[รีวิวหนัง] The First Slam Dunk ปิดตำนานศึกสุดท้ายสุดเดือด งดงาม ครบรส สมบูรณ์แบบ
เชื่อว่าหลังจากอาจารย์อิโนะอุเอะ ทาเคฮิโกะ (Inoue Takehiko) ผู้แต่งมังงะบาสเกตบอลในตำนานอย่าง Slam Dunk ออกมาประกาศผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อปี 2021 ว่า การ์ตูน Slam Dunk จะถูกสร้างเป็นเวอร์ชันภาพยนตร์ แฟนมังงะและอนิเมะคงตื่นเต้นรวมถึงลุ้นกันไปต่าง ๆ นานาว่าเราจะได้เห็นเรื่องราวแบบไหนในเวอร์ชันนี้กันแน่ ถึงตอนนี้หลายคนคงได้พิสูจน์แล้วว่า ‘The First Slam Dunk’ คือของขวัญสุดพิเศษหลังจากรอคอยมานานกว่า 26 ปี ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวได้อย่างงดงาม สมบูรณ์ และสมศักดิ์ศรีการ์ตูนบาสเกตบอลที่ดีที่สุดอย่างแท้จริง
‘The First Slam Dunk’ เข้าฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2022 ส่วนในประเทศไทยมีการฉายรอบพิเศษ Fan Screening ในวันที่ 18 และ 25 – 26 กุมภาพันธ์ 2023 ที่ผ่านมา ส่วนรอบปกติเริ่มฉายในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2023
เรื่องย่อ: ‘The First Slam Dunk’ เล่าเรื่องราวการดวลเดือดของศึกบาสเกตบอลนัดสำคัญที่แฟนอนิเมะไม่เคยมีโอกาสได้ดู นั่นคือการแข่งขันระดับประเทศระหว่างทีมโชโฮคุกับทีมสุดแกร่งเทคนิคซังโน ซึ่งศึกครั้งนี้มีอยู่ในฉบับมังงะเท่านั้น โดยบอกเล่าผ่านมุมมองของพอยต์การ์ดเบอร์ 7 ทีมโชโฮคุ มิยางิ เรียวตะ ผู้มีปมชีวิตในวัยเด็กที่ต้องสูญเสียพี่ชายคนสำคัญจนกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแม่เริ่มห่างเหิน มีเพียงบาสเกตบอลเท่านั้นที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ สุดท้ายแล้วผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร มาร่วมพิสูจน์ได้เลยใน ‘The First Slam Dunk – เดอะ เฟิสต์ สแลมป์ดังก์’
บทแน่น เล่าเรื่องกระชับ เต็มอิ่มกำลังดี
เมื่อพูดถึง Slam Dunk เราจะคุ้นเคยกับภาพของตัวเอกผมแดงสุดกวนอย่าง ซากุรางิ ฮานามิจิ และคู่แข่งตลอดกาลของเขา รุคาวะ คาเอเดะ ที่เป็นศูนย์กลางของเรื่องในมังงะและอนิเมะต้นฉบับ แต่ใน ‘The First Slam Dunk’ ศูนย์กลางของเรื่องคือ มิยางิ เรียวตะ ทำให้รู้สึกแปลกใหม่พอสมควร ถึงอย่างนั้นการให้มิยางิมาเป็นตัวเอกก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดเลย เพราะบทที่เขียนออกมาอย่างดี เล่าเรื่องในอดีตสลับกับการแข่งสุดเดือดในปัจจุบันได้อย่างลงตัว เข้มข้น กระชับ ไม่ยืดเยื้อ ใช้เวลาไม่นานก็ทำให้รู้สึกอินไปกับมิยางิได้ทันที
‘The First Slam Dunk’ เปิดเรื่องโดยใช้การแข่งขันระหว่างทีมโชโฮคุกับเทคนิคซังโนเป็นหลัก ตัดสลับกับการเล่าปมชีวิตของมิยางิรวมถึงสมาชิกคนอื่นในทีม ตลอดเวลา 2 ชั่วโมง 4 นาทีของหนังเรื่องนี้ การแข่งขันมีทั้งจังหวะที่สูสี จังหวะที่ถูกทิ้งห่าง และจังหวะสำคัญในการโต้กลับ ทุกช่วงถูกเล่าออกมาได้กลมกล่อม ลุ้น เกร็งจิกเบาะ รู้ตัวอีกทีหนังก็จบแล้ว
เทคนิคภาพ 3D ผสม 2D งานละเอียด คม สมจริง
จุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคงเป็นเรื่องของงานภาพ ‘The First Slam Dunk’ ใช้เทคนิคภาพแบบ 3D ผสมผสานลายเส้น 2D แบบคลาสสิก โดยตัวอาจารย์อิโนะอุเอะเคยบอกไว้ว่าทีมงานทำงานหนักมากในเรื่องนี้ เพราะอยากให้การเคลื่อนไหวออกมาสมจริงและเป็นธรรมชาติที่สุด
สรุป
ด้วยความที่อาจารย์อิโนะอุเอะเข้ามารับหน้าที่เขียนบทและร่วมกำกับด้วยตัวเอง ‘The First Slam Dunk’ จึงกลายเป็นการปิดตำนานศึกดวลเดือดที่สมบูรณ์แบบ การต่อสู้ระหว่างโชโฮคุและเทคนิคซังโนที่แฟนอนิเมะรอคอยมาอย่างยาวนาน ถูกนำเสนอออกมาให้เราได้รับชมในรูปแบบที่งดงาม สมศักดิ์ศรี เรื่องราวของมิยางิ เรียวตะ ที่เราไม่ค่อยได้เห็นในเวอร์ชันต้นฉบับเองก็ถูกเล่าออกมาได้กลมกล่อม และหากอาจารย์เขียนการ์ตูนเรื่องนี้ต่ออย่างที่เคยตั้งใจไว้ มิยางิก็คงได้เป็นกัปตันทีมโชโฮคุต่อไปแน่นอน
สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ชมหน้าใหม่หรือแฟนเก่าแก่ของ Slam Dunk ก็ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาด ‘The First Slam Dunk’ ด้วยประการทั้งปวง เพราะนี่คืองานอนิเมะฉบับมูฟวี่คุณภาพสูงที่ควรรับชมในโรงภาพยนตร์สักครั้ง ที่สำคัญอาจารย์อิโนะอุเอะยังทวีตถึงแฟนชาวไทย เชิญชวนให้แฟน ๆ ไปดู ‘The First Slam Dunk’ กันด้วยนะ