รีวิวหนัง “The Covenant” กระตุกต่อมพลีชีพ..น้ำตาคลอ ฉบับผู้กำกับ กาย ริตชี
ถึงคิวผลงานใหม่อีกเรื่องหนึ่งของผู้กำกับ “กาย ริตชี” ที่ได้มีโอกาสลงโรงฉายในเมืองไทยแบบชนกันทั้งสองเรื่อง (อีกเรื่องก็คือ Operation Fortune: Ruse de guerre) ในสัปดาห์กลางเดือนเมษายน และเรื่องนี้คือ “The Covenant” ที่มาพร้อมกับโหมดขึงขัง พกกองกำลังทหารสหรัฐฯ มาอย่างมาดแมน แต่เนื้อแท้ของหนังเรื่องนี้สอดแทรกไปด้วยประเด็นมิตรภาพ ความหวัง และโอกาสในสงคราม ที่เผลอ ๆ อาจจะต้องเสียน้ำตาให้ด้วย
The Covenant เป็นเรื่องราวของ จ่าสิบเอก จอห์น คินลีย์ กับ อาเหม็ด ล่ามภาษาชาวอัฟกัน ที่ต้องระหกระเหินฝ่าฟันดงตาลีบานร่วมกัน หลังจากกองกำลังของพวกเขาได้ถูกซุ่มโจมตีอย่างหนักหน่วง โดยที่อาเหม็ดได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะช่วยชีวิตจอห์นเอาไว้ให้ได้ แต่เมื่อจอห์นฟื้นขึ้นมาทราบว่า อาเหม็ดยังคงหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ที่อัฟกานิสถาน ที่ตาลีบานได้หมายหัวเขาเอาไว้จากวีรกรรมที่เขาได้ช่วยเหลือทหารอเมริกันเอาไว้ ทำให้เขาเลือกที่จะกลับไปสู่สมรภูมิตัวเองอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือ…เพื่อนร่วมรบ
และก็อีกเช่นเคย The Covenant ก็ยังคงเป็นผลงานการเขียนบทหนังของ 3 ทหารเสือหน้าคุ้น กาย ริตชี ร่วมด้วย อิแวน แอตคินสัน กับ มาร์น เดวีส์ ที่พวกเขาทั้งสองคนต่างจับมือกันเขียนบทและพัฒนาบทมาด้วยกันในผลงานหลาย ๆ เรื่องนี้ สำหรับในหนังเรื่องนี้นั้นถือว่ามีกลิ่นอายที่ต่างไปจากงานเดิมของพวกเขาอยู่ไม่น้อย แม้ว่ามันจะยังสอดแทรกกลิ่นอายความเป็นหนังสุภาพบุรุษแนวถนัดอยู่ไปบ้าง แต่กับมีเส้นเรื่องและองค์ประกอบอื่นที่หนักแน่นยิ่งกว่า
โดยจะว่าไปแล้ว The Covenant ถือว่าเป็นหนังที่มีซีนและท่วงท่าที่เชิดชูกองทัพสหรัฐฯ อยู่ไม่เบา แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำออกมาเป็นหนังกองทัพจ๋า ๆ แบบชวนเลี่ยนอะไรทำนอง แต่กลับสดุดหน้าที่เล็ก ๆ ที่สำคัญในสงครามกับตาลีบานที่น่าจะถูกมองข้ามไป อย่างเจ้าหน้าที่ล่ามภาษาท้องถิ่น ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในกองกำลังที่เสียสละและเสี่ยงชีวิตกับการอยู่รอดในสังคม เพื่อมาทำหน้าที่ในการแปลภาษาให้กับฝ่ายศัตรูของบ้านเกิดของพวกเขา
ต้องยอมรับว่าพล็อตเรื่องง่าย ๆ ของหนังเป็นจุดที่ทำให้มันเวิร์กได้ดี เมื่อมาผนวกเข้ากับการเล่าเรื่องที่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน The Convenant จึงกลายเป็นหนังแอคชั่นทางการทหารที่ดูได้สนุกเพลินเอาการ เนื้อเรื่องค่อน ๆ ทวีคูณความเข้มข้นตามลำดับขั้นของสถานการณ์ที่หนังสร้างขึ้นมาในแต่ละซีน ถึงมันจะยังมีจุดที่เกินจริงและไม่สมเหตุสมผลปะปนอยู่ไปบ้าง แต่หนังก็มอบความบันเทิงแบบที่ผู้ชมต้องการได้เป็นอย่างดี
โลเคชั่นของหนังเรื่องนี้ถือว่าแจ่มมาก แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางไปถ่ายทำในสถานที่จริงอยู่แล้ว แต่การจำลองบรรยากาศของอัฟกานิสถานในหนังเรื่องนี้ถือว่าค่อนข้างใช้ได้ทีเดียว แม้ว่าจริง ๆ แล้วในหนังพวกเขาจะถ่ายทำอยู่ในสเปนเป็นหลัก ส่วนมุมภาพและมุมกล้องก็ยังไม่ทิ้งลวดลายของ กาย ริตชี เทคนิคต่าง ๆ อาจจะไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากเท่าไหร่ แต่มีส่วนในการช่วยบิวท์อารมณ์และบรรยากาศของหนังเอาไว้ในจังหวะที่ดี
ยิ่งมาได้การแสดงที่เป็นมืออาชีพของ “เจค จิลเลนฮาล” เข้าไปด้วย ยิ่งทำให้หนังเต็มไปด้วยอรรถรสเข้าไปใหญ่ เขามอบการแสดงที่เฉียบขาดสไตล์ของเขา เล่นน้อยแต่ให้ออกมามาก ถึงจะไม่ได้เป็นการแสดงระดับมาสเตอร์พีชอะไร แต่เขาก็คือตัวละครหลักที่แบกหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับ “ดาร์ ซาลิม” ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย ถือว่าบทส่งให้เขาอยู่ไม่น้อย แต่คาแรกเตอร์นี้เต็มไปด้วยหลากหลายมุมให้น่าสำรวจ และเขาก็ทำออกมาได้ดี ในลักษณะพูดน้อยต่อยหนัก
เอาเป็นว่าหลังจากที่ได้เสพงานหนังของ กาย ริตชี มาหลายเรื่องที่ผ่านมา ก็ทำให้เห็นว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่มีความหลากหลายในการผลิตอยู่ไม่น้อย ถึงจะถนัดในงานสร้างหนังแอคชั่นสไตล์สุภาพบุรุษ แต่เขาก็ยังหันมาทำหนังแฟนตาซีให้ดิสนีย์ได้ และล่าสุดมาจับทำหนังดราม่าเกี่ยวกับสงครามออกมาได้ดีอีกเช่นกัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กาย ริตชี ชื่อนี้ไม่มีอะไรที่เขาจะทำไม่ได้ในวงการหนังอีกแล้ว
ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว The Covenant ก็ถือว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างมอบผลลัพธ์ที่เซอร์ไพรส์อยู่ไม่เบา เพราะไม่ได้คาดหวังที่จะได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่อะไรแบบนี้ แต่หนังสามารถตอบโจทย์และสร้างความอิมแพคต่อใจคนดูได้เป็นอย่างดี แม้ว่าหนังจะยังค่อยข้างเพลย์เซฟกับสูตรสำเร็จที่ไม่ได้แปลกใหม่อะไรก็ตาม แต่อย่างน้อย ๆ ก็ทำหนังออกมาได้สนุกและประทับใจ นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งหนังทหารที่น่าจดจำเอาไว้อีกเรื่องหนึ่งในยุคนี้เลยทีเดียว
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The Covenant
ประเภท: แอคชั่น / ดราม่า / ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ: กาย ริตชี
นำแสดงโดย: เจค จิลเลนฮาน, ดาร์ ซาลิม
ความยาว: 123 นาที
กำหนดฉายในไทย: 20 เมษายน 2023 (ในโรงภาพยนตร์)
Movie.TrueID METRIC: The Covenant
ภาพรวม
✰✰ (8/10)
การเล่าเรื่อง
✰✰ (8/10)
การแสดง
✰✰ (8/10)
เทคนิคงานสร้าง
✰✰✰ (7/10)
บทภาพยนตร์
✰✰✰ (7/10)
ขอบคุณรูปภาพจาก : entertainment.trueid.net
ขอบคุณแหล่งที่มา : entertainment.trueid.net
ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net