ชมภาพคันจริง Hyundai STARGAZER รุ่นปี 2023 ตัวถังสีแดง Dragon Red Pearl
ที่ไม่มีในโบรชัวร์เวอร์ชันไทย แต่ฮุนไดยืนยันสามารถสั่งซื้อได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

      ปัจจุบัน Hyundai STARGAZER ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีเทา Titan Gray Metallic, สีเงิน Magnetic Silver Metallic, สีขาว Creamy White Pearl และสีดำ Midnight Black Pearl ขณะที่สีแดง Dragon Red Pearl เป็นอีกหนึ่งสีที่สามารถสั่งซื้อได้ แม้ว่าจะไม่มีแสดงในโบรชัวร์ก็ตาม

Hyundai STARGAZER ที่ปรากฏในภาพเป็นรุ่น Smart 6 ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุด 6 ที่นั่ง ราคาจำหน่าย 889,000 บาท ถูกติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่ ไฟหน้าแบบ LED, ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ไฟท้ายแบบ LED H-shape, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, กระจกมองข้างพับและปรับด้วยไฟฟ้า และล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 16 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังแบบ 6 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 เป็นแบบ Captain Seat แยกอิสระออกจากกัน, โต๊ะหลังเบาะแบบพับได้สำหรับผู้โดยสารแถว 2, ระบบเปิด-ปิดกระจกอัตโนมัติโดยคนขับ, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ไฟเรืองแสงภายในห้องโดยสาร Ambient Mood Lighting, หน้าขอแสดงข้อมูลการขับขี่ความละเอียดสูงแบบ LCD และระบบชาร์จไฟไร้สาย Wireless Charger เป็นต้น

เป็นรถเอมพีวีแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่มีคู่แข่งที่เรารู้จักกันดีอย่าง Mitsubishi Xpander, Toyota Veloz และ Suzuki Ertiga มีดีไซจ์นภายนอกคล้ายกับ Hyundai Staria ที่ถูกย่อส่วนลงมา โดยยังคงใช้ภาษาการออกแบบ Sleek One Box และ One Curve Design จึงทำให้รถดูล้ำสมัย

ด้านหน้าโดดเด่นด้วยแถบไฟเต็มความกว้าง ที่วิ่งเป็นเส้นอยู่ใต้ฝากระโปรง ไฟหน้าแบบ LED ขนาบด้านข้าง กระจังหน้าสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ และกันชนรูปตัว X

Hyundai Stargazer ถูกพัฒนาขึ้นบนพแลทฟอร์มเดียวกันกับ Kia Carens
รถสไตล์เอมพีวี 7 ที่นั่ง ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศอินเดียไปไม่นาน มิติตัวถัง ยาว 4,460 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,695 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,780 มม. จึงมีขนาดใกล้เคียงกับเจ้าตลาดอย่าง Mitsubishi Xpander ที่ยาว 4,595 มม. กว้าง 1,750 มม. สูง 1,750 มม. ระยะฐานล้อ 2,775 มม.

ส่วนตัวถังของคู่แข่งอย่าง Toyota Veloz ก็นับว่าใกล้เคียงอยู่เหมือนกัน โดยมีความยาว 4,475 มม. กว้าง 1,750 มม. สูง 1,700 และระยะฐานล้อ 2,750 มม.

ภายในห้องโดยสาร มีให้เลือกทั้งรุ่น 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง โดยรุ่น 6 ที่นั่ง จะมาพร้อมเบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Captain Seat แยกอิสระพร้อมที่วางแขน ดูหรูหราไม่ต่างจากรุ่นพี่ สามารถปรับตำแหน่งเลื่อนหน้า/หลัง เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้า/ออก

เบาะนั่งแถว 3 มีการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น โต๊ะแบบพับได้บริเวณเบาะนั่งแถวที่ 2 มีการออกแบบห้องโดยสารให้มีพื้นที่เก็บสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ เป็นจำนวนมาก รวมถึงออกแบบแผงคอนโซลเพื่อให้รบกวนพื้นที่โดยสารด้านหน้าให้น้อยที่สุด

     ในรุ่น Smart 6 และ Smart 7 มีการติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง ได้แก่
ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ FCA
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LFA
ระบบเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถในจุดอับสายตา BCA
ระบบเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ RCCA
ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ HBA
ระบบเตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง SEW
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้า DAW
สรุป
ขณะที่ระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESC, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยางอัตโนมัติ TPMS, จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (รุ่น Trend และ Style มีถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง)

ขุมพลังของ Hyundai Stargazer ทุกรุ่นย่อยติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร Smartstream ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า (PS) ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ IVT (CVT) มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 16.1 กม./ลิตร (ตามที่ปรากฏบน ECO Sticker)

ราคาจำหน่าย Hyundai Stargazer 2023 ใหม่

รุ่น Trend ราคา 769,000 บาท
รุ่น Style ราคา 829,000 บาท
รุ่น Smart 7 ราคา 869,000 บาท
รุ่น Smart 6 ราคา 889,000 บาท
อ้างอิง
https://www.sanook.com/

https://mydeedees.com/hyundai-stargazer-%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%96%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%94%e0%b8%87-dragon-red-pearl/