“นักเรียนนักเลง” โจ๋ 2 กลุ่ม ดวลเดือดหน้าโรงเรียน นร.แตกตื่นหลบลูกหลง
2 กลุ่มวัยรุ่นคู่อริ ดวลเดือดหน้าโรงเรียน ย่านบางบ่อ ชักปืนยิงใส่-ระเบิดปิงปองปาสวน นักเรียนแตกตื่นวิ่งหลบลูกหลงจ้าละหวั่น โชคดีไร้เจ็บ-ตาย ตำรวจตามรวบได้แล้ว 3 อ้างถูกหยามศักดิ์ศรีจึงล่าตัวเปิดศึก
เมื่อวันที่ 24 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกล้องหน้ารถของพลเมืองดีรายหนึ่ง สามารถจับภาพเหตุการณ์วัยรุ่น 2 กลุ่ม ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน ที่บริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยในคลิปจะเห็นว่า มีกลุ่มวัยรุ่น อายุประมาณ 16-18 ปี ขับขี่ จยย.ซ้อนท้ายกันมา รวม 3 คัน ก่อเหตุชักปืนยิงใส่กลุ่มคู่อริเสียงดังสนั่น
ก่อนที่อีกฝ่ายจะใช้ระเบิดปิงปองปาสวนตอบโต้ทันควัน ซึ่งช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นช่วงเย็นหลังโรงเรียนเลิกพอดี ส่งผลทำให้นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้คนที่ใช้เส้นทางบริเวณดังกล่าวสัญจรผ่านไปมา ต่างตื่นตกใจและพากันวิ่งหาที่หลบภัยหวั่นโดนลูกหลงกันจ้าละหวั่น โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังรับแจ้งพบระเบิดปิงปอง
ซึ่งอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ถูกวางทิ้งบริเวณข้างทาง ริมถนนสายบายพาสบางบ่อ คาดว่าน่าเกี่ยวโยงกับเหตุดังกล่าว จึงประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าทำการเก็บกู้
โดยหลังเกิดเหตุไม่นาน พ.ต.อ.ศุภกรณ์ บูรณะภักดีตระกูล ผกก.สภ.บางบ่อ
ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บางบ่อ ออกติดตามไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยล่าสุดมีรายงานว่า สามารถตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ปรากฏตามคลิปได้แล้ว 3 คน พร้อมอาวุธปืนจำนวน 1 กระบอก ได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งใน อ.บางบ่อ ทราบชื่อคือ 1.นายนพรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ซึ่งเป็นคนยิง ปี 2.นายเจษฎากร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี และ 3. นายธนทรัพย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวจริง
จากการสอบสวน วัยรุ่นทั้ง 3 ให้การว่า กลุ่มคู่อริอยู่ต่างโรงเรียนกัน ถูกหยามศักดิ์ศรีด้วยการใช้เท้าเหยียบย่ำเข็มสถาบันและท้าทายกัน จึงพาเพื่อนขับ จยย.ออกตามหาอีกฝ่าย ก่อนมาเจอที่หน้าโรงเรียนดังกล่าว จึงเปิดศึกชักปืนยิงใส่ก่อนถูกอีกฝ่ายใช้ระเบิดปิงปองปาสวนตอบโต้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดี พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจและฝ่ายสืบสวน เพิ่มความงวดกวดขันและเร่งนำตัววัยรุ่นกลุ่มเสี่ยงมาทำประวัติ เพื่อป้องปรามการก่อเหตุในอนาคตต่อไป
ขอบคุณรูปภาพจาก : thairath.co.th
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th
ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net