ปราสาทสายฟ้า บุรรัมย์ ยูไนเต็ด ประกาศคว้าแชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ พร้อมเหมาทุกถ้วยในปีนี้ ด้านแข้งเทพไม่หวั่นโวย้ำแค้นผงาดถ้วยแรก
นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย นายโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน รองผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ โดยเครื่องดื่มตราช้าง ร่วมกันเป็นประธานในการแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอล ช้าง เอฟเอคัพ 2022/23 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง "แข้งเทพ"ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กับ "ปราสาทสายฟ้า"บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่สโมสรราชพฤกษ์ เมื่อ 25 พ.ค.
โดยฟุตบอล ช้าง เอฟเอคัพ 2022/23 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง บุรีรัมย์ในฐานะแชมป์เก่าและแชมป์ 5 สมัย จะพบกับ ทรู แบงค็อก ที่เข้าชิงเป็นครั้งที่ 2 และกำลังลุ้นแชมป์แรกในประวัติศาสตร์สโมสร จะมีขึ้นที่สนามม.ธรรมสาสตร์ รังสิต วันที่ 28 พ.ค. เวลา 18.00 น. ซึ่งผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท
น.ส.สมาพร ผลบุตร ผู้อำนวยการบุรีรัมย์ กล่าวว่า สภาพความพร้อมของทีมไม่มีปัญหาอะไร น่าจะผ่านความฟิตลงเล่นได้ทุกคน ส่วนเป้าหมายแน่นอนว่าบุรีรัมย์ต้องการป้องกันทริปเปิลแชมป์เอาไว้ให้ได้ เหลือเพียงรายการสุดท้ายเท่านั้น อย่างไรก็ตามไม่รู้สึกกดดันเพราะเรามีประสบการณ์เข้าชิงชนะเลิศมาเยอะ นักกีฬาอาจจะกดดันเล็กน้อยแต่คิดว่าจะผ่านไปได้
"เกมที่เราแพ้แบงค็อกในเกมลีกเป็นเกมสูสี เล่นดีทั้งสองทีม แต่จังหวะเวลาที่บียูยิงประตูชัยได้ไม่มีเวลาให้กลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว ดังนั้นเราจะมาแก้ไขในนัดชิงชนะเลิศครั้งนี้"
ขณะที่ ซารีฟ สายนุ้ย สต๊าฟโค้ชของทรู แบงค็อก กล่าวว่า สภาพทีมพร้อมหมดเหลือแค่รอลุ้นอาการของวานเดอร์ หลุยส์ ที่มีอาการบาดเจ็บ ต้องดูว่าโค้ชแบน (ธชตวัน ศรีปาน) หัวหน้าผู้ฝึกสอนจะตัดสินใจอย่างไร
ซารีฟ กล่าวต่ออีกว่า พยายามไม่มองสถิติที่ผ่านมาเพราะนี่คือเกมนัดเดียว ต้องไปดูกันในสนามว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนการที่เคยเอาชนะมาล่าสุดในลีกนั้น จะเอาบทเรียนจากเกมนั้นมาสร้างความมั่นใจในเกมนี้ และยังมั่นใจว่าจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับสโมสรให้ได้
"เกมนี้เราได้เปรียบเสมือนเล่นในบ้านตัวเอง อยากให้กองเชียร์ทรู แบงค็อก มากันเยอะๆ และเราจะเอาชนะให้ได้" ซารีฟ กล่าวปิดท้าย
ส่วน ชญาวัตร ศรีนาวงษ์ ปีกของบียู กล่าวว่า จุดแข็งของบุรีรัมย์นั้นคือเกมรุกโจมตีได้หลากหลาย รวมถึงการเปิดบอลจากด้านข้าง จะต้องระวังให้ดี ตอนนี้ในทีมมีความตั้งใจซ้อมกันมากๆ ยิ่งล่าสุดเอาชนะมาได้ทำให้มีความหึกเหิมมากขึ้น ดูมีพลังในการเจอกับบุรีรัมย์ในเกมนี้
"ไม่รู้สึกกดดันอะไร ถึงบุรีรัมย์จะประสบความสำเร็จมาเยอะ แต่เราไม่กลัว จะทำให้เหมือนเกมที่เคยเอาชนะมาได้ ย้ำแค้นอีกครั้งหนึ่ง"
ทั้งนี้ 2 สโมสรสามารถคว้าสิทธิเล่นเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในฤดูกาลหน้าได้ทั้งสองทีมแล้ว ทำให้นัดชิงชนะเลิศนี้ไม่มีผลต่อโควตาแต่อย่างใด
ginoseastlibertyville.com
|