ผิวไม่ไหม้อีกต่อไป! รวม 7 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “การทากันแดด” พร้อมรับมือหน้าร้อน
โอ๊ยๆ ขอหลบแดดหน่อยจ้า เผลอแป๊บเดียวหน้าร้อนมาเยือนอีกแล้วพี่สาว แล้วในหน้าร้อนแบบนี้แสงแดดแผดเผาทำเราเซ็งสุด ๆ และแน่นอนก่อนออกจากบ้านต้องโปะครีมกันแดดหนัก ๆ ปกป้องผิวจากแสงแดด แสง UV สักหน่อย แต่เห็นคำแนะนำการทากันแดดแล้วมึนตึบ จะทากันแดดยังให้ปกป้องผิวได้มากที่สุด แล้ววิธีทากันแดดที่เข้าใจมาถูกต้องแล้วรึเปล่า? ถ้าเกิดใครสงสัย เรารวบรวมความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทากันแดดมาให้แล้ว จะเป็นยังไง ไปดูกันเลย
รวม 7 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “การทากันแดด” พร้อมรับมือหน้าร้อน
ครีมกันแดดทุกตัวทำหน้าที่เหมือนกันหมด จริงมั้ย?
เราก็เป็นคนหนึ่งที่เข้าใจว่าครีมกันแดดทุกตัวทำหน้าที่เหมือนกันมาตลอด แต่ความจริงแล้วครีมกันแดดมีชนิดที่หลากหลายมาก ๆ ตั้งแต่ SPF ที่ต่างกันก็ให้ประสิทธิภาพให้ในการป้องกันแสง UV ที่ต่างกันด้วย และครีมกันแดดไม่ได้มีแค่สูตรเดียวด้วยนะ แต่ครีมกันแดดมี 2 สูตรเป็นสูตร Chemical และ Physical และทั้ง 2 สูตรมีกลไกปกป้องผิวที่ต่างกันด้วย ครีมกันแดด Chemical จะมีคุณสมบัติดูดกลืน UV มักจะเป็นสูตรที่มีค่า SPF สูง ๆ ส่วนครีมกันแดด Physical มีคุณสมบัติสะท้อนรังสีออกไป
เลือกครีมกันแดดยิ่งมีค่า SPF ยิ่งสูงยิ่งดี จริงมั้ย?
สำหรับใครที่เวลาเลือกครีมกันแดดแล้วตัดสินใจเลือกเพราะค่า SPF สูงเพียงอย่างเดียว แนะนำว่าให้ลองดูส่วนผสมอื่น ๆ ด้วยอีกที เพราะค่า SPF สูงช่วยปกป้องผิวจากแสง UV ได้ดีกว่าก็จริง แต่ SPF สามารถปกป้องได้แค่ UVB เท่านั้น ครีมกันแดดเลยต้องมีค่า PA ด้วยเพื่อปกป้องแสง UVA ที่ทำร้ายผิวเราได้ด้วย และค่า SPF สูงก็ไม่ได้ดีเสมอไป เพราะยิ่งค่า SPF สูงยิ่งมีโอกาสทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือแพ้ได้ด้วย
ไม่โดนแดด ไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดด จริงมั้ย?
ครีมกันแดดก็ต้องทาตอนจะออกแดดสิ! ความจริงแล้วเป็นความเข้าใจที่ผิดนะคะเพื่อน ๆ เพราะแสงที่ทำร้ายผิวของเราไม่ได้มีแค่แสงแดด และแสง UV แค่อย่างเดียวนะ แต่แสงสีฟ้า หรือแสงจากหลอดไฟ แสงจากคอมพิวเตอร์ แสงจากจอมือถือ ก็เป็นตัวการทำร้ายผิวทำให้ผิวแห้งและมีริ้วรอยก่อนวัยได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะออกแดดหรือไม่ ควรทากันแดดป้องกันแสงทำร้ายผิวพวกนี้เอาไว้ก่อนจะดีที่สุดค่า
ทาครีมกันแดดแล้วต้องรอ 30 นาทีค่อยออกแดด จริงมั้ย?
ทาครีมกันแดดแล้วต้องรอ 30 นาทีค่อยออกแดดจริงมั้ย จากที่เราไปหาข้อมูลมาคำตอบคือจริงนะคะ ถ้าเพื่อน ๆ ใช้กันแดดแบบ Chemical ที่มีคุณสมบัติดูดกลืนแสง UV ควรทาครีมกันแดดก่อนถูกแดดประมาณ 30 นาที เพื่อให้สารกรองรังสี UV พร้อมทำงาน แต่ถ้าเพื่อน ๆ ใช้กันแดดแบบ Physical ที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสง UV ไม่จำเป็นต้องรอครีมกันแดดทำงาน ทาแล้วสามารถออกแดดได้เลยค่ะ
ครีมกันแดดไม่จำเป็นต้องทาบ่อย ทาตอนเช้ารอบเดียวก็พอ จริงมั้ย?
สำหรับทริคทาครีมกันแดดรอบเดียว ไม่จำเป็นต้องทาบ่อย จากที่หาข้อมูลมาแล้วเขาบอกว่าสามารถทำได้ สำหรับคนที่ไม่ได้สัมผัสกับแดดมากค่ะ แต่ถ้าเกิดว่าเราต้องเจอกับแดดจ้าแผดเผา ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะครีมกันแดดแบบ Chemical จำเป็นต้องทาซ้ำ
เพราะครีมกันแดดสูตรนี้มีคุณสมบัติดูดกลืนเลยทำให้การปกป้องของครีมกันแดดลดลงไปด้วย และสำหรับครีมกันแดดสูตรกันน้ำ สามารถกันน้ำได้แค่ 40 นาทีเท่านั้น และจะเสื่อมสภาพลงหลังโดนน้ำ หรือแม้แต่โดนเหงื่อก็ด้วยค่ะ สรุปเลยว่าครีมกันแดดต้องทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงจะดีกว่าค่า
เมื่อลงเครื่องสำอางที่มี SPF แล้ว ไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดด จริงมั้ย?
สำหรับข้อนี้จากที่ไปหาข้อมูลมาแล้ว เขาแนะนำว่าควรใช้ครีมกันแดดเป็นตัวปกป้องผิวจากแสง UV ก่อนดีกว่า น่าจะเพราะครีมกันแดดมีคุณสมบัติในการกันแดดและปกป้องแสง UV โดยเฉพาะ แล้วค่อยให้เครื่องสำอางที่มี SPF เป็นส่วนที่ช่วยเสริมการทำงาน และถ้าจะให้ดีเขาบอกมาว่าควรเลือกเครื่องสำอางที่มี SPF ไม่น้อยกว่า 30 ด้วยค่า
ครีมกันแดดจะทำให้ผิวไม่ดูดซึมวิตามินดี จริงมั้ย?
ว่ากันว่าถ้าตัวเราสัมผัสกับแสงอาทิตย์อย่างน้อย 15 นาทีทุกวัน ร่างกายของเราจะได้รับวิตามินดีจากแสงแดดมาด้วย คนเลยคิดว่าถ้าทาครีมกันแดดจะกลายเป็นการบล็อกวิตามินดีออกไปด้วย แต่ในตอนนี้ก็ยังไม่มีผลการศึกษาหรืองานวิจัยที่ให้ข้อมูลว่าการทาครีมกันแดดทำให้ผิวได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอ และสำหรับใครที่อยากเพิ่มวิตามินดี ก็สามารถรับวิตามินดีได้จากทางอื่นได้ด้วย อย่างการกินอาหารที่มีวิตามินสูง เช่น แซลมอน ทูน่า หรือชีสได้ด้วย
ตามไปส่องความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทากันแดดมาแล้ว คราวนี้ใช้กันแดดได้แบบคุ้มราคา ไม่เสียเปล่า แถมปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดีกว่าเดิมแน่นอน และถ้าจะให้ดีควรทากันแดดถึง 2 ข้อนิ้วตามที่หลายคนแนะนำได้เลย เพราะนี่คือความเข้าใจที่ถูกต้อง ถ้าเกิดว่าทาน้อยไปกันแดดก็ไม่สามารถทำหน้าที่ปกป้องผิวได้นะ ว่าแล้วก็ขอจัดกันแดด 2 ข้อนิ้ว เพื่อออกไปสู้กับแดดเมืองไทยก่อนนะคะ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่า บ๊ายบาย
ขอบคุณรูปภาพจาก : sanook.com
ขอบคุณแหล่งที่มา : sanook.com
ติดตามข่าวสาร ได้ที่ : mydeedees.com
|