[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
เมนูหลัก
หน่วยงานในวิทยาลัย
ข้อมูลพื้นฐานวิทยาลัย
งานนโยบายและแผนฯ
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 84 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
หน่วยงานต่างๆ
poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก



 

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
รีวิวหนัง “Hidden Blade โค่นคมพยัคฆ์”  VIEW : 120    
โดย 123

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1788
ตอบแล้ว : 1
เพศ :
ระดับ : 34
Exp : 38%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 182.52.71.xxx

 
เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 11 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2566 เวลา 10:16:41    ปักหมุดและแบ่งปัน

รีวิวหนัง “Hidden Blade โค่นคมพยัคฆ์” พลิกล็อคหลอกคนดู สู้กันด้วยมันสมอง

“Hidden Blade โค่นคมพยัคฆ์” ถือเป็นหนังที่ทำให้เราไม่อาจละสายตาได้เลย เพราะการดำเนินเรื่องราวของเขานั้นมีการสลับช่วงเวลาไปมาพาให้เราได้ฉงนสงสัยกันอยู่ตลอดเวลา พร้อมด้วยการลับคมซ่อนเงื่อนอยู่ในทุกการกระทำ ฝังลึกเข้าไปในบทบาทของ 2 ตัวละครหลัก “เหลียงเฉาเหว่ย” และ “หวังอี้ป๋อ” พร้อมด้วยนักแสดงมากฝีมืออีกคับคั่งมาประชันอารมณ์ ให้เราได้จมดิ่งสู่ช่วงเวลาแห่งสงคราม และแผนการอันแยบยล

สำหรับภาพยนตร์ Hidden Blade โค่นคมพยัคฆ์ เป็นเรื่องราวของสายลับจีนในช่วงของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อประเทศอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการ คนธรรมดากลุ่มหนึ่งจึงเสี่ยงชีวิตตั้งองค์กรใต้ดินขึ้นเพื่อทำการส่งข่าวกรองและปกป้องแผ่นดินเกิดของตัวเอง หนังมีพื้นหลังของเรื่องอยู่ในช่วงปี 1937 – 1945 เมื่อทหารญี่ปุ่นบุกโจมตีท่าเรือเพิร์ลฮาร์เบอร์ และประกาศสงครามกับประเทศยักษ์ใหญ่อย่างอังกฤษ สหรัฐฯ อีกทั้งยังเข้ายึดเซี่ยงไฮ้ของจีน จากเหตุสงครามที่เกิดขึ้นส่งผลให้สถานการณ์สงครามในจีนทวีความรุนแรงมากขึ้น สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เป็นสายลับใต้ดิน จึงต้องเสี่ยงอันตรายที่อาจถึงแก่ชีวิตเพื่อส่งข้อมูลลับออกไปขัดขวางการเจรจาระหว่างญี่ปุ่นกับเจียงไคเช็คให้ได้ เพื่อปกป้องมาตุภูมิของพวกเขา

เปิดม่านจอยักษ์ด้วยการเล่าเรื่องราวในช่วงเกิดสงครามระหว่างประเทศ และเมืองที่เต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพัง การเอาชีวิตรอดจากกองทัพ และตัดสลับไปยังหน่วยงานลับที่คอยทำหน้าที่จัดการเจรจากับฝั่งกองทัพ หนังจะเล่าเนื้อหาเป็นขั้นเป็นตอน อาจไม่ได้ลงรายละเอียดที่บทสนทนามากนัก แต่ฉากหลักของหนังทำให้เราได้เข้าใจเนื้อหาในช่วงนั้น ๆ โดยจะมีคำอธิบายประกอบให้เราได้รับรู้ช่วงเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งเวลาการทำสงคราม บุคคลสำคัญเสียชีวิต ซึ่งในระหว่างการดำเนินเรื่องจะมีการย้อนช่วงเวลาอยู่เป็นระยะ

พร้อมเพิ่มปมขึ้นมาอยู่เรื่อย ๆ ด้วยตัวละครหลัก “เหลียงเฉาเหว่ย” และ “หวังอี้ป๋อ” จะเป็นผู้คอยชี้นำเหตุการณ์ต่าง ๆ และในบางจุดยังมีความลับแฝงไว้รอการเปิดเผยอีกด้วย ทว่าเนื้อหาอาจไม่ได้เน้นไปที่ตัวสงครามแบบเต็ม ๆ แต่จะเนื้อหาโดดเด่นในการใช้แผนการ การลับสมองประลองปัญญา ให้เราได้มีความรู้สึกว่าน่าติดตามกับเนื้อหาที่เล่าในลำดับต่อมาเรื่อย ๆ พร้อมการวางเนื้อหาอย่างมีชั้นเชิงไล่ไปในแต่ละระดับอารมณ์ และมีจุดไคลแมกซ์ให้เราได้ระทึกขวัญสั่นประสาท จนไม่อาจเชื่อในสิ่งที่เห็นเพียงอย่างเดียวได้ เพราะเกิดการพลิกล็อคให้เราต้องตาค้างกันไปข้างหนึ่ง

โดยส่วนตัวมีความคาดหวังฉากแอ็คชันเต็มรูปแบบหลังจากอ่านเรื่องย่อ ทว่าในหนังไม่ได้ใส่ความเป็นแอ็คชันสงครามจ๋าขนาดนั้น แต่ยังมีฉากให้ 2 นักแสดง “เหลียงเฉาเหว่ย” และ “หวังอี้ป๋อ” โชว์ทั้งความหล่อ เท่ บ้าดีเดือด ให้เราได้เลือดพุ่งพล่าน เพราะงานดีมาก ทั้งการต่อสู้บู๊แหลก แบกความเร่าร้อนไว้ในช่วงเวลานี้ นอกจากฉากแอ็คชันเสริมอารมณ์ความลุ้นระทึกแล้วนั้น ยังมีฉากหดหู่ใจให้เราได้เข้าถึงอารมณ์การเอาชีวิตรอดในช่วงสงคราม และจากอำนาจเผด็จการอีกด้วย

การตัดต่อของหนังเรื่องนี้ถือเป็นจุดเด่นเลยก็ว่าได้สำหรับการตัดต่อฉากสลับช่วงเวลาไปมา เหมือนเรื่องราวกำลังเกิดขึ้น แต่กลับกลายเป็นอดีตที่เกิดขึ้นมาแล้ว โดยมีการใช้เทคนิคนี้ค่อนข้างหลายครั้งในเรื่องนี้ ถึงแม้จะทำให้เพิ่มลูกเล่นของหนัง แต่บางครั้งอาจมีผลกระทบให้กับช่วงเวลาที่เรารับชม เพราะอาจทำให้ไม่สามารถจับจุดมาประติดประต่อกันได้หากพลาดช่วงเวลาใด ๆ แต่เมื่อดำเนินเรื่องราวไปจนจบ เพราะปมในหลาย ๆ จุดบางทียังไม่มีการคลี่คลาย แต่ในท้ายที่สุดเรื่องราวทั้งหมดก็ไปเฉลยออกมาอย่างมีเหตุและผลตามช่วงเวลานั้น ๆ

การแสดงของนักแสดงมีแต่สิ่งที่ชวนประทับใจ บทสนทนาอาจจะไม่ได้เยอะมากนัก แต่การแสดงผ่านสีหน้า แววตา ท่าทาง มันทำให้เรามีความรู้สึกร่วมเข้าไปในหนัง การกอด การร้องไห้ การใช้แววตาเชือดเฉือนอารมณ์ จนเราจมดิ่งไปในความรู้สึกของตัวละคร อีกทั้งการถ่ายทอดคาแรคเตอร์ในฉากต่าง ๆ เป็นที่น่าจดจำได้ฝังใจ ถึงแม้บางตัวละครอาจจะไม่ได้มีฉากออกมาบ่อยหรือเยอะนัก แต่การออกมาของนักแสดงสมทบก็ไม่สามารถลบภาพได้ เพราะคาแรคเตอร์ของพวกเขาเล่าออกมาได้ดีเป็นอย่างยิ่ง

องค์ประกอบของหนังค่อนข้างเต็มอัตรา ด้วยฉากเปิดที่เผยให้เห็นเมืองที่โดนระเบิดจากสงครามซากปรักหักพังของบ้านเรือน การเนรมิตสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความดึงอารมณ์ เพราะยังมีทั้งผู้คนนอนเสียชีวิต พร้อมมาด้วยมูดแอนด์โทนของหนัง การแต่งสีมีความหม่นปนดาร์คย้อนสมัย พาเราเข้าถึงช่วงเวลานั้น ๆ ด้านดนตรีประกอบมีความระทึกขวัญสั่นประสาท ด้วยเนื้อหาที่กล่าวไปข้างต้น มีการเล่าถึงประวัติศาสตร์สงคราม แต่ไม่ได้เน้นไปทางสงครามเต็มรูปแบบ เป็นการเล่ากลยุทธ์แผนการนั่นจึงทำให้ดนตรีมีความเร้าใจชวนให้เราได้คิดตาม

โดยรวมแล้วหนังเรื่อง Hidden Blade โค่นคมพยัคฆ์ ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจทั้งการเล่าเรื่องราวอย่างมีชั้นเชิง และการตัดต่อที่ทำให้เราได้จำเนื้อหาของทุก ๆ ตอน เพราะการขมวดปมในช่วงเวลาต่าง ๆ ไม่ได้จบลงในทันที นั่นจึงทำให้เราใช้สมองคิดตามอยู่เป็นระยะ ว่าจะมีการเล่าเรื่องอย่างไรต่อไปว่าใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร ด้านทักษะการแสดงดีประชันบทบาทความนิ่งขรึม และปกปิดอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ถึงแม้บางตัวละครจะออกมาไม่นาน แต่สร้างความจดจำได้จนจบ มูดแอนด์โทนของหนังมีความหม่นปนดาร์ค พร้อมดนตรีเร้าอารมณ์ เป็นการ โค่นคมพยัคฆ์ ที่ครบเครื่องจริง ๆ

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง โค่นคมพยัคฆ์

ประเภท: ดราม่า / ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ: เฉิงเอ๋อร์
นำแสดงโดย: เหลียงเฮาเหว่ย, หวังอี้ป๋อ, โจวซวิ๋น, หวงเหล่ย
ความยาว: 128 นาที
กำหนดฉายในไทย: 20 เมษายน 2023 (ในโรงภาพยนตร์)
Movie.TrueID METRIC: โค่นคมพยัคฆ์

ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)
การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)
การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)
เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)
บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)

ขอบคุณรูปภาพจาก :  entertainment.trueid.net

ขอบคุณแหล่งที่มา : entertainment.trueid.net


ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net





วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
237 หมุู่ 8 ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ 38170 โทรศัพท์ 042-086002 โทรสาร 042-086002