สุดปลื้มมวยไทย! “จอห์นนี่ วอล์คเกอร์” พร้อมโชว์แม่ไม้อวดสายตาชาวโลกใน UFC
มวยไทย ที่ จอห์นนี่ วอล์คเกอร์ ยอดนักสู้จอมน็อกเอาต์ชาวบราซิลในพิกัดรุ่นไลต์เฮฟวี่เวตของศึก UFC เปิดใจถึงความคลั่งไคล้ที่มีต่อศิลปะแม่ไม้มวยไทย ซึ่งเจ้าตัวหวังโชว์ศาสตร์ มวยไทย ให้ผู้ชมทั่วโลกได้เห็นในการเผชิญหน้ากับคู่ปรับตัวฉกรรจ์อย่าง แอนโธนี่ย์ สมิธ นักสู้อเมริกันวัย 34 ปี ที่จะขึ้นสังเวียนเป็นรองคู่เอกของศึก UFC FIGHT NIGHT: ROZENSTRUIK VS ALMEIDA ณ Spectrum Center, ชาร์ล็อตต์ นอร์ธแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในคืนวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคมนี้
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2019 ถือเป็นครั้งแรกที่ จอห์นนี่ วอล์คเกอร์ เดินทางมาเยือนประเทศไทย ด้วยเป้าหมายที่อยากพัฒนาและยกระดับในทักษะแม้ไม้มวยไทยของตัวเอง โดย วอล์คเกอร์ เล่าให้กับ UFC ฟังว่า
“ครั้งแรกที่มาไทย ตอนนั้นผมอาศัยอยู่ที่นั่นนานกว่า 6 เดือน เพราะอยากฝึกมวยไทยให้เก่ง ซึ่งนับแต่นั้นมาผมก็พยายามหาเวลาไปประเทศไทยอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง และที่นั่นไม่เพียงแต่ศิลปะการต่อสู้จะน่าทึ่ง แต่วัฒนธรรมต่างๆ ทั้งผู้คนที่คอยต้อนรับอย่างอบอุ่น รวมถึงอาหารการกินก็สุดยอดไม่แพ้กัน ฉะนั้น ผมจึงรักและชอบที่จะกลับไปที่นั่นเสมอ”
วอล์คเกอร์ ถือเป็นนักสู้อีกหนึ่งรายที่มีสถิติการคว้าชัยแบบไม่ครบยกสูง
จากชัยชนะทั้งหมด 20 ไฟต์ เขาสามารถคว้าชัยในแบบน็อกเอาต์ด้วยอาวุธหมัดเท้าเข่าศอกถึง 16 ไฟต์เลยทีเดียว แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางด้านมวยไทยที่ก้าวกระโดดของบราซิเลียนหัวใจไทยรายนี้
“มวยไทย ถือเป็นศิลปะการต่อสู้อีกหนึ่งแขนงที่ได้รับความนิยมในบราซิล และมันศาสตร์การป้องกันตัวที่อันตรายที่สุดในโลก เมื่อคุณฝึกฝนอย่างหนักมีเทคนิคที่ดี คุณจะรับรู้ถึงความรุนแรงของมันและที่สำคัญมันเป็นศาสตร์และศิลปะการต่อสู้ที่สวยงามที่สุด ฉะนั้นผมจึงรักในวิชามวยไทย”
นอกจากการฝึกตำรามวยไทยให้แตกฉานแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ วอล์คเกอร์ ทำซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวก็ยังทำอยู่ตลอดเวลานั่นก็คือการเผยแพร่ศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้ประจักษ์สู่สายตาคนทั่วโลก ผ่านสังเวียนกรงแปดเหลี่ยมที่ใหญ่ที่สุดอย่างศึก UFC
“ผมอยากจะบอกคนไทยทั้งในกรุงเทพฯ, ภูเก็ต หรือทั่วทุกที่ว่า ผมได้นำความเป็นไทยมาใส่ไว้ในหัวใจของผมแล้ว ผมพร้อมที่จะเป็นตัวแทนของคนไทยเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติของพวกเขาให้คนทั่วโลกได้เห็น และจะใช้วิชามวยไทยนี่แหละคว้าชัยเหนือคู่ต่อสู้แบบน็อกเอาต์ในทุกไฟต์”
จอห์นนี่ วอล์คเกอร์ ยังกล่าวทิ้งท้ายถึงเหตุผลสำคัญที่นักสู้จากทั่วทุกมุมโลกจะเดินทางมาฝึกซ้อมที่ประเทศไทย ว่า
“โค้ชที่ไทยมีประสบการณ์มากกว่าโค้ชที่บราซิลแน่นอน คุณรู้ว่าพวกเขาผ่านการต่อสู้มากกว่า 100-200 ไฟต์ ชายหาดที่นั่นน่าทึ่งมาก อาหารก็เช่นกัน ผมชอบไปเที่ยวเกาะ และชอบไปเที่ยวทะเลภูเก็ตด้วย”เปลี่ยนเมนคาร์ด แต่ความสนุกยังอยู่ “วอล์คเกอร์” สามารถทำให้จุดเด่นของ “อิลล์” หมดความหมาย ในไฟต์ที่ทั้งสองต้องการบอกให้โลกรู้ว่า พวกเขาต้องการเวทีใหญ่สู่การท้าทายแชมป์
เนื่องจากคู่ของ ราฟาเอล ดอส อันโชส และ ราฟาเอล ฟิซิเยฟ ต้องเลื่อนออกไปเพราะปัญหาเกี่ยวกับ วีซ่า คู่หลักใน UFC FIGHT NIGHT ในเช้าวันที่ 20 ก.พ. ตามเวลาประเทศไทยจึงกลายเป็นเวทีระหว่าง จอห์นนี่ วอล์คเกอร์ และ จามาฮาล ฮิลล์
ต้องยอมรับก่อนว่า แม้เปลี่ยนคู่ชกที่ยังวางตัวเป็นรุ่นไลต์เฮฟวี่เวต อาจไม่ดุเดือดเท่าแต่ก็มีความน่าสนใจ เพราะทุกคนล้วนต้องการแสงไฟที่จะปูทางไปสู่อีเวนต์ใหญ่ แม้ตอนนี้โมเมนตัมดูออกแรงเหวี่ยงไปทาง จามาล ฮิลล์ มากกว่า เพราะเขาเพิ่งชนะในไฟต์ล่าสุดด้วยการน็อค จิมมี่ ครูต ในเวลาเพียง 48 วินาทีพร้อมกับรางวัล Performance of the night เมื่อปลายปีก่อน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นไฟต์ที่น่าจะดีที่สุดในอาชีพ
ฮิลล์ มีสไตล์การต่อสู้ที่แตกต่าง เขาสามารถปล่อยหมัดจากมุมไหนก็ได้ ด้วยความสูง 192 ซม. และช่วงชกยาว 79 นิ้ว เขาสามารถใช้มันได้อย่างดีในหลายๆ ครั้ง แต่ยังไม่สามารถปิดจุดอ่อนทั้งหมดของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ บางคนอาจบอกว่าตลอด 2 ปีใน UFC เขายังไม่เจนเวทีหรือบางคนอาจเรียกว่าเขาเตรียมแผนมาไม่ดีนัก
ความพ่ายแพ้ต่อ พอล เคร็ก ในไฟต์ก่อนหน้านั้น เห็นได้ชัดว่าระเบียบร่างกายยังไม่ดีพอ เนื่องจากแขนยาวซึ่งเป็นจุดแข็งและจุดอ่อนโดยเฉพาะในระยะประชิด โดนจับล็อก และบางครั้งก็หมดพลัง อ่อนแรงลงระหว่างการแข่ง
จอห์นนี่ วอล์คเกอร์ มีประสบการณ์มากกว่า เขาเซ็นสัญญากับ UFC ในปี 2018 และแม้อายุไล่เลี่ยกับ ฮิลล์ แต่ก็เข้าวงการศิลปะป้องกันตัวมาก่อน แถมในไฟต์นี้ ความสูงของ ฮิลล์ อาจไม่ใช่ข้อได้เปรียบที่เขาจะใช้ได้ เมื่อต้องเจอคู่ชกที่ตัวสูงกว่า และมีช่วงชกยาวกว่า
เพียงแต่ 3 จาก 4 ไฟต์ล่าสุด วอล์คเกอร์ แพ้ ครั้งหนึ่งเป็นการน็อค และ อีก 2 แพ้คำตัดสินซึ่งครั้งล่าสุดความปราชัยต่อ ติอาโก้ ซานโต๊ส ถือว่าน่าเจ็บใจ เพราะสิ่งที่เขายังเติมไม่เต็มคือความเด็ดขาดในการปิดเกม ซึ่งคาดเดาได้เลยว่าในครั้งนี้ เขาจะเริ่มต้นด้วยการเปิดเกมแบบไม่เกรงกลัว
เป็นไปได้ว่าไฟต์นี้ทั้งสองจะเปิดหน้าแลกใส่กันอย่างเต็มที่ จุดตัดอยู่ที่ช่วงชก และการจัดการกับพลังงานของแต่ละคนว่าจะยืนได้ครบยกหรือไม่ และใครจะเป็นฝ่ายปิดเกม ซึ่งความมั่นใจเอนเอียงไปทาง ฮิลล์ แต่ในภาพรวมแล้ว วอล์คเกอร์ ไม่ได้เป็นรอง และด้วยความเจ็บปวดจากการแพ้คำตัดสิน เขาอาจไม่อยากยืนอยู่จนครบยก
สรุป
สำหรับศึก UFC FIGHT NIGHT: ROZENSTRUIK VS ALMEIDA จะระเบิดศึกขึ้น ณ สังเวียน Spectrum Center, ชาร์ล็อตต์ นอร์ธแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในคืนวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคมนี้ คู่หลักเริ่มเวลา 02:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
แฟนหมัดมวยชาวไทยติดตามชมได้ทางช่อง TRUE SPORTS HD3 (668) และแอปพลิเคชั่น UFC Fight Pass รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.ufc.com/event/ufc-fight-night-may-13-2023
อ้างอิง
www.sanook.com
https://have-a-look.net/2023/05/15/%e0%b8%88%e0%b8%ad%e0%b8%ab%e0%b9%8c%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b8%b5%e0%b9%88-%e0%b8%a7%e0%b8%ad%e0%b8%a5%e0%b9%8c%e0%b8%84%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c-%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%ad/
|