[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
เมนูหลัก
หน่วยงานในวิทยาลัย
ข้อมูลพื้นฐานวิทยาลัย
งานนโยบายและแผนฯ
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 84 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
หน่วยงานต่างๆ
poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก



 

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
“เมล็ดเจีย” ประโยชน์และความเสี่ยงต่อสุขภาพที่ควรรู้  VIEW : 127    
โดย 123

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1788
ตอบแล้ว : 1
เพศ :
ระดับ : 34
Exp : 38%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 182.52.252.xxx

 
เมื่อ : จันทร์ ที่ 8 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2566 เวลา 11:20:23    ปักหมุดและแบ่งปัน

“เมล็ดเจีย” ประโยชน์และความเสี่ยงต่อสุขภาพที่ควรรู้

เมล็ดเจีย หลายคนอาจเคยรับประทาน หรือเคยพบเห็นตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งคุณเคยสงสัยไหมว่าเมล็ดเจียนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร แล้วถ้าหากรับประทานในปริมาณเยอะไปล่ะ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือเปล่า นี่อาจเป็นสิ่งที่หลายคนสงสัย เราจึงจะมานำเสนอทั้งเรื่องของประโยชน์และความเสี่ยงของเมล็ดเจียให้ได้รู้

เมล็ดเจีย คืออะไร
เมล็ดเจียถือเป็นพืชทะเลทรายที่ประกอบไปด้วยคุณประโยชน์ เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไฟเบอร์ สารต้านอนุมูลอิสระ แคลเซียม เป็นต้น ซึ่งจากที่กล่าวมาคุณจะเห็นว่าเมล็ดเจียมีประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพอย่างหลากหลาย นอกจากนี้ มักมีวิธีการรับประทานด้วยการนำเมล็ดเจียผสมเข้าไปในอาหาร เครื่องดื่ม โรยบนซีเรียล ผัก ข้าว และโยเกิร์ต

ข้อมูลทางโภชนาการ
เมล็ดเจียปริมาณ 28 กรัม มีแคลอรี 131 ไขมัน 8.4 กรัม คาโบไฮเดรต 13.07 กรัม ไฟเบอร์ 11.2 กรัม โปรตีน 5.6 กรัม และไม่ส่วนประกอบของน้ำตาล

คุณประโยชน์
หากคุณรับประทานปริมาณ 1 ออนซ์ต่อวัน คุณจะได้รับแคลเซียมถึง 18% ฟอสฟอรัส 27% แมงกานีส 30% ตามมาด้วยโพแทสเซียมและทองแดง ซึ่งเมล็ดเจียจะมีโอเมก้า 3 แคลเซียม ฟอสฟอรัส และไฟเบอร์มากกว่าเมล็ดแฟลกซ์ โดยเมล็ดเจียสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะสุขภาพต่าง ๆ ได้ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และอัตราความเสี่ยงอื่น เป็นต้น

มีไฟเบอร์สูง
แนวทางการบริโภคอาหารของประเทศอเมริกาในช่วงปี 2015-2020 จะแสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่อายุต่ำกว่า 50 ปี ควรบริโภคไฟเบอร์ 30.8 กรัมต่อวัน ส่วนในผู้หญิงอายุต่ำกว่า 50 ปี ควรบริโภคปริมาณ 25.2 กรัมต่อวัน และสำหรับผู้ชายที่มีอายุมากว่า 50 ปีขึ้นไป บริโภคปริมาณ 28 กรัมต่อวัน ผู้หญิงบริโภคปริมาณ 22.4 กรัมต่อวัน โดยวิธีที่ง่ายที่สุดในการเลือกรับประทานไฟเบอร์ คือ ผลไม้ ถั่ว ผัก ธัญพืชที่ยังไม่ผ่านการแปรรูป แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าเพียงคุณรับประทานเมล็ดเจีย 1 ออนซ์ ก็ทำให้คุณได้รับไฟเบอร์ 10 กรัม ซึ่งถือเป็นจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งที่ผู้หญิงอายุมกกว่า 50 ปี ควรรับประทานใน 1 วัน

ช่วยลดน้ำหนัก
อาหารที่มีเส้นใยสูงสามารถช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานมากยิ่งขึ้น และมีแคลอรีต่ำด้วย โดยในการลดน้ำหนักมักจะมีการเพิ่มปริมาณไฟเบอร์ในอาหาร ซึ่งเมล็ดเจียนี่แหละถือได้ว่ามีไฟเบอร์สูง มีกรดไขมันโอเมก้า 3 กรดไขมันแอลฟาไลโนเลนิก สิ่งเหล่านี้นี่เองที่อาจมีประโยชน์สำหรับการลดน้ำหนักของคุณ แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานที่เพียงพอว่าเมล็ดเจียจะใช้ลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่

"เมล็ดเจีย" ประโยชน์และความเสี่ยงต่อสุขภาพที่ควรรู้

ช่วยรักษาถุงผนังลำไส้อักเสบ
อาการถุงผนังลำไส้อักเสบ อาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ต่ำ ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง อย่างเช่นเมล็ดเจีย สามารถช่วยลดอาการนี้ได้ ซึ่งลำไส้จะจะดูดซึมน้ำ และทำให้การอุจาระง่ายมากยิ่งขึ้น รวมถึงการรับประทานสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสามารถช่วยลดความดัน หรือการอักเสบบริเวณลำไส้ได้ด้วย

ช่วยลดโรคหัวใจกับหลอดเลือด และลดคอเลสเตอรอล
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่รับประทานไฟเบอร์เพียง 10 กรัมต่อวัน สามารถลดความดันโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอลได้ดี โดยการรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สามารถป้องกันเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน การอักเสบ รวมทั้ง ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจกับหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และโรคอ้วน

ช่วยลดการเกิดโรคเบาหวาน
ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงอย่างเมล็ดเจีย สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน เพราะไฟเบอร์ในเมล็ดเจียนั้นช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ ซึ่งมีผลการศึกษาพบว่าอาหารที่มีไฟเบอร์ 14 กรัมต่อจำนวน 1,000 แคลอรีสามารถลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2

ช่วยย่อยอาหารและดีท็อกซ์
เมล็ดเจียสามารถช่วยป้องกันอาการท้องผูก ทำให้ขับถ่ายทุกวันจึงทำให้สารพิษที่เกิดขึ้นทุกวันถูกขับออกผ่านทางน้ำดีกับอุจาระ และช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

มีกรดไขมันโอเมก้า 3
เมล็ดเจียอุดมไปด้วยไขมันโอเมก้า 3 ที่ชื่อว่ากรดไขมันแอลฟาไลโนเลนิกที่อาจป้องกันโรคหลอดเลือดและหัวใจได้ ซึ่งกรดชนิดนี้ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ ดังนั้น เราจึงต้องรับประทานจากอาหารต่างๆ เอง

ความเสี่ยงในการรับประทานเมล็ดเจีย

คุณจะเห็นได้ว่าเมล็ดเจียอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่มากมายหลายประการ แต่การรับประทานเมล็ดเจียก็มีความเสี่ยงเหมือนกันนะ เนื่องจากเมล็ดเจียสามารถดูดซึมน้ำได้ถึง 27 เท่า ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการกลืน ผู้ที่มีอาการแพ้อาหารโดยเฉพาะงาดำกับเมล็ดมัสตาร์ด ผู้ที่ใช้ยาลดความดันโลหิต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานเมล็ดเจีย และเด็กเล็กไม่ควรรับประทานเมล็ดเจีย ส่วนผู้ที่รับประทานเมล็ดเจียควรรับประทานอย่างเหมาะสม โดยควรเลือกอาหารที่มีความหลากหลายด้วย

ภาพประกอบจาก istockphoto

ขอบคุณรูปภาพจาก : sanook.com

ขอบคุณแหล่งที่มา : sanook.com


ติดตามข่าวสาร ได้ที่  : thaigoodherbal.com





วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
237 หมุู่ 8 ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ 38170 โทรศัพท์ 042-086002 โทรสาร 042-086002