ถนนไฟฟ้า ที่จะแก้ปัญหา ของเหล่าผู้ใช้รถ EV ยุคปัจจุบัน
โดยเฉพาะในบ้านเรา เท่าที่ผมได้รับฟีดแบ็กมาจากคนรู้จักที่เริ่มซื้อรถพลังไฟฟ้ามาใช้กันแล้ว ก็คือเรื่องของสถานีชาร์จครับ เพราะหลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกัน โดยเฉพาะหากต้องใช้บริการสถานนีชาร์จนอกบ้าน เนื่องจากจุดชาร์จตามสถานที่ต่าง ๆ แม้จะเริ่มมีเยอะขึ้นแต่ก็ชาร์จได้บ้างไม่ได้บ้าง
ผมเคยเขียนถึงเรื่องนี้ในหัวข้อ “ปัญหาตบตี แย่งสถานีชาร์จ EV” ไปแล้วเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งมาถึงวันนี้ก็ยังขอย้ำคำเดิมว่าหากใครที่กำลังมีแผนซื้อรถ EV เป็นคันต่อไป เพื่อความชัวร์ ควรต้องมีจุดชาร์จของตัวเองที่บ้านที่สามารถจอดชาร์จแบบข้ามคืนได้ เพราะหากไปหวังพึ่งจุดชาร์จนอกบ้าน บอกเลยว่าคงต้องลุ้นไม่น้อยครับว่ามันจะใช้ได้หรือไม่
นั่นทำให้นอกจากการพัฒนารถ EV แล้ว ที่ต้องทำควบคู่กันไปด้วยก็คือสถานีชาร์จและแบตเตอรี่
เพราะว่าจุดอ่อนที่สุดของรถพลังไฟฟ้าก็คือการชาร์จไฟ ที่ไม่ว่าจะใช้ระบบ Quick Charge ที่เร็วแค่ไหน ก็ต้องมี 30-40 นาทีเป็นอย่างน้อย ล่าสุดที่ประเทศสวีเดนครับ เขามีการเตรียมสร้างถนนไฟฟ้า ที่สร้างขึ้นเพื่อรถ EV ได้ชาร์จไปขับไปกันเลยทีเดียว
แว่บแรกที่ผมเห็นข่าวนี้ ภาพที่ผุดขึ้นมาในหัว คือภาพของรถไฟฟ้าที่มีสายไฟระโยงระยางอยู่ด้านบน รวมไปถึงรถรางกรุงเทพฯ สมัยก่อนที่ใช้กำลังจากสายไฟฟ้าด้านบน ซึ่งเมื่อเข้าไปดูรายละเอียดแล้ว ยังไม่มีการยืนยันนะครับว่าจะสร้างออกมาในรูปแบบใด แต่ที่แน่ ๆ เขามีการทดลองทั้งแบบที่มีสายไฟอยู่ด้านบน และแบบฝังขดลวดที่ใต้ดินสำหรับการชาร์จแบบไร้สาย
แนวคิดเริ่มต้นนี้ จริง ๆ แล้วมาจากเป้าหมายการลดปริมาณคาร์บอนจากการเผาไหม้ของรถบรรทุกหนัก ที่หากเป็นรถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงก็จะก่อมลพิษมากกว่ารถทั่วไป และหากเป็นรถบรรทุกแบบ EV ก็คาดว่าต้องใช้เวลาในการชาร์จไฟมากขึ้นหลายเท่า เพราะด้วยขนาดของแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น นั่นทำให้เกิดเป็นแผนที่จะสร้างทางให้ขับไปชาร์จไปทีเดียวเลย
แม้ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2020 ที่ผ่านมา จะมีการเติบโตกว่า 40%
แต่ถ้ามาดูในภาพรวมของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั่วโลก รถไฟฟ้ายังมีสัดส่วนของยานยนต์ไฟฟ้าเพียง 5%
ในขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งถือเป็นเจ้าแห่งนวัตกรรม กลับมีสัดส่วนยอดขายรถไฟฟ้าเพียง 2% เท่านั้น
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บางคนยังลังเลที่จะเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าก็คือ “แบตเตอรี่”
ทั้งเรื่องความจุแบตเตอรี่ที่ยังไม่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในระยะทางไกล ทำให้ต้องชาร์จบ่อย
สวนทางกับสถานีชาร์จที่ยังคงมีอยู่น้อย ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในนโยบายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
ที่ต้องการสร้างสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า 5 แสนแห่งทั่วประเทศภายในปี 2030
แต่อีกหนึ่งนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างน่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ “E-Road”
โดย E-Road คือนวัตกรรมในการสร้างถนนที่ทำให้ยานยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จแบตเตอรี่ขณะขับขี่บนท้องถนนไปด้วยได้พร้อม ๆ กัน
แล้วที่ผ่านมา เทคโนโลยีในการสร้าง E-Road เป็นอย่างไร ?
สำหรับเทคโนโลยีการสร้าง E-Road แบบแรก ซึ่งมีมานานที่สุดก็คือ “ระบบรับไฟฟ้าแบบสายส่งเหนือหัว”
วิธีนี้จะเป็นการวางระบบสายไฟโยงอยู่เหนือยานพาหนะขณะขับขี่ไปด้วย ทำให้ยานพาหนะชาร์จแบตเตอรี่ได้โดยตรงจากสายไฟเหล่านั้นเลย
ตัวอย่างของบริษัทที่เลือกพัฒนาเทคโนโลยีนี้ก็คือบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศเยอรมนีอย่าง Siemens
แต่แม้ว่าระบบรับไฟฟ้าแบบสายส่งเหนือหัวจะมีต้นทุนการวางระบบที่ไม่สูงมากนักและเป็นวิธีที่ส่งกระแสไฟฟ้าได้เร็ว เพราะเชื่อมต่อสายชาร์จไฟโดยตรง
แต่เทคโนโลยีดังกล่าวจะใช้ได้กับรถที่มีความสูง เช่น รถบรรทุกและรถบัสเท่านั้น การลงทุนในระบบนี้จึงมีข้อจำกัดสูงและไม่ค่อยคุ้มค่า
นั่นจึงนำมาสู่การพัฒนานวัตกรรมชาร์จแบตเตอรี่จากพื้นถนนแทน ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับยานยนต์ได้ทุกประเภท
ขณะที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วยุโรป กำลังยกระดับความพยายามในการลดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
สวีเดนก็กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการแปลงถนนทางหลวง ให้กลายเป็นถนนที่ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างถาวรเป็นแห่งแรก โดยตั้งเป้าจะทำระบบชาร์จพลังงานไฟฟ้าบนถนน ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า และรถบรรทุกสามารถชาร์จไฟขณะขับขี่ได้ โดยไม่ต้องคอยจอดชาร์จตามสถานี
โครงการเพื่อสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า
โครงการนี้นำโดยหน่วยงานการขนส่งแห่งสวีเดน ซึ่งได้เลือกทางหลวงหมายเลข E20 มาเป็นเส้นทางทำระบบไฟฟ้าบนถนน หรือที่เรียกว่า ERS ซึ่งย่อมาจาก Electric Road System บนเส้นทางความยาวกว่า 21 กิโลเมตร เริ่มจากเมืองฮอลส์เบิร์ก (Hallsberg) ไปยังเมืองโอเรโบร (Örebro) ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสองเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ นั่นคือ สต็อกโฮล์ม (Stockholm) และโกเธนเบิร์ก (Gothenburg)
ถนนไฟฟ้า เทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่จากพื้นถนนที่นิยม จะแบ่งได้เป็น 2 แบบ
แบบแรกจะเป็น “ระบบรางนำไฟฟ้า” โดยจะติดตั้งรางไว้ที่ถนนตรงกลางเลนเสมอไปกับผิวถนน
ส่วนที่ใต้ท้องยานยนต์ไฟฟ้า ก็จะติดตั้งแท่งเหล็กที่สามารถพับเก็บได้แบบอัตโนมัติ
โดยทางสวีเดนมีแผนที่จะเปิดใช้ถนนไฟฟ้านี้เป็นที่แรกของโลกให้ได้ภายในปี 2025 ครับ
ซึ่งเบื้องต้นจะทำบนเส้นทางหลวงหมายเลข E20 วิ่งจาก Hallsberg ไปยัง Örebro รวมระยะทางราว 21 กิโลเมตรก่อน แล้วค่อยต่อยอดด้วยเมกกะโปรเจกต์ ทำทางหลวง Electric Road แบบเต็มรูปแบบ ระยะทางรวมกว่า 3,000 กิโลเมตรต่อไปครับ
ส่วนรูปแบบที่จะทำออกมานั้น ก็คาดกันว่าจะให้ระบบขดลวดฝังไว้ใต้ถนน ซึ่งจะทำให้การชาร์จเป็นแบบไฟฟ้าเหนี่ยวนำ เหมือนกับการชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายแบบนั้นเลยครับ อย่างไรก็ดี รถที่วิ่งผ่านและต้องการชาร์จ ก็จะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่ใต้ท้องรถ เพื่อให้สามารถชาร์จไฟได้ขณะขับผ่านถนนเส้นนี้
ซึ่งหากทำได้จริง ก็น่าจะทำให้ราคาแบตเตอรี่มีโอกาสถูกลงแน่นอนครับ เพราะมีการคาดกันด้วยว่า หากระบบถนนไฟฟ้าเกิดขึ้นจริงแบบเต็มรูปแบบ ค่ายรถต่าง ๆ อาจลดขนาดแบตเตอรี่ลงได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวครับ และถือเป็นการปิดจุดอ่อนที่ต้องเสียเวลาจอดชาร์จไฟเป็นเวลานาน ๆ ได้อย่างดีเลยทีเดียวครับ
สรุป
อย่างไรก็ดี ถนนไฟฟ้า ยังไม่มีข้อมูลยืนยืนว่าในการทดสอบนั้น ไอ้เจ้าเทคโนโลยีถนนไฟฟ้านี้ มันชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ได้ดีขนาดไหน เพราะหากใครเคยใช้ที่ชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สายที่ติดตั้งมากับรถใหม่ ๆ ยุคนี้ บางรุ่นก็ชาร์จได้ไว บางรุ่นก็แค่มีไว้เพื่อให้โฆษณาว่าที่มีออปชันนี้ติดมาด้วย เพราะกว่าจะได้สัก 1 เปอร์เซ็นต์ก็ปาเข้าไปครึ่งทางอยู่แล้วครับ (ฮ่า ๆ)
ที่ร่ายมายาว มันคือเทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นนะครับ ส่วนในบ้านเราคงยังไม่ต้องไปถึงขั้นนั้น ก่อนจะไปถนนไฟฟ้า เอาสถานีชาร์จและแอปฯ ชาร์จไฟให้เสถียรก่อนก็พอแล้วครับ
อ้างอิง
https://www.sanook.com/
https://mydeedees.com/%e0%b8%96%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9f%e0%b8%9f%e0%b9%89%e0%b8%b2-%e0%b9%81%e0%b8%99%e0%b8%a7%e0%b8%84%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88-%e0%b8%82%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%84/
|