สุนัขเอาก้นไปถูกับพื้น คืออาการอะไรกันแน่?

เคยไหมครับที่เรามักจะเห็นสุนัขของเรานั้นเอาก้นไปถูกับพื้นไปมา การตีความของเราก็คงคิดว่าน้องคันก้น เลยแสดงออกทางพฤติกรรมแบบนั้น แต่หากพูดกันตามตรงแล้วมันจริงหรือว่าสุนัขเอาก้นไปถูกพื้นหมายถึงคัน เพราะบางตัวถูจนเป็นรอย ถูจนเป็นแผล บางตัวถูไปจนมีเลือดออกเลย ซึ่งวันนี้ Petsayhi จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจกับพฤติกรรมเหล่านี้ของสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรากันว่าเกิดจากอะไรกันแน่ เมื่ออ่านจบเชื่อว่าคุณจะเข้าใจทันทีว่าอาการเหล่านี้ที่เจ้าตูบได้แสดงพฤติกรรมออกมานั้นมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด หากพร้อมแล้วผมจะพาคุณไปพบกับบทความสุขภาพสัตว์เลี้ยงกับบทความ สุนัขเอาก้นไปถูกับพื้น คืออาการอะไรกันแน่?

ทำความรู้จักกับ Anal Sac กันก่อน

จริงๆ แล้วพฤติกรรมที่เราเห็นน้องหมาเอาก้นไปถูกที่พื้นไม่ใช่การคันหรืออะไร แต่เป็นการปล่อยกลิ่นออกจากต่อมเหม็นหรือ Anal Sac ซึ่งต่อมตัวนี้จะถูกจัดวางไว้อยู่ในบริเวณข้างก้นของสุนัข ซึ่งข้างก้นนี้เองที่จะเป็นจุดสำคัญในการปล่อยสารคัดหลั่งออกมา ซึ่งแต่ละตัวจะมีกลิ่นที่ไม่เหมือนกัน แตกต่างกันออกไป หากเราสังเกตให้ดีๆ เวลาที่สุนัขเจอหน้ากันใหม่ๆ หรือไม่เคยเห็นหน้ากัน สิ่งแรกที่จะทำคือการเดินไปดมก้นของอีกฝ่าย หลายครั้งที่เราซึ่งเป็นผู้เลี้ยงไม่เข้าใจ และดุน้องว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก แต่แท้จริงแล้วน้องไปดมเพื่อจดจำลักษณะกลิ่นเฉพาะตัวของสุนัขนั่นเอง ฉะนั้นหากเห็นว่าน้องออกไปเดิมดมก้นของสุนัขตัวอื่นๆ ก็อย่าดุน้องมากเกินไป เพราะน้องกำลังศึกษาเพื่อนว่ามีลักษณะเฉพาะตัวอย่างไร เหตุผลที่น้องดมเพราะสุนัขมีประสาทสัมผัสทางจมูกที่ไว และแม่นยำมาก

ต่อมเหม็นปล่อยกลิ่นและของเหลวออกมา จะจัดการอย่างไรดี

สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจคือต่อมเหม็นเหล่านี้เป็นต่อมที่สามารถกำจัดได้เองตามธรรมชาติ เมื่อหลั่งสารออกมาสารที่ถูกออกมาจากต่อมเหม็นจะมีลักษณะเป็นสีเหลืองปนกับสีน้ำตาลใส ซึ่งปกติแล้วในต่อมนี้จะไม่มีน้ำเหล่านี้อยู่แต่จะหลังออกมาเมื่อสุนัขมีอาการตกใจ วิตกกังวล ซึ่งหน้าที่ของต่อมเหม็นจะทำให้หูรูดของสุนัขหดตัว บีบตัว และเกิดเป็นการปล่อยออกมา ซึ่งเรามักจะเห็นเวลาที่สุนัขกลัวมากๆ หรือมีพฤติกรรมที่ต่อต้านอย่างมาก จะเกิดการปล่อยน้ำสีเหลืองๆ ออกมาจากทวารหนัก นั่นคือการปล่อยหรือกำจัดออกนั่นเอง แต่หากน้องไม่สามารถทำให้สารเหล่านี้ปล่อยออกมาได้แบบปกติ น้องก็จะเอาก้นไปถูกับพื้นเพื่อกระตุ้นให้ต่อมเหม็นทำงานนั่นเอง หากไม่ได้หลั่งสารนี้ออกมาจะทำให้สุนัขของเรานั้นเกิดอาการเจ็บปวด และอาจจะเกิดภาวะอุดตันของต่อมเหม็นได้อีกด้วย หากเกิดอาการนี้ขึ้น จะทำให้ต่อมเหม็นบวม ซึ่งสุนัขก็มักจะแสดงอาการเหล่านี้ออกมาด้วยการเอาก้นไปถูกกับพื้นนั่นเอง

อย่าลืมสังเกตบริเวณต่อมเหม็น

ต่อมเหม็นที่ถูกกระตุ้นหากสังเกตจะมีจุดสีแดงอยู่ หากมีสารคัดหลังและมีเลือด หรือหนองปนมาด้วย ให้เข้าใจได้เลยว่าน้องอาจจะมีอาการต่อมเหม็นอักเสบ อาการหนักสุดคือเกิดหนอง หากเป็นเช่นนั้นเราควรพาน้องไปพบสัตวแพทย์ทันที แต่ถึงอย่างไร หากอาการยังไม่ถึงขั้นมีหนองผู้เลี้ยงสามารถดูแลเองได้ที่บ้านเพียงแค่มี ถึงมือ กระดาษชำระ และเจล เค วาย

การรักษาเบื้องต้น

การรักษาเพียงแค่คุณนำผ้าสะอาดไปชุบน้ำที่ผสมกับสบู่ให้มีฤทธิ์เป็นเบส จากนั้น ขั้นแรกให้เช็ดบริเวณรอบๆ ก้นน้อง โดยการซับด้วยกระดาษชำระเบาๆ บริเวณรอบก้น ให้สังเกตจุดที่มีของเหลวข้นสีเหลือง และหากมีกลิ่นเหม็นตรงนั้นคือจุดปล่อยของเหลวนั่นเอง ขั้นที่สองให้เราใส่ถึงมือให้เรียบร้อย มิดชิด เพราะจะเป็นการทำความสะอาดจากภายใน อาจจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำขั้นตอนนี้ จากนั้นให้ทาเจลลงไปที่นิ้วมือของเราที่สวมถุงมือแล้วโดยใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางเป็นหลัก จากนั้นสอดเข้าไปในรูทวาร ด้วยความเบา และไปตรงบริเวณต่อมจากนั้นใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ที่อยู่ด้านนอกบีบเบาๆ และใช้กระดาษซับของเหลวที่ไหนออกมา และทำแบบเดียวกันกับต่อมทั้ง 2 ข้างจากนั้นให้เรานำน้ำที่เตรียมไว้กับกระดาษชำระออกมาเช็ดให้สะอาด หากอยากดับกลิ่นสามารถใช้เจลเทลงที่ฝ่ามือของเรา แล้วทำการทาให้ทั่วบริเวณก้น

อย่างไรก็ดี การพบแพทย์คือทางออกที่ดีที่สุด
สุนัขเอาก้นไปถูกับพื้น คืออาการอะไรกันแน่? 5
อย่างไรก็ตามหากเราสามารถรักษาได้ด้วยตัวเองแล้วก็ควรพาน้องไปพบแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยตรงให้แนะนำ หรือทำความสะอาด รวมถึงตรวจเช็กสุขภาพต่างๆ ของน้องไปในตัว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคต่างๆ ขึ้นได้นั่นเอง เพราะบางครั้งน้องอาจจะมีโรคแทรกซ้อนอยู่ในบริเวณดังกล่าวก็ได้ การตรวจเชิงลึกจึงเป็นสิ่งที่เราต้องทำนั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับบทความสุขภาพสัตว์เลี้ยงจาก Petsayhi สุนัขเอาก้นไปถูกับพื้น คืออาการอะไรกันแน่? หวังว่าทุกท่านจะได้คำตอบกันแล้วกับพฤติกรรมเหล่านี้ ซึ่งหากใครที่เห็นสุนัขมีพฤติกรรมเหล่านี้ อาจจะบอกได้เลยว่าต่อมเหม็นของน้องผิดปกติ การไปพบสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุดคือเป็นทางออกและเป็นการป้องกันในเวลาเดียวกัน

ขอบคุณรูปภาพจาก : petsayhai.com
ขอบคุณแหล่งที่มา : petsayhai.com