พ่อแม่มือใหม่ จะทำอย่างไรกับสุนัขใกล้คลอด
ประสบการณ์สำหรับคนที่เลี้ยงสุนัขตัวเมีย เชื่อว่าคงเคยผ่านกันมาทุกบ้านแล้ว กับการตั้งท้อง ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการผสมแบบตั้งใจ หรือน้องแอบไปมีสัมพันธ์สวาทกับหนุ่มๆ นอกบ้านก็ตาม พ่อแม่มือใหม่อย่างเราหลายครั้งก็ทำตัวไม่ถูกทั้งการดูแล พฤติกรรมต่างๆ ที่พ่อแม่อย่างเราแอบใจหายทุกครั้งที่เห็นน้องกระโดด โลดเต้นเกินกว่าที่ควรจะเป็น แต่คงไม่มีอะไรจะตื่นตาตื่นใจไปมากกว่าช่วงเวลาที่ใกล้คลอดแล้วแหละครับ เพราะช่วงเวลานี้เองเป็นช่วงเวลาที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้เห็นหน้าลูกๆ หลานๆ ของสุนัขตัวโปรดของเราลืมตาออกมาดูโลก และแน่นอนว่าคงไม่ดีแน่ๆ หากลูกสุนัขของเราเหล่านั้นต้องจากโลกนี้ไปเพราะการดูแลที่ไม่ดี สะเพร่าของเรา วันนี้ Petsayhi จะพาทุกคนไปดูกันครับว่า พ่อแม่มือใหม่อย่างเราจะทำอย่างไรให้น้องๆ ออกมาลืมตาดูโลกได้อย่างปลอดภัย และที่สำคัญผู้เลี้ยงเองจะได้ไม่รู้สึกผิดกับตัวเองใน พ่อแม่มือใหม่ จะทำอย่างไรกับสุนัขใกล้คลอด
ใกล้คลอดพาน้องไป x-ray
หลังจากที่เรารู้แล้วว่าน้องเริ่มตั้งท้องถึงแม้ว่าจะไม่รู้ใครเป็นพ่อของเด็กก็ตาม ผมอยากให้คุณนั้นได้ทราบถึงจำนวนของสุนัขก่อน เพราะการทราบจำนวนของลูกสุนัข เราจะรู้ถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ จะเป็นการตรวจสุขภาพน้องจากภายในอีกด้วย วิธีการที่หลายบ้านใช้กันคือการพาน้องไป X-ray การ X-ray เป็นการตรวจร่างกายภายในตัวน้องว่ามีอะไรบ้างที่ผิดปกติ หรือมีอะไรบ้างที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายก็สูงอยู่พอตัว แต่อย่างไรก็ตามความปลอดภัยของน้องต้องมาก่อนนะครับ เพราะน้องไม่สามารถสื่อสารความต้องการของตัวเองออกมาได้แบบตรงๆ จึงไม่แปลกที่เราซึ่งเป็นผู้เลี้ยงจะต้องทำการเตรียมการก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้น และการพาน้องไปพบกับสัตวแพทย์ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราจะได้คำแนะนำที่ถูกต้องจากคุณหมอด้วยนั่นเอง
อาหารที่ให้น้อง ต้องมีพลังงานที่สูง
การให้อาหารสำหรับสุนัขที่ตั้งท้อง จะต้องเปลี่ยนสูตรใหม่ เพื่อให้น้องนั้นได้รับสารอาหารที่เหมาะกับการใช้ชีวิตของน้องมากที่สุด อย่างที่เรารู้กันดีครับว่า การที่สุนัขเกิดการตั้งท้องนั่นหมายถึง สุนัขเองจะต้องใช้พลังงานที่ค่อนข้างสูงอย่างมากในการใช้ชีวิต เพราะสารอาหารที่กินเข้าไป ต้องมีการแบ่งให้กับน้องๆ เพื่อให้น้องที่อยู่ในท้องนั้นมีพัฒนาการที่ดี โตเร็ว และสร้างภูมิต้านต้านทานตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ จึงทำให้สุนัขที่ท้องเหนื่อยง่าย เราจึงควรเลือกอาหารที่เหมาะกับน้อง โดยเฉพาะกับในเรื่องของพลังงาน และคุณค่าทางโภชนาการ
สังเกตพฤติกรรมใกล้คลอด น้องจะมีความกระวนกระวาย
หากถามว่าจะรู้ได้อย่างไรครับว่าช่วงไหนที่น้องเริ่มใกล้คลอด และช่วงไหนที่น้องเราต้องสังเกตอาการน้องเป็นพิเศษ โดยธรรมชาติหากน้องพร้อมที่จะคลอดลูก หรือใกล้วันที่น้องกะไว้ น้องจะมีความกระวนกระวาย เริ่มจะแจงหาที่อยู่ หลีกเลี่ยงความอันตราย และเริ่มลดปริมาณอาหารที่กินต่อวันลง จนผิดปกติ หากเห็นแบบนี้ให้รู้ไว้เลยว่า น้องกำลังจะคลอดแล้วครับ ให้เราสังเกตอาการอยู่ห่างๆ ไม่เกิน 1 – 2 วัน หรือไม่ก็ไม่เกิน 24 ชม. มีคลอดแน่นอน
จัดบรรยากาศให้สงบ อากาศถ่ายเท
หากเราเห็นแล้วว่าน้องกำลังจะคลอดหรือมีพฤติกรรมที่บอกได้ว่าเป็นความเสี่ยง ให้เราจัดหาผ้า หมอน หรือจัดสถานที่ภายในบ้านให้สงบ เงียบ เพื่อให้น้องผ่อนคลายมากที่สุด ที่สำคัญควรหาเบาะ หรือหาผ้ามารองไว้โดยเฉพาะบริเวณช่วงล่างของน้อง เพื่อไม่ให้น้องเจ็บ หรือปวดเวลาคลอดออกมา เรื่องนี้บอกตามตรงว่าหลายคนนั้นมองข้าม การปล่อยให้น้องนอนอยู่บนพื้นที่มีความเย็น หรือร้อนจะส่งผลให้น้องเกิดความเครียด และทำให้การคลอดนั้นยากขึ้น หากคลอดยากขึ้นสิ่งที่ตามมาคือเรื่องของความเสี่ยงในการแท้ง หรือการเสียลูกได้นั่นเอง ฉะนั้นผู้เลี้ยงจึงควรให้ความสำคัญกับจุดนี้มากๆ นั่นเอง
อุปกรณ์ต้องพร้อม
ในกรณีที่คุณไม่มั่นใจคุณสามารถนำน้องไปที่โรงพยาบาลได้เลย แต่ผู้เขียนอยากบอกว่าไม่ต้องห่วงเลยครับ เพราะการคลอดคือเป็นพฤติกรรมทางธรรมชาติทุกบ้านต้องเจอ และแน่นอนว่าพฤติกรรมเหล่านี้น้องมีวิธีจัดการตามสัญชาตญาณแต่หากคุณอยากนำน้องไว้บ้านให้คลอดตามธรรมชาติ สิ่งที่ต้องเตรียมไว้คือ ลูกยางดูด ใช้สำหรับดูดของเหลวทางจมูก ปากน้องเพื่อป้องกันการสำลักหลังคลอด ผ้าสะอาดไว้เช็ดตัว และที่สำคัญ ต้องมีไฟ หรือโคมไฟ เพื่อให้ความอบอุ่นกับน้องนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ พ่อแม่มือใหม่ จะทำอย่างไรกับสุนัขใกล้คลอด ที่ทาง Petsayhi ได้นำมาให้ทุกคนได้อ่านกันในวันนี้ บอกตามตรงเลยครับว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ กับการคลอดโดยเฉพาะกับสุนัขตัวเมียที่บางตัวไม่สังเกตแทบดูไม่ออกเลยครับว่าน้องนั้นกำลังตั้งท้องอยู่ ผู้เลี้ยงจึงต้องหมั่นสังเกตน้องให้ดี เพื่อป้องกันการแท้ง และเกิดอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรา นอกจากนี้อย่าลืมจัดเตรียมคอก เตรียมกรงให้พร้อมกับสมาชิกใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นมาในบ้านของเรา
ขอบคุณรูปภาพจาก : petsayhai.com
ขอบคุณแหล่งที่มา : petsayhai.com
ติดตามข่าวสาร ได้ที่ : mydeedees.com
|