“บิ๊กเอ” กล่าวว่า “ตอนนี้ทัพนักกีฬาเทควันโดไทย ทั้งประเภทต่อสู้ และพุมเซ่ พร้อมไปสู้ศึกซีเกมส์ เรียบร้อยแล้ว ส่วนประเด็นเรื่องที่พัก สนามแข่งขัน ฯลฯ เราตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการย้ายนักกีฬาออกมานอนนอกหมู่บ้านแล้ว และเตรียมร้านอาหารไทยไว้แล้วด้วย ทำให้หมดความกังวลเรื่องนี้ ใช้งบราวๆ 1.5-2 ล้านบาท ก็คิดว่าคุ้มเมื่อแลกกับนักกีฬาจะได้ทุ่มเทสมาธิไปลุ้นเหรียญรางวัลเต็มที่”

ผศ.พิมล กล่าวต่อว่า “ครั้งนี้เจ้าภาพกำหนดให้ส่งได้แค่ 10 จาก 16 รุ่น ทำให้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ที่ 5 เหรียญทอง แต่ก็หวังว่าจะได้มากกว่านั้น เพราะนักกีฬาไทยแข็งแกร่งจริงๆ ส่วนพุมเซ่ ตัดสินด้วยสายตา ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ก็ตั้งเป้าไว้ที่ 1 ทองก่อน”

ขณะที่ “ประเด็นผู้ตัดสินเทควันโดในกีฬาซีเกมส์ ในกรณีที่หากจะมีการโกงกันจริงๆ นั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากในปัจจุบัน เพราะสมัยนี้มีการใช้เกราะไฟฟ้า แต่ปัญหาคือกรรมการกลาง บางคนไม่แม่นยำกฎเพียงพอ อย่างเช่น ยกขาเกินเวลา, กอดกัน, ดึงกัน ก็สามารถตัดแต้มได้ ซึ่งมันดูได้ยาก บางคนตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ดังนั้นจึงอยากให้มีกรรมการกลางจากชาติอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติม”

“ปกติในซีเกมส์ก็จะใช้ผู้ตัดสินในอาเซียนทำหน้าที่ แต่ผู้ตัดสินอาเซียนที่มีฝีมือก็มีแค่เพียงเวียดนาม, ฟิลิปปินส์, ไทย ที่ได้ออกไปตัดสินระดับนานาชาติบ่อย แต่ถ้าเป็นประเทศอื่นๆ ประสบการณ์จะน้อย ดังนั้นจึงได้พูดคุยกับสหพันธ์เทควันโดโลกซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลการแข่งขันแล้วว่าให้ส่งผู้ตัดสินระดับสูงเพิ่มมาอีก 5 คน ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่”

“จากที่ได้รับการยืนยันมาจะมีส่งผู้ตัดสินระดับเอเชีย ซึ่งมีเก่งๆ ทั้งจีน, อิหร่าน, ไต้หวัน หรือเกาหลีใต้ มาตัดสินให้ โดยสมาคมฯ พร้อมช่วยเหลือสหพันธ์ในเรื่องค่าใช้จ่ายในการส่งผู้ตัดสินมาด้วย เพราะอยากได้ผู้ตัดสินที่มีความแม่นยำกฎต่างๆ”

ด้าน “โค้ชเช” นายชัชชัย ชเว หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย “สำหรับนักกีฬาชุดนี้เป็นชุดที่ดีที่สุด ต้องใช้ชุดใหญ่เพราะเป็นรายการสำคัญ นักกีฬาในภูมิภาคนี้กำลังพัฒนาขึ้น ซึ่งจากชุดนี้มี 80 เปอร์เซ็นต์ที่จะไปชิงแชมป์โลกต่อ ต้องระวังเรื่องอาการบาดเจ็บให้ดี แต่คิดว่ารายการซีเกมส์ไม่ได้หนักมาก ส่วนเป้าหมายนั้นคิดว่าพุมเซ่น่าจะมี 1 ทอง ส่วนต่อสู้อยากได้มากกว่าคราวก่อนที่ได้ 5 ทอง”

https://parohodoff.net