[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
เมนูหลัก
หน่วยงานในวิทยาลัย
ข้อมูลพื้นฐานวิทยาลัย
งานนโยบายและแผนฯ
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 84 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
หน่วยงานต่างๆ
poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก



 

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
13 พฤติกรรมที่ทำร้าย “ตับ”  VIEW : 123    
โดย 123

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1788
ตอบแล้ว : 1
เพศ :
ระดับ : 34
Exp : 38%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 182.52.71.xxx

 
เมื่อ : พุธ ที่ 10 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2566 เวลา 13:18:39    ปักหมุดและแบ่งปัน

13 พฤติกรรมที่ทำร้าย “ตับ”

ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย และทำหน้าที่ 500 กว่าอย่าง เช่น กำจัดสารพิษ ฟอกเลือด เปลี่ยนแปลงสารอาหารเป็นพลังงาน กักเก็บวิตามินและแร่ธาตุ เป็นต้น เนื่องจากตับมีความสำคัญขนาดนี้ เราจึงควรหันมาดูแลสุขภาพตับและหยุดพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ดังนี้

ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไป
เราต่างก็รู้ดีอยู่แล้วว่าแอลกอฮอล์มีผลเสียกับตับ ยิ่งดื่มมากก็ยิ่งทำร้ายตับมาก ถ้าคุณอยากเป็นคนที่มีสุขภาพที่ดีก็ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ แต่ถ้าประวัติคนในครอบครัวของคุณเคยมีอาหารแอลกอฮอลืซึม หรือโรคเกี่ยวกับตับ คุณควรหลีกเลี่ยงและดื่มเครื่องเหล่านี้ในปริมาณน้อยๆ

ดื่มน้ำไม่มากเพียงพอ
ดื่มน้ำวันละ 8 แก้วต่อวัน คือสิ่งที่เราเรียนรู้มานาน การดื่มน้ำในปริมาณไม่มากพอจะส่งผลถึงการทำงานของตับในการกำจัดสารพิษ ถ้าตับสูญเสียความชุ่มชื้นมันก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ แล้วยังทำให้เสี่ยงต่อการป่วย ดังนั้นควรดื่มน้ำในปริมาณที่ร่างกายต้องการและควรจะเป็นน้ำที่มาจากแหล่งน้ำที่สะอาด

สูบบุหรี่
นอกจากส่งผลต่อปอดแล้วยังสามารถส่งผลถึงตับได้ด้วย การสูบบุหรี่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งตับได้ และยังก่อให้เกิดอนุมูลอิสระที่ทำร้ายร่างกายอีกด้วย

น้ำหนักตัวมากเกินไป
ผลที่ตามมาจากการมีน้ำหนักเกินคือไขมันที่จะตามมาเกาะอยู่ที่ตับ ทำให้เกิดอาการไขมันพอกตับ แม้ว่าจะไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์แต่การกินของที่มีไขมันมากก็ส่งผลต่อตับไม่แพ้แอลกอฮอล์ การเลือกกินแต่อาหารที่มีประโยชน์สามารถแก้ปัญหานี้ได้

ทานน้ำตาลมากเกินไป
ปัจจุบันมีการรณรงค์เกี่ยวกับการบริโภคน้ำตาลมากขึ้น กล่าวถึงโทษของน้ำตาล และแนะนำปริมาณที่ควรบริโภคต่อวัน แต่คุณอาจจะยังไม่รู้ว่าน้ำตาลส่งผลให้เกิดโรคตับได้ ในขณะที่เซลล์ในร่างกายสามารถเผาผลาญกลูโคสได้ แต่ตับเป็นอวัยวะเดียวที่สามารถกำจัดฟรุกโตสได้ ดังนั้นถ้าเราทานอาหารที่มีฟรุกโตสมากเกินไปจึงเป็นการทำร้ายตับ เราควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไซรัป โซดา ขนมอบ ฯลฯ แล้วหันมาบริโภคผลไม้แทน

กินอาหารที่เพิ่มน้ำตาลในเลือด หรืออาหารมื้อใหญ่ก่อนเข้านอน
ตับจะทำงานตอนกลางคืน ดังนั้นการกินอาหารมื้อใหญ่ๆ ก่อนเข้านอนจะทำให้ตับทำงานหนักมากขึ้น ลองกินแครอตหรือบีทรูทในมื้อเย็นจะช่วยตับทำความสะอาดสารพิษได้

บริโภคไขมันทรานส์

ถ้าคุณมีปริมาณคอเลสเตอรอลเกิน คุณอาจเคยได้ยินหมอแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ ไขมันทรานส์เป็นตัวช่วยเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลและ LDL (ไขมันชนิดเลว) ขนมอบจำพวกเบเกอรี ขนบขบเคี้ยว ป๊อบคอร์น ของทอด เหล่านี้ล้วนมีไขมันทรานส์ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงหรือบริโภคให้น้อยลงเพื่อให้ตับไม่ต้องทำงานหนัก

มีเพศสัมพันธ์ในแบบที่ไม่ปลอดภัย
การมีเพศสัมพันธ์ในแบบที่ไม่ปลอดภัยส่งผลเสียถึงตับได้มากกว่าที่คุณคิด มันทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซึ่งสามารถติดต่อกันได้ทางเพศสัมพันธ์ ไวรัสตับอักเสบมี 3 ประเภท คือ ประเภท A, B และ C ประเภทที่ควรระวังคือประเภท B ที่สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสเลือดโดยตรง หรือของเหลวอื่นๆ ในร่างกาย

รับประทานอาหารเสริมหรือสมุนไพร
อาหารเสริมและสมุนไพรหากทานในปริมาณที่มากเกินไปก็สามารถเข้าไปทำอันตรายตับได้ ถึงบางอย่างจะเคลมว่าทำมาจากธรรมชาติล้วนๆ ก็ส่งผลเสียต่อตับได้ ตับมีหน้าที่กรองสารพิษ ถ้าอาหารเสริมหรือสมุนไพรที่คุณทานมีส่วนผสมที่ไม่ปลอดภัยก็จะทำให้ตับทำงานหนักขึ้น

เครียดและเหนื่อยล้ามากเกินไป
ความเครียดและการเหนื่อยล้าสะสมนั้นไม่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตับ มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอดินเบิร์กซึ่งตีพิมพ์ในวารสารที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร พบว่า ผู้ที่มีความทุกข์ วิตกกังวล ซึมเศร้า มีโอกาสเสียชีวิตด้วยโรคตับ ในทางการแพทย์ก็พบว่าอาการเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าอารมณ์ต่างๆ มีผลต่อพลังงานของตับ

ออกกำลังกายน้อย
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้อ้วน แต่ก็ควรออกกำลังกาย การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้แข็งแรงแล้ว ยังช่วยตับทำงานอย่างการกำจัดสารพิษในร่างกายอีกด้วย

พึ่งพาเภสัชกรมากเกินไป
เวลาเราปวดหัว มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ หลายๆ คนเลือกที่จะไปซื้อยามากินเอง แต่ความจริงแล้วยาเหล่านี้ถ้ากินมากหรือใช้บ่อยๆ มันก็เป็นพิษต่อตับได้ เพราะยาพวกนี้ต้องผ่านไปที่ตับและสามารถสร้างความเสียหายได้

ไม่ตรวจเช็กสุขภาพตับ
เรามักให้ความสำคัญกับหัวใจและคอเลสเตอรอล เวลาตรวจร่างกายก็จะเลือกโปรแกรมตรวจที่มีออปชั่นตรวจหัวใจและคอเลสเตอรอลด้วย จึงไม่ได้ให้ความสนใจต่อการตรวจสุขภาพตับ ทั้งที่จริงแล้วตับก็มีสำคัญไม่แพ้อวัยวะอื่นเลย ลองไปเช็กดูบ้างว่าค่าตับของเราเป็นอย่างไร

ภาพประกอบจาก istockphoto

ขอบคุณรูปภาพจาก : sanook.com

ขอบคุณแหล่งที่มา : sanook.com


ติดตามข่าวสาร ได้ที่  : thaigoodherbal.com





วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
237 หมุู่ 8 ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ 38170 โทรศัพท์ 042-086002 โทรสาร 042-086002