[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
เมนูหลัก
หน่วยงานในวิทยาลัย
ข้อมูลพื้นฐานวิทยาลัย
งานนโยบายและแผนฯ
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 84 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
หน่วยงานต่างๆ
poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก



 

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
รีวิว DOTA 2 (หรือ DOTA 3) แพตช์ใหม่ 7.33 เล่นยังไงไม่ให้หัวร้อน!  VIEW : 115    
โดย ฮานึล

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1116
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 27
Exp : 13%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 182.52.252.xxx

 
เมื่อ : จันทร์ ที่ 8 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2566 เวลา 09:49:09    ปักหมุดและแบ่งปัน

รีวิว DOTA 2 (หรือ DOTA 3) แพตช์ใหม่ 7.33 เล่นยังไงไม่ให้หัวร้อน!

วันที่ 22 เมษายน 2023 น่าจะเป็นวันที่แฟน ๆ DOTA 2 หลายคนต้องจดจำ เพราะ Valve อัปเดตเกมครั้งใหญ่ จนเรียกได้เต็มปากว่านี่อาจเป็น DOTA 3 จริง ๆ ไม่ใช่คำแซวเหมือนแพตช์ก่อน ๆ ยกตัวอย่าง Map ที่ใหญ่ขึ้นอีก 40%, ระบบไอเทมป่าที่เปลี่ยนไป, จุด Check-In ในแมปที่เพิ่มขึ้น ไปจนถึงสกิล, ไอเทม และฮีโรต่าง ๆ แต่! คอนเทนต์นี้เราไม่ได้มาแปลข้อมูลว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง แต่จะเล่าให้ฟังในมุมคนเล่นจริง ๆ แบบคนหัวร้อนคุยกับคนหัวร้อน ว่าแพตช์ใหม่ที่ใหญ่ขนาดนี้ต้องเล่นยังไงไม่ให้หัวร้อน

แมปอย่างใหญ่ เล่นยังไงไม่ให้หลง
เริ่มต้นที่แผนที่ก่อน แม้แม็ปจะใหญ่แต่อย่าเพิ่งวิตกกังวลจนเกินไป อย่าไปคิดว่ามันยากและซับซ้อนจนเกินจะทำความเข้าใจ เพราะส่วนที่เพิ่มเข้ามามันคือรอบนอก หรือขอบของแผนที่เดิมเท่านั้น!

นึกภาพง่าย ๆ ปกติขอบแผนที่มักจะเป็นป่ามืด ๆ เป็น Fog of War ไว้หลบเวลาโดนไล่แก๊งเท่านั้น Valve คงมองว่าพื้นที่เหล่านี้มันน่าจะพัฒนาเพิ่มได้ ก็เลยจัดการทำให้มันใช้การได้จริง ๆ โดยลดความหนาแน่นของต้นไม้ลง และเพิ่มทางเดินให้มากขึ้น จนเราสามารถเดินเลียบขอบแมปจากมุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่งได้เลย ซึ่งบริเวณขอบแมปที่เพิ่มเข้ามาก็จะมีจุด Check-In เพิ่มขึ้นมากมาย (ซึ่งเราจะกล่าวในหัวข้อถัดไป)

การเกิดขึ้นของขอบแมปเหล่านี้มีผลต่อการเล่นมาก เพราะเดิมที เรามักจะระวังการแก๊งจากป่าด้านใน แต่ตอนนี้รอบนอกของป่าก็สามารถโดนดักซุ่มได้ และเกิดขึ้นบ่อยด้วย! ยกตัวอย่างเวลาเราเล่น Offlane ฝั่ง Dire (จำง่าย ๆ ก็ฝั่งขวาบนในมินิแมป) ปกติเราแล้วจะระวังแค่ป่าฝั่งซ้าย เพราะเป็นทิศทางที่ Midlane จะเดินมา หรือ Support อีกฝั่งดักซุ่มแก๊งเรา แต่ด้วยขอบแมปที่กว้างขึ้น ทำให้บ่อยครั้งซับพอร์ตก็ย้ายไปซุ่มฝั่งขวา(ขอบแมป) รวมไปถึงเลนกลางพอวาร์ปมา ก็วิ่งย้อนไปฝั่งขวาแทน ทำให้เลนเฟสนั้นต้องระวังมากขึ้น ต้องคอยเช็กมินิแมปให้ดี เพราะมีโอกาสโดนโจมตีได้ทั้ง 2 ฝั่ง พูดง่าย ๆ ว่าไม่ใช่แค่ Midlane ที่มีโอกาสโดนแก๊งทั้งจากทางซ้ายและขวา เลนข้างก็มีโอกาสโดนแก๊งจากทางซ้ายและขวาได้เช่นกัน

ในส่วนของแมปหลักหรือโซนตรงกลาง ก็มีการปรับภูมิประเทศนิดหน่อย ไม่น่ามีอะไรกังวล เพราะเป็นสิ่งที่ Valve ทำอยู่บ่อย ๆ ดังนั้นอาศัยความคุ้นชินหน่อยก็จำได้แล้ว แต่จุดวอร์ดต้องระวังให้ดี ด้วยความที่เนินเปลี่ยนไป บางจุดต้องหาใหม่ แต่อาศัยจำง่าย ๆ ยิ่งปักสูงยิ่งเห็นกว้าง

ดังนั้นเพื่อไม่ให้หัวร้อนเทคนิคที่เราใช้คือเล่นโดยใช้ความรู้สึกว่าแมปขนาดเท่าเดิม แค่เติมขอบนอกเข้ามา เพราะไม่งั้นเราจะวิตกเกินไปจนไม่กล้าออกจากแมปเพราะกลัวโดนแก๊ง แล้วใช้วิธีวอร์ดเช็กเอาแค่โซนใดโซนหนึ่ง เช่นป่าด้านใน หรือขอบด้านนอก เพราะถ้าเราจะวอร์ดคุมทั้งขอบนอก และป่าด้านในยังไงก็ไม่พอแน่นอน แล้วหมั่นมองมินิแมปว่าใครหายไปบ้าง สมมติวอร์ดป่าด้านในแล้วไม่เจอใคร โอกาสที่อีกฝ่ายจะดักซุ่มในขอบนอกก็มีสูง เราก็หนีไปฟาร์ม ไปเล่นด้านในได้เลย ต่อมาก็รอดูสถานการณ์อีกนิดถ้าอีกฝ่ายไม่ออกมาจากขอบนอก แสดงว่าหนีไปอยู่บนบ้านแน่ ๆ ไม่ก็แมปอีกฝั่งแน่ ๆ หรือถ้าอยู่ขอบนอกจริง ๆ ด้วยแมปที่กว้างขึ้น การจะเดินทางจากขอบนอกมาป่าด้านในย่อมใช้เวลามากขึ้นตาม มีโอกาสที่จะเผยตัวให้เราเห็นบนมินิแมปก่อนแน่นอน (เว้นแต่อีกฝั่งจะเล่นละเอียดใช้ Smoke of Deceit พรางตัว)

สรุปจำไว้แค่ว่าแมปใหม่ที่เพิ่มมาคือขอบนอกเท่านั้น โซนด้านในที่เคยเล่นมีระยะเท่าเดิม ไม่ต้องวิตก แค่เลือกเล่นเป็นโซน ๆ อย่าวอร์ดคุมไปทั่ว ไม่งั้นจะคุมแมปยากเพราะวอร์ดจะไม่พอ

จุด Check-In อยู่ตรงไหน คุมยังไงให้ได้เปรียบ
แมปที่กว้างขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือจุด Check-In ต่าง ๆ ซึ่งจุดเหล่านั้นอยู่บริเวณขอบนอกทั้งหมด ซึ่งจุด Check-In เหล่านี้มีอะไรบ้างและมีความสำคัญอย่างไร เราจะมาสรุปกัน

Tormentor หรือมินิบอส: เกิดหลัง 20 นาที และจะเกิดใหม่ทุก ๆ 10 นาที ทอร์เมนเทอร์นี้จะไม่โจมตีเรา แต่จะสะท้อนดาเมจใส่เราแทน โดยจะสะท้อนดาเมจ 70% ที่ได้รับไม่ว่าจะจากการโจมตีปกติ หรือจากสกิลไปในระยะ 1200 radius รอบตัว หลังจากทำลายได้แล้วจะได้เงินและ Exp พร้อมดรอป Aghanim’s Shard ให้กับคนที่ค่าเงินต่ำสุดในทีม โดย Tormentor จะมีทั้ง 2 ฝั่ง

แกนวาร์ปข้ามแมป: อย่างน้อย Valve ก็ใจดี แถมแกนวาร์ปมาให้ โดยแกนวาร์ปจะอยู่บริเวณมุมซ้ายบนและขวาล่างของมินิแมป โดยแกนวาร์ปจะเป็นการวาร์ปไปมาระหว่าง 2 แกนนี้ ช่วยให้เราข้ามไปอีกฝั่งของแมปง่ายขึ้น

Outpost: มี Outpost เพิ่มขึ้นมาอีกฝั่งละอัน โดยอยู่ข้าง ๆ แกนวาร์ปทั้ง 2 อัน
บ่อบัวเติมเลือด: บ่อนี้ทุก ๆ 3 นาทีจะดรอปดอกบัวที่กดแล้วจะเติมเลือดและมานา 125 หน่วยทันที โดยสามารถรวมเป็นดอกบัวใหญ่ได้ ( 3 ดอกบัวเล็ก รวมได้เป็น 1 ดอกบัวกลาง เติมเลือดและมานา 400 หน่วย, 2 ดอกบัวกลาง รวมได้เป็น 1 ดอกบัวใหญ่ เติมเลือดและมานา 900 หน่วย)
รูนเพิ่ม Exp: เนื่องจากสมุดเพิ่ม Exp ถูกเอาออกไป Valve เลยเติมอันนี้มาให้แทน รูนนี้จะเกิดทุก ๆ 7นาที เกิดบริเวณหน้า Tormenter ของทั้ง 2 ฝั่ง
ครีปป่า: บริเวณขอบนอกของแมปนอกจากมีจุด Check-In เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีครีปป่าเพิ่มขึ้นด้วย เท่ากับว่าจากเดิมฟาร์มได้แต่ป่าด้านใน ก็จะมีป่าขอบนอกที่ให้เราฟาร์มเพิ่ม เพียงแต่ภูมิประเทศค่อนข้างอันตราย เพราะบริเวณที่เราลงไปฟาร์มมักจะเป็นแอ่ง นั่นหมายความว่าถ้าโดนแก๊ง อีกฝ่ายจะเห็นเราก่อน เพราะเราอยู่พื้นที่ต่ำกว่า
Watcher: พูดง่าย ๆ ก็คือวอร์ดประจำแมป ที่ใครมากดก็ได้ ด้วยความที่แมปกว้างขึ้น Valve เข้าใจดีว่าวอร์ดอาจจะปักคุมแมปไม่หมด เพราะไหนจะโดนแก้ แถมมีจำกัด เลยมี Watcher เป็นวาร์ดฟรีให้ทั้ง 2 ทีมเข้ามายึดได้ โดยจะให้การมองเห็น 800 radius เป็นระยะเวลา 7 นาที โดยมีทั่วแมปทั้งสิ้น 8 อัน

รีวิว DOTA 2 (หรือ DOTA 3) แพตช์ใหม่ 7.33 เล่นยังไงไม่ให้หัวร้อน!

ขอบคุณรูปภาพจาก : beartai.com

ช้าก่อน! อย่าเพิ่งตกใจ
แม้ของที่เพิ่มขึ้นจะมีมากมาย จนไม่รู้ว่าจะใช้ประโยชน์ยังไง รวมทั้งจะโดนอีกฝั่งเอาเปรียบเราหรือไม่ เพราะมีจุดเพิ่มขึ้นมากมายเหลือเกิน… ใจเย็น ๆ มันไม่ได้ซับซ้อนหรือยากขนาดนั้น จำไว้แค่ว่า

ในเลนเฟสถ้าเลือดน้อย มานาจะหมด ทุก ๆ 3 นาทีเตรียมไปที่บ่อบัวได้เลย หรือถ้าอยากชนะไฟต์ใหญ่ รีบแย่งสะสมเอาดอกบัวใหญ่ให้ได้ (รีเจนมานาและเลือด 900 ทันทีที่กด) มันอาจพลิกไฟต์ได้เลยถ้าตัวคอร์เราถือ ดังนั้นก่อนไฟต์ใหญ่ วางแผนเรื่องเก็บดอกบัวให้ดี

ทุก ๆ 7 นาทีมี EXP แจก เพื่อกุมความได้เปรียบ โดยเฉพาะซัปพอร์ตที่เก็บเลเวลยาก พอใกล้ถึงเวลารีบปักวอร์ดให้ตัวคอร์แล้วหนีไปเก็บรูนเลย แต่ก่อนไปก็เช็กมินิแมปให้ดี มีบ่อยครั้งที่อีกฝั่งเอารูน 7 นาทีมาล่อ โดยการรอให้อีกฝ่ายมาเก็บแล้วก็แก๊งจนตายฟรีได้ EXP จริงแต่แจกเงินแจกเลเวลอีกฝั่งซะงั้น

ภาคต่อของ Cyberpunk 2077 อาจได้รับแรงบันดาลใจจาก Dishonored

Tormentor แจก Aghanim’s Shard ฟังดูอาจเป็นเรื่องเล็ก ๆ เพราะราคาแค่ 1,400 Gold เอง แต่ใจเย็น ๆ สำหรับซัปพอร์ตที่คอยปักวอร์ด, ซื้อเลือด, ซื้อมานา, พกดัสต์, กด SOD แถมครีปก็ต้องให้ตัวคอร์ การหาเงิน 1,400 Gold นี่เยอะมากเลยนา เพราะจะดรอปให้กับคนที่การเงินต่ำสุดในทีม หรือยังไม่มี Shard หรือถ้ามองในมุมทีมไฟต์… Shard เริ่มขายนาทีที่ 15 ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีแต่ตัวคอร์ที่ซื้อได้ ถ้าวางแผนดี ๆ ว่าอีก 5 นาทีถัดมา Tormentor ตัวแรกเกิดรีบไปรุมตีเพื่อดรอป Shard มาให้ซับพอร์ต อาจช่วยให้จังหวะเกมของทีมดีขึ้นมาเลยก็ได้ เพราะแทนที่จะรอซัปพอร์ตฟาร์ม (อาจใช้เวลา 3 – 5 นาที) กลับใช้เวลารุมตีแค่ไม่กี่ 10 วินาทีแทน แต่ต้องระวังเรื่องการสะท้อนดาเมจให้ดี เพราะมีคนตายเพราะเรื่องนี้มาเยอะแล้ว

Watcher อันนี้ไม่ต้องคิดเยอะ จำไว้แค่ว่าเดินผ่านเมื่อไหร่คลิกขวาเมื่อนั้น เพราะใช้เวลากดแค่ราว ๆ 1 วินาทีเอง ทีมได้เปรียบขึ้นมากแน่นอน

ไอเทมป่าน่าใช้ขึ้นเยอะ
ระบบไอเทมป่าที่มีการปรับปรุงนิดหน่อย จากเดิมตีครีปแล้วจะดร็อปเป็นไอเทมเลย คราวนี้เปลี่ยนเป็นดรอปกล่องสุ่มแทน ซึ่งกล่องสุ่มก็จะสุ่มไอเท็มป่ามา 5 ชิ้น จากกว่า 10 ชิ้นทีมีใน Tier นั้น ๆ นั่นหมายความว่าแต่ละ Tier จะดรอปกล่องสุ่ม 5 ชิ้นพอดีกับผู้เล่นในทีม จากนั้นก็เปิดหาไอเทมที่ต้องการได้เลย อยากได้อะไร หาอะไรก็คุยกับเพื่อนดี ๆ เผื่อเราสุ่มไม่ได้ แต่เพื่อนสุ่มได้ก็จะได้เอามาแลกใช้กัน แต่ต้องส่งให้เพื่อนเองนะ เพราะไอเทมป่าที่เราสุ่มได้จะไม่ได้แชร์กระเป๋ากัน เก็บในคลังของใครของมัน ที่สำคัญไอเท็มป่าเก่า ๆ บางอันถูกนำกลับมาด้วยนะ!

ไอเทมใหม่ ใช้เป็น เล่นง่าย
เรื่องของไอเทมมีการปรับเปลี่ยนไปพอสมควรโดยเฉพาะ BKB ที่ไม่ได้กันเวทโดยสมบูรณ์อีกต่อไปแล้ว แต่กระนั้นการลดสถานะก็ช่วยให้การเล่นง่ายขึ้น รวมไปถึงไอเทมใหม่ ๆ อย่าง Blood Grenade ที่ปาใส่ศัตรูแล้วจะสโลว์ 15% ถึง 5 วินาที รวมไปถึง Echo Sabre ขั้นสองอย่าง Harpoon ที่จะดึงเราและศัตรูเข้าหากัน (เหมือนสกิล Reality Rift ของ Chaos Knight) แถมส่วนผสมในไอเทมหลาย ๆ อย่างก็เปลี่ยนไป มีการปรับราคาหลายอย่างด้วย ในส่วนนี้คิดว่าไม่ต้องลงรายละเอียดมาก เพราะศึกษาเองได้ไม่ยากครับ

สรุป
ในความเห็นของผู้เขียนที่เล่น DOTA มาหลักสิบปี (ตั้งแต่ DOTA 1 นู่นเลย แต่ไม่เก่งนะ) ยอมรับว่านี่คือแพตช์ที่ตื่นตาตื่นใจ และเรียกว่า DOTA 3 ได้เต็มปาก (หัวเราะ) เริ่มจากแมปที่เปลี่ยนรูปแบบการเล่นไปโดยสิ้นเชิง ซัปพอร์ตมีพื้นที่เล่นมากขึ้น มีป่า มี Fog ให้หลบมากขึ้น รวมทั้งไอเทมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมเรื่องจังหวะการเล่น ที่สำคัญ BKB ไม่ได้กันสกิล 100% อีกต่อไป นั่นหมายความว่าซัปพอร์ตก็เล่นสนุกขึ้น ไม่ใช่เจอ BKB แล้วปล่อยจอยเหมือนแต่ก่อน

ในขณะเดียวกันตัวคอร์, ตัวแครี่มีป่าให้ฟาร์มมากขึ้น แมปใหญ่ขึ้นก็หลบฟาร์มได้มากขึ้น แม้ BKB จะถูกด้อยค่าลง แต่ไอเทมอื่น ๆ ก็แพรวพราวจนจังหวะบู๊ จังหวะไล่ฆ่าน่าจะมันส์มือเลย

ป.ล. ชื่อบทความเขียนไปงั้นแหละ ความจริงหัวร้อนทุกวันเลยโว้ย! เกมหมx
ฮีโรหลาย ๆ ตัวสกิลเหมือนจะโกงก็จริง แต่มันก็เหมือนจะโกงทุกตัว และด้วยความที่ทุกตัวมันโหดได้จนสุดกราฟ จังหวะทีมไฟต์มันเลยสนุกมาก เพราะการสร้างสมดุลไม่ได้มีแต่การปรับลดทุกอย่างให้เท่ากัน แต่มันยังมีการเพิ่มทุกอย่างให้เก่งเท่ากันด้วย พูดง่าย ๆ คือแทนที่จะสู้กันด้วยปืนพก ทุกคนสู้กันด้วยรถถัง ระเบิดนิวเคลียร์ ทำให้มันสนุกมากกกก! ที่สำคัญไม่มีอะไรที่แก้ทางไม่ได้ ทุกตัวมีฮีโรแก้ทาง มีไอเทมแก้ทาง เพียงแต่คุณจะคิดออกหรือเปล่า หรือดราฟต์มาถูกหรือเปล่า ไม่มากก็น้อยนี่เป็นแพตช์ที่เราประทับใจมากครับ แม้จะหัวร้อนก็เถอะ เอาเป็นว่าขอให้ทุกคนโชคดีกับ DOTA 2 แพตช์นี้ครับ ชีวิตดีเมื่อไหร่ก็ลงแรงก์สักเกม จะได้รู้ว่าชีวิตจริงเป็นยังไง… รัก

ติดดตามข่าวสารวงการเกมและอื่นๆ ได้ที่ : inwesport

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก : beartai.com

ลิงค์รูปภาพ :

1. ภาพจาก : beartai.com

2. ภาพจาก : beartai.com






วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
237 หมุู่ 8 ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ 38170 โทรศัพท์ 042-086002 โทรสาร 042-086002