“ฤทธิ์เทวดา เพชรยินดีอะคาเดมี” อีกหนึ่งนักมวยไทยระดับซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของเมืองไทยกำลังจะได้ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกบนเวทีใหญ่ระดับโลกอย่าง วัน แชมเปียนชิพ หลังจากที่เฝ้ารอคอยกันมานาน โดยจะลงศึกปะทะมวยรุ่นพี่ "เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์" ในฐานะคู่เอกของศึก ONE: NEXTGEN II ซึ่งจะออกอากาศเทปการแข่งขันในวันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2564
ก่อนที่ ฤทธิ์เทวดา จะได้โชว์ฝีมือสู่สายตาแฟนกีฬาทั่วโลก เราจะพาทุกคนย้อนหลังไปดูเส้นทางชีวิตที่ผ่านมาซึ่งหล่อหลอมให้เขาเป็นหนึ่งในสุดยอดฝีมือรุ่นใหม่มาแรงที่อาจก้าวขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์คนต่อไปบนเวทีระดับโลก
โตในครอบครัวนักมวย
ฤทธิ์เทวดา หรือชื่อจริง “นายธนกฤษ สิทธิกุล” ชื่อเล่น “ปั่น” เป็นคน อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เกิดวันที่ 15 มิถุนายน 2539 เป็นลูกชายคนที่สองของบ้าน โดยมีพี่ชาย 1 คน และน้องชาย 1 คน
คุณพ่อของ ฤทธิ์เทวดา คือ ร.ต.ต.นิพนธ์ สิทธิกุล ซึ่งมีอาชีพรับราชการตำรวจ แต่ด้วยความที่เคยเป็นนักมวยเก่า เขาจึงสร้างค่ายมวยเล็ก ๆ ของครอบครัวในชื่อ “ค่ายมวยสิทธิกุล” และจับลูกชายทั้งสามคนหัดมวยมาตั้งแต่เด็ก
ปัจจุบัน ลูก ๆ ทั้งสามก็ยังสานต่อเจตนารมณ์ของพ่อในการเป็นนักสู้บนผืนผ้าใบ โดยพี่ชายคนโตเป็นรู้จักกันดีในชื่อ “เดชเทวดา สิทธิกุล” ส่วนน้องชายคนเล็กก็กำลังเจริญรอยตามพี่ ๆ โดยมีฉายาว่า “คัมภีร์เทวดา สิทธิกุล”
จากอีสานสู่เมืองกรุง
ภายหลัง ฤทธิ์เทวดา มีผู้เข้ามาสนับสนุนโดยเปลี่ยนชื่อเป็น “ฤทธิ์เทวดา ส.นิภาพร” เขาสั่งสมชื่อเสียงและกระดูกมวยด้วยการเดินสายชกไปทั่วภาคอีสานจนแทบจะหาคู่เปรียบมวยไม่ได้ โดยสามารถกวาดเข็มขัดแชมป์มวยสยามภาคอีสานมาครองถึง 5 รุ่น และแชมป์มวยภาคอีสานอีก 2 รุ่น
ด้วยฝีมืออันโดดเด่นที่มีทั้งอาวุธครบเครื่องและไอคิวมวยเป็นเลิศ ทำให้ ฤทธิ์เทวดา เป็นที่ต้องการตัวจากโปรโมเตอร์ชื่อดัง จนในที่สุดเขาก็มีโอกาสเข้ามาโชว์ฝีมือในเมืองกรุงซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาโด่งดังเป็นพลุแตก
แจ้งเกิดจากมวยจอตู้ เมื่อเข้าสู่เมืองกรุง ฤทธิ์เทวดา แจ้งเกิดอย่างเปรี้ยงปร้างตั้งแต่ไฟต์เปิดตัวบนเวทีมวยหลากสีด้วยการชนะมวยรุ่นพี่อย่าง "รุ่งเกียรติ ซากามิ" ในวัยเพียง 17 ปี ในปีเดียวกัน เขาก็สามารถคว้าแชมป์มวยไทยช่องเจ็ดสี รุ่น 140 ปอนด์ รวมทั้งรางวัลคู่มวยดุเดือดแห่งปีช่อง 7 สี ปี 2557 และกลายเป็นขวัญใจคอหมัดมวยจอตู้ตั้งแต่นั้นมา จากนั้น ฤทธิ์เทวดา ก็เดินหน้ากวาดเข็มขัดแชมป์จากหลายเวที ได้แก่ แชมป์สภามวยไทยโลก (WMC) รุ่น 140 ปอนด์ และแชมป์เวทีลุมพินี รุ่น 140 ปอนด์ จนมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะมวยยอดฝีมือที่หาตัวจับยากคนหนึ่งของไทย
ทิ้งค่าตัวเรือนแสนตามความฝัน จากนักชกภูธร ฤทธิ์เทวดา กลายเป็นนักมวยยอดฝีมือค่าตัวเรือนแสนที่มีแต่ค่ายดังต้องการตัว แต่เขากลับตัดสินใจทิ้งชื่อเสียงเงินทองเพื่อทำตามความฝันในการเป็นนักมวยสากลทีมชาติไทย
ฤทธิ์เทวดา ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กว่ามีธงขาติไทยติดอยู่ที่อกเสื้อ จึงเบนเข็มมาชกมวยสากลโดยลงแข่งครั้งแรกในศึก "ไทยแลนด์โอเพ่น อินเตอร์เนชั่นแนล บ๊อกซิ่ง ทัวร์นาเมนต์ 2019 ครั้งที่ 2” ในปี 2562 และคว้าชัยชนะอย่างสวยงาม แต่ด้วยประสบการณ์การชกมวยที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับนักชกคนอื่นในทีมทำให้ ฤทธิ์เทวดา มีโปรแกรมการชกน้อย ประกอบกับรายรับไม่เพียงพอกับภาระค่าใช้จ่าย เขาจึงตัดสินใจอำลาทีมชาติไทย กลับมาชกมวยไทยอีกครั้งหลังจากรับใช้ชาติอยู่ 2 ปี
ซบค่ายใหม่พร้อมก้าวสู่เวทีโลก
ฝีมือของ ฤทธิ์เทวดา ไปเข้าตาของค่ายใหญ่หลายค่ายซึ่งพยายามทาบทามเขาเข้าสังกัด แต่เขาก็ยังไม่ปลงใจกับค่ายใด จนกระทั่งล่าสุด ฤทธิ์เทวดา ตัดสินใจไปซบอกค่าย “เพชรยินดีอะคาเดมี” โดยให้เหตุผลว่าเขาต้องการความก้าวหน้าในชีวิต ซึ่งค่ายเพชรยินดีฯ ก็เป็นค่ายมาตรฐานที่ส่งนักชกไปโชว์ผลงานบนเวทีระดับโลกอย่าง ONE มาแล้วหลายคน ฤทธิ์เทวดา จึงหวังว่าเขาจะรับได้โอกาสในการก้าวขึ้นเป็นนักมวยระดับโลกด้วยเช่นเดียวกัน และตอนนี้ โอกาสทองก็ตกมาถึงมือเมื่อ ฤทธิ์เทวดา กำลังจะได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกบนเวที ONE ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นโอกาสสำคัญที่เขาอาจแย่งเก้าอี้เบอร์หนึ่งของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต มาครองแทน เสมาเพชร ผู้รั้งตำแหน่งคนปัจจุบัน ซึ่งหมายความว่าเขาก็จะได้เป็นผู้ท้าชิงรายต่อไปของแชมป์โลกฆ่าไม่ตายอย่าง "น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว" ทันที
ติดตามการเปิดตัวครั้งแรกของ ฤทธิ์เทวดา บนเวที ONE ในศึก ONE: NEXTGEN II วันศุกร์ที่ 12 พ.ย.นี้ เวลา 19.30 น. รับชมทางแอปมือถือ ONE Super App, ยูทูบ ONE Championship, AIS Play (เฉพาะลูกค้า AIS), ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 22.40 น.
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวแวดวงกีฬา เทรนใหม่ๆ ได้ที่ ankaradaplastikkalip.com
|