แมว VS สุนัข ใครเหนือกว่ากันในด้านการเข้าสังคม
ในการเลี้ยงสัตว์ไว้ในบ้าน สิ่งที่เรานั้นจะต้องตั้งความหวังแบบปักเรือธงเอาไว้เลยนั่นก็คงหนีไม่พ้นหวังให้เจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรานั้นมีทักษะการเข้าสังคมที่ดีกว่าทั่วๆ ไป คำว่าเข้าสังคมที่ถูกใช้กับสัตว์เลี้ยงนั้นหมายถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของ และทุกครั้งก่อนที่คุณจะรับสัตว์มาเลี้ยง หรือแม้กระทั่งตั้งแต่ที่คุณนั้นเตรียมตัว เตรียมใจที่จะเลือกสัตว์สักตัวเข้ามาเป็นเพื่อนคู่ใจอยู่ในบ้านของคุณ คุณนั้นจะต้องมีการวางแผนรับมือกับเรื่องของการเลี้ยงดูให้ดี
โดยเฉพาะกับการเข้าสังคมที่อาจเป็นปัญหาได้ในอนาคต ซึ่งวันนี้ผมอยากพาทุกคนได้เข้าไปดู ไปศึกษากันสักนิดก่อนครับ ระหว่างสัตว์ขั้วต่าง 2 ประเภทอย่าง สุนัขกับแมว ที่อาจจะต้องบอกเลยครับว่าเป็นสัตว์ที่ทำเอาหลายคนอาจตกหลุมรักไปโดยไม่รู้ตัว แต่หากเป็นเรื่องทักษะการเข้าสังคมใครดี ใครแน่นอนกว่ากัน วันนี้เราจะไปหาคำตอบนี้กันครับใน แมว VS สุนัข ใครเหนือกว่ากันในด้านการเข้าสังคม
ความแตกต่างระหว่างสุนัขกับแมว
หากเปรียบเทียบกันให้เห็นภาพจริงๆ เรามักจะเห็นภาพของสุนัขที่มีความกระตือรือร้นมากกว่า ภาพจำของเรานั้นมักจะเป็นการที่สุนัขวิ่งเล่นกับเจ้าของมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน และแน่นอนครับว่า นั่นถือได้ว่าเป็นภาพที่น่ารักภาพหนึ่งเลยครับ ซึ่งในการเลี้ยงสุนัขคุณแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย น้องสามารถเฝ้าบ้านได้ ดูแลทรัพย์สินได้และไม่กลัวหากมีศัตรูเข้ามา แต่จะต่างออกไปจากแมวครับเพราะแมวนั้นถือเป็นสัตว์ขั้นต่างจากสุนัขทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัย รูปแบบการใช้ชีวิต
การมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับเจ้าของเรียกได้ว่าแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง หลายครั้งเราได้มีการนำแมวมาทดลองเพื่อหาสภาพจิตใจของแมว ว่าแท้จริงแล้ว แมวนั้นมีความรู้สึกอย่างไร คิดอะไรกับเรา เราจะพบว่าแมวนั้นจะให้ความสำคัญกับเรามาก เพียงแต่การแสดงออกจะต่างออกไปจากสุนัข ซึ่งนั่นทำให้หากเราไม่สังเกตให้ดี แทบจะไม่รู้เลยว่าแมวคิดอะไรกับเรา และแน่นอนครับเพื่อให้ชัดเจนขึ้นเราได้มีการทดลองมาให้ทุกคนได้อ่านกัน เพื่อที่จะบอกว่าแมวกับสุนัขนั้นในทางสังคมใครเก่งกว่ากัน
การทดลองที่ 1 เลือกระหว่างเจ้านายและคนรอบข้าง
ในการทดลองแรกนี้เป็นการทดสอบจิตใจครับ ว่าสภาพจิตใจของแมวกับสุนัขนั้นเป็นอย่างไร แตกต่างกันตรงไหนบ้าง โดยในการทดลองจะมีการตั้งทางเลือกให้ทั้งหมด 2 ทางได้แก่ การใช้เจ้าของจริงๆ กับคนรอบข้างทั่วๆ ไป มานั่งข้างกัน โดยในการทดลองครั้งที่หนึ่ง เริ่มจากสุนัข ทันทีที่ปล่อยตัว และไม่มีการเรียกขานใดๆ สุนัขเลือกที่จะมองตาของทั้งสองคน และเลือกที่จะวิ่งไปหาเจ้านายก่อน จากนั้นจึงไปหาคนที่ไม่รู้รัก ไปเล่น ไปชน ไปดมสามารถจับได้ หากเจ้าของไม่เรียกก็ไม่กลับมา ในการทดลองครั้งที่ 2 เราได้ทดลองกับแมว ซึ่งแมวนั้นเป็นสัตว์ที่บอกเลยครับว่าเดาใจยากมากว่าน้องจะทำอะไร คิดอะไรอยู่ แน่นอนครับว่าแมวนั้นใช้เวลาส่วนมากในการทดลองไปกับการอยู่กับเจ้าของมากกว่าสุนัข แต่ในระหว่างนั้นแมวยังได้มีการเดินออกไปสำรวจทำความรู้จักกับคนรอบข้างแต่ก็ไม่ได้นาน และรีบกลับมาหาเจ้าของทันที การทดลองนี้จึงทำให้เรานั้นรู้ว่าสุนัขคือสัตว์ที่สามารถเหมาะกับการเลี้ยงไว้เพื่อมีการตอบสนองต่อคำสั่งทันที ส่วนแมวนั้นไม่ใช่สัตว์ที่มีการตอบสนองทันที แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงตามลักษณะอารมณ์และความต้องการของตัวเอง
การทดลองที่ 2 สุนัข แมว จำชื่อได้หรือไม่
เชื่อว่าคุณเองก็เคยสงสัยกันใช่ไหมครับว่า สุนัข แมวของเราเนี่ย จำชื่อของตัวเองได้หรือไม่เพราะในการเลี้ยงสัตว์ในปัจจุบัน อาจบอกได้ว่าการเรียกชื่อน้องๆ เป็นสิ่งสำคัญเพราะผมเชื่อเหลือเกินว่า 100% ของการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เจ้าของจะต้องมีการตั้งชื่อไว้ให้เราจะมาทดลองกันครับว่าน้องๆ สามารถจำชื่อของตัวเองได้ไหม? โดยการทดลองนี้จะปล่อยให้สัตว์เลี้ยงของเราอยู่ในห้องขนาดเล็ก กับลำโพง 1 ตัว โดยให้เจ้าของแมวและสุนัขนั้นออกไปอยู่ด้านนอกและเรียกชื่อของน้องผ่านลำโพงเพื่อดูปฏิกิริยา และแน่นอนครับว่าเราจะเริ่มจากสุนัขก่อน ในการทดลองนี้เราจะเห็นได้เลยครับว่าสุนัขตอบสนองทุกครั้งที่มีการเรียกชื่อ แต่ยังไม่ลุกเพราะไม่มั่นใจ และบางตัวไม่แม้แต่จะมอง แต่สุดท้ายน้องก็ลุกออกไปที่ประตูหลังเรียกชื่อเพียง 3 ครั้ง ส่วนแมวของเรานั้นต้องบอกเลยครับว่าเป็นสัตว์ที่ต่างออกไปนิดหน่อยในด้านการแสดงออก เพราะหลังจากเรียกชื่อน้องแมว มีการหัน และเรียนรู้ถึงจะช้าหน่อยต้องเรียกถึง 5 ครั้ง ถึงจะสามารถเดินออกมาได้ ซึ่งการทดลองนี้บอกให้เห็นบางอย่างครับว่าสัตว์ทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถจำชื่อของตัวเองได้ และมีปฏิสัมพันธ์ได้หลังจากเรียกชื่อ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของสัตว์ตัวนั้นๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ แมว VS สุนัข ใครเหนือกว่ากันในด้านการเข้าสังคม ที่ทาง Petsayhi ได้นำมาฝากกันในวันนี้ หากให้ตัดสินผมอาจตัดสินไม่ได้ครับ เพราะทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับตัวของผู้เลี้ยงและความพึงพอใจของผู้เลี้ยงเอง ไม่ว่าจะสัตว์ตัวไหนก็สามารถให้ในสิ่งที่เราต้องการไม่ได้ทั้งหมด เพราะน้องๆ คือสัตว์เลี้ยงที่ไม่รู้ภาษาคน ไม่เข้าใจวัฒนธรรม จึงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทำความเข้าใจน้องๆ เพื่อที่จะได้ปรับตัวเข้าหากันและอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข
ขอบคุณรูปภาพจาก : petsayhai.com
ขอบคุณแหล่งที่มา : petsayhai.com
ติดตามข่าวสาร ได้ที่ : mydeedees.com
|