิดว่าวิธีนี้คือการลงโทษ เพราะน้องจะถูกจำกัดด้วยเสื้อ ยิ่งทำให้พฤติกรรมของน้องนั้นแย่ลง ทั้งความกลัว ความหวาดระแวง รวมไปถึงการไม่เชื่อใจเจ้าของ ซึ่งนั่นคงเป็นเรื่องที่เราทุกคนคงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงของเราแน่นอน ทางที่ดีเราควรปล่อยให้น้องได้อยู่แบบธรรมชาติ เพราะนั่นจะทำให้น้องรู้สึกสบายมากกว่าการหาเสื้อให้น้องใส่นั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ 3 เหตุผลที่เราไม่ควรใส่เสื้อผ้าให้กับสัตว์เลี้ยง ที่ทาง Petsayhi ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากครับ เพราะสัตว์เลี้ยงของเราก็เหมือนกับเรานี่แหละครับ ไม่ชอบการใส่เสื้อที่มากเกินไป เพราะทำให้ร้อน ขยับตัวยาก และที่สำคัญยังให้ความรู้สึกที่ไม่อิสระ ทางที่ดีไม่ว่าจะสัตว์แบบไหนก็ตาม ไม่ควรอย่างยิ่งเลยครับ ที่จะให้น้องต้องมาใส่เสื้อ เพราะน้องมีขนที่แสนพิเศษ สามารถเปลี่ยนแปลงตามรูปแบบและสถานการณ์ได้อยู่แล้วครับ ถ้าคุณชอบบทความดีๆ แบบนี้ และไม่อยากพลาดข่าวสาร เนื้อหาเด็ดๆ เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงก่อนใคร อย่าลืมติดตาม Petsayhi ไว้นะครับ รับรองว่าคุณจะได้เสพทุกเรื่องราวของสัตว์โลกก่อนใครแน่นอน

ขอบคุณรูปภาพจาก : petsayhai.com
ขอบคุณแหล่งที่มา : petsayhai.com