เจ้าของฉายา "Lil’ Savage" วัย 28 ปี ได้รับการยอมรับในฐานะหนึ่งในนักสู้หญิงรุ่นอะตอมเวตที่เก่งที่สุดในฝั่งอเมริกา โดยไฟต์ล่าสุดเธอเพิ่งเผชิญหน้ากับนักสู้สาวจากแดนโรตี "อาชา โรกา" ก่อนจะโชว์ฝีมือด้วยการจับซับมิชชันได้ตั้งแต่ในยกแรก เพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี

สำหรับศึกนี้ “อลิส” รู้ตัวว่าถูกมองเป็นรองหลายช่วงตัว ทั้งประสบการณ์ในเวที ONE รวมถึงการต้องสู้กับสาวไทยวัย 25 ปี ผู้มีดีกรีแชมป์เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับหนึ่งของแรงกิงรุ่นนี้ด้วย

แต่ถึงอย่างนั้น "อลิส" ก็ยังมองว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่เธอจะได้พิสูจน์ตัวเองในบ้านเกิดต่อหน้าแฟนกีฬาชาวอเมริกัน รวมถึงยังเป็นบันไดขั้นสำคัญที่จะส่งให้เธอก้าวกระโดดขึ้นไปอยู่ในท็อปไฟว์แรงกิงของรุ่นนี้ หากสามารถเอาชนะ "แสตมป์" ได้สำเร็จ ซึ่งเท่ากับว่าเธอจะย่นระยะเวลามากขึ้นในการแตะให้ถึงบัลลังก์

“ฉันได้รับข้อเสนอให้สู้กับ แสตมป์ มันเป็นโอกาสที่ดี ไม่มีวิธีไหนที่จะไต่ระดับในแรงกิงแบบก้าวกระโดด ได้เท่ากับการเอาชนะคนที่อยู่อันดับหนึ่งอีกแล้ว ฉันแค่คิดว่าคนทั่วไปอาจมองว่าฉันยังไม่มีประสบการณ์มากนัก และนี่คือเหตุผลที่ฉันตั้งใจจะพิสูจน์ตัวเองให้เห็นในการประกบคู่สุดโหดนี้”

โดย "อลิส" มองว่าทักษะเกมนอนของ "แสตมป์" ยังมีช่องโหว่พอสมควรในการสู้ด้วยกติกา MMA ถึงแม้ช่วงหลังจะมีพัฒนาการด้านนี้ขึ้นมามากก็จริง และมั่นใจว่าจะสามารถเผด็จศึกด้วยการซับมิชชันที่เป็นสกิลถนัดของตัวเองได้อย่างแน่นอน

“แสตมป์ เป็นคิกบ็อกเซอร์ระดับโลก แต่เธอมีช่องโหว่ในเกม MMA ของเธอ ที่ฉันเห็นจากตอนที่เธอลงแข่ง บอกตามตรงเธอยังมีช่องโหว่ใหญ่มาก และฉันมองเห็นจุดที่ฉันได้เปรียบเธอ ระดับฝีมือในเกมปล้ำของเธอไม่ทำให้ฉันกังวลแต่อย่างใด”

“ฉันมั่นใจว่าจะซับมิชชันเธอได้แน่นอน เพราะฉันแข็งแกร่งกว่าที่เธอคิดมาก โดยเฉพาะด้านทักษะคว้าจับล็อกที่เธอยังแกร่งไม่พอ เธอจะได้รู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่ต่างกันแบบคนละชั้นค่ะ ฉันรู้ดีว่าเธอหมัดหนักแค่ไหน แต่ถ้าเป็นทักษะคว้าจับล็อกแล้ว ฉันว่าเธอยังไม่แกร่งพอค่ะ”

https://preschoolctr.com