ประโยชน์ของอะโวคาโด มีไขมันดี ที่ดีต่อสุขภาพ และข้อควรระวัง
อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีผิวที่มีลักษณะขรุขระ เปลือกหนา มีสีเขียวเข้ม เมื่อสุกจัดจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงหรือดำ เนื้ออะโวคาโดจะมีลักษณะเป็นครีม อ่อนนุ่ม มีรสชาติคล้ายเนย อะโวคาโด ประกอบไปด้วยไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีสารอาหารอีกหลายอย่างที่มีประโยชน์ Sanook Health นำสารพัดประโยชน์ของอะโวคาโด และทิปส์เล็กๆ น้อยๆ ในการทานอะโวคาโด มาฝากกันค่ะ
ประโยชน์ของอะโวคาโด ที่ดีต่อสุขภาพ
- อะโวคาโดประกอบไปด้วยไขมันดี ชนิดไม่อิ่มตัว ซึ่งมีประโยชน์ต่อการลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและการเกิดอัมพฤกษ์ในหลอดเลือด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มระดับความสมดุลของคอเลสเตอรอลในร่างกายด้วย
- อะโวคาโดมีปริมาณแคลอรี่สูงมาก ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ดีสำหรับการเติมพลังงานให้กับร่างกาย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ดี ทำให้ร่างกายเติบโตและฟื้นฟูเนื้อเยื่อได้อย่างดี
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ อะโวคาโดเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) ที่ช่วยปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระที่สร้างความเสียหายต่อเซลล์ มีสารอะโวคาทินบี (avocatin B) ที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งได้และช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
- อะโวคาโดมีสารอาหารสำคัญอย่างวิตามิน K, วิตามิน E, วิตามิน C, และวิตามิน B-complex ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน สมดุลการทำงานของระบบประสาท และสุขภาพของผิวหนัง
- อะโวคาโดมีปริมาณใยอาหารสูง ซึ่งช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและการขับถ่ายอย่างเรียบร้อย ช่วยลดความดันโลหิต และเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานได้
- อะโวคาโดมีการส่งเสริมให้ระดับฮอร์โมนเติบโตได้อย่างสมดุล เช่น ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของผม ผิวหนัง และระบบสืบพันธุ์
สำหรับผู้ที่ไม่แพ้อะโวคาโด การบริโภคอะโวคาโดเป็นประจำ จะช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีและช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ อย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับผู้ที่ไม่แพ้อะโวคาโด การบริโภคอะโวคาโดเป็นประจำ จะช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีและช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ อย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรระวังในการทานอะโวคาโด มีดังนี้
- บางคนอาจมีการแพ้อะโวคาโด ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้ที่เรียกว่าอาการภูมิแพ้ (allergic reactions) เช่น ผื่นแดง อาการคัน บวม หรือจากแสงแดด หากคุณมีอาการแพ้ทางอาหารหรืออาการภูมิแพ้อื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะบริโภคอะโวคาโด
- อะโวคาโดมีปริมาณแคลอรี่สูง โดยเฉพาะในการบริโภคอะโวคาโดในปริมาณมาก นั่นอาจทำให้เกิดการสะสมของพลังงานเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดเรื่องของน้ำหนักเกิน ดังนั้นควรคำนึงถึงปริมาณและสมดุลการบริโภคในเครื่องมือของแพทย์หรือโภชนากรอาหาร
- การเลือกอะโวคาโดสุก: เมื่ออะโวคาโดยังไม่สุก มีสารพิษที่เรียกว่าไพรเอทิน (persin) อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย อาเจียน หรือท้องเสียได้ ดังนั้นควรใช้อะโวคาโดที่สุกแก่และแกะเปลือกออก
- อะโวคาโดสามารถสะสมสารเคมีเช่น สารเคลือบกันเสีย (pesticides) จากกระบวนการปลูกหรือการให้ปุ๋ยเคมี ดังนั้น ควรเลือกซื้ออะโวคาโดที่มีคุณภาพและได้รับมาตรฐานความปลอดภัยจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
- อะโวคาโดมีปริมาณไขมันสูง ซึ่งอาจทำให้รู้สึกอิ่มและหนักท้องได้ ควรคำนึงถึงสมดุลของอาหารทั่วไปและการบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
- ไม่ควรกินอะโวคาโดเกินครั้งละ 1 ผล เนื่องจากอะโวคาโดมีแคลอรี่สูง เพราะถ้าร่างกายเผาผลาญพลังงานส่วนนี้ไม่หมด จะถูกนำไปสะสมไว้ในรูปไขมัน
สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพหรือการแพ้อะโวคาโด การบริโภคอะโวคาโดอย่างสมดุลและเป็นส่วนเสริมในโภชนาการสามารถนำมาเสริมสร้างสุขภาพได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม ควรปฏิบัติตามหลักการโภชนาการที่ถูกต้องและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการบริโภคอะโวคาโด
อะโวคาโด พันธุ์ไหนอร่อย
อะโวคาโดมีหลายพันธุ์ที่มีรสชาติและลักษณะที่แตกต่างกันไป ดังนี้เป็นตัวอย่างของพันธุ์อะโวคาโดที่มีความนิยม ดังนี้
- Hass Avocado อะโวคาโดพันธุ์ Hass เป็นพันธุ์ที่นิยมมากที่สุด มีเนื้อมัน กลมรูปและมีเนื้อหนา มีรสชาติหวานกลมกล่อม พันธุ์นี้เหมาะแก่การทานสดหรือใช้ในอาหารและเครื่องปรุงรสต่างๆ
- Fuerte Avocado อะโวคาโดพันธุ์ Fuerte เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากในอดีต มีเนื้อเนียนเป็นเนื้อแกมสีเขียวและเนื้อหอมอ่อน มีรสชาติอ่อนหวานและมีความสมดุล มักถูกนำมาใช้ในการทำกับข้าวหรือเสิร์ฟบนขนมปัง
- Pinkerton Avocado อะโวคาโดพันธุ์ Pinkerton มีเนื้อขาว มีความหอมและรสชาติเปรี้ยวอมหวาน มักใช้ในอาหารที่เตรียมล่วงหน้าเช่น สลัด หรือเครื่องปรุงรสอื่นๆ
- Reed Avocado อะโวคาโดพันธุ์ Reed มีขนาดใหญ่และเนื้อหนา มีรสชาติหวานเข้ม มักนำมาใช้ในอาหารทางเครื่องดื่ม และเครื่องปรุงรสต่างๆ เช่น น้ำผลไม้และไอศกรีม
*ความอร่อยของอะโวคาโดขึ้นอยู่กับรสชาติและความชอบของแต่ละบุคคล
ขอบคุณรูปภาพจาก : sanook.com
ขอบคุณแหล่งที่มา : sanook.com
ติดตามข่าวสาร ได้ที่ : thaigoodherbal.com