สั่ง ‘สกร.’ ชะลอใช้งบจัดซื้อหนังสือเรียน หลัง อรรถพลถูกร้องทุจริต ขีดเส้นสอบข้อเท็จจริง 15 วัน
อรรถพลถูกร้องทุจริต เมื่อเร็วๆ นี้ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่จัดการศึกษาในสังกัด ศธ. ตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จนถึงระดัพบอาชีวศึกษา โดยได้เน้นย้ำในเรื่องความปลอดภัยของผู้เรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาคารสถานที่ การเดินทางของนักเรียน และขอให้ดำเนินการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐานตามที่หลักสูตรกำหนด รวมถึงขอให้แต่ละหน่วยงานบริหารจัดการทั้งเรื่องคนและงบประมาณ อย่างโปร่งใส ต้องปลอดจากปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะในส่วนของ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ซึ่งปัจจุบันได้รับการยกฐานะเป็นกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ที่มีข้อร้องเรียนความไม่โปร่งใสในการใช้งบประมาณ ในการจัดซื้อหนังสือเรียนรวมถึงการเรียกรับเงินแต่งตั้งผู้บริหาร กศน.จังหวัด ซึ่งเบื้องต้น ตนได้สั่งระงับการเปลี่ยนแปลงการใช้จ่ายงบประมาณของ กสร. โดยอนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะงบบุคลากร ส่วนงบใช้จ่ายในการจัดซื้อหนังสือเรียนให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้ เพื่อให้เกิดการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างแท้จริงและขอให้รายงานการใช้จ่ายงบประมาณ ในทุกเรื่องให้สำนักงานปลัด ศธ. รับทราบโดยตรง
หลัง อรรถพลถูกร้องทุจริต เรื่องนี้ผมได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว
และได้เชิญนายคมกฤช จันทร์ขจร รองอธิบดี กสร. ในฐานะอดีตรักษาราชการแทนเลขาธิการ กศน. มาสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอให้เป็นหน้าที่ของกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยขอให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน หากพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริงก็ต้องว่ากันไปตามระเบียบ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยประเด็นนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ยังไม่ได้ตั้งนายคมกฤชเป็นรักษาการอธิบดี สกร. เพราะยังมีเรื่องของการตรวจสอบ รวมถึงพิจารณาในเรื่องของฝีมือการทำงาน และโดยหลักการบริหาร เห็นว่าควรตั้งข้าราชการระดับ 10 มาดูแล สกร. ตามสายการบังคับบัญชา ไม่ใช่ให้ข้าราชการระดับ 9 กำกับดูแลกันเอง ส่วนการบริหารงานภายใน สกร.นั้น เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อร้องเรียนเรื่องการทุจริต ดังนั้น จึงขอให้ชะลอการใช้งบประมาณในเรื่องต่างๆ ทั้งหมด ยกเว้นการทำงานในเรื่องปกติ ซึ่งเท่าที่ดูตามข้อร้องเรียน ในส่วนของการใช้งบปกติ คิดว่าไม่มีปัญหา แต่การใช้จ่ายงบประมาณอื่นๆ ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงงบประมาณนั้นค่อนข้างไม่เห็นด้วย เพราะการพัฒนากำลังคน ไม่ใช่เรื่องซื้อหนังสือเรียนอย่างเดียว ต้องดูเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวผู้เรียนด้วย โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในการเรียนการสอน” นายอรรถพลกล่าว
ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งอธิบดี กสร. โดยหลักแล้ว ควรให้รัฐบาลต่อไป มาดำเนินการสรรหาผู้ที่เหมาะสม แต่เร็วๆ นี้จะหารือกับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ว่าอาจจะต้องหาผู้ที่เหมาะสมมารักษาการก่อน เพื่อไม่ให้การทำงานสะดุด โดยควรจะต้องหาผู้ที่มีวุฒิภาวะ สามารถควบคุมการทำงานภายใน สกร. รวมถึงมีความเชี่ยวชาญการทำงานด้านระเบียบและงบประมาณ เข้ามาดูแล เพื่อให้ปรับภาพลักษณ์ให้ประชาชนมีความมั่นใจในการทำงานของ สกร.มากยิ่งขึ้น
สรุป
“ทั้งนี้ แม้จะยกฐานะจาก กศน.เป็น สกร. มีสถานะเป็นกรมส่งเสริมการเรียนรู้แล้ว ก็ยังมีสถานะเป็นหน่วยงานในกำกับของสำนักงานปลัด ศธ.เช่นเดิม เพียงแต่จะมีอิสระในเรื่องการบริหารจัดการงบประมาณ และบุคลากรมากขึ้น เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้คือเรื่องการถ่ายโอนการทำงาน ที่ต้องจัดทำให้รอบคอบ โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ และกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ สกร.จังหวัด รวมถึงประเด็นที่ต้องตัดสินใจ อย่างเช่น ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ) ซึ่งไม่น่าจะเป็นหน่วยงานทางการศึกษา เพราะไม่มีนักเรียน แต่สาเหตุที่ให้มีสถานะเหมือนสถาบันการศึกษา เพื่อให้บุคคลกรมีเส้นทางการเติบโตในสายงาน สามารถทำวิทยฐานะได้ ดังนั้น อาจจะเสนอให้มีการยกระดับเป็นกอง ภายใต้การกำกับของ สกร.ได้หรือไม่ ตรงนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ต้องหารือร่วมกันอย่างรอบด้านอีกครั้ง” นายอรรถพลกล่าว
อ้างอิง
https://www.matichon.co.th/
https://have-a-look.net/2023/05/24/%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%9e%e0%b8%a5%e0%b8%96%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%88%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%95-%e0%b8%8a%e0%b8%b0%e0%b8%a5/
|