กระแสร้อนล่าสุดในโลกออนไลน์ เมื่อเว็บไซต์ khmer440 ของกัมพูชา มีผู้ใช้นามแฝงว่า SEAhistory ร่ายยาวเหยียดถึงเรื่องราวของ "นายขนมต้ม" บรมครูมวยแห่งพงศาวดารไทย ที่จริงแล้วเป็นชาวเขมร แต่คนไทยแต่งขึ้นมาโดยลอกไปจากชาวเขมรนั่นเอง
ล่าสุด เพจ The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก ที่มีผู้ติดตามกว่า 4.7 แสนคน ได้นำเสนอเรื่องราวดังกล่าว จนมีผู้แชร์ออกไปเป็นจำนาวนมาก อ้างอิงจากที่มา https://www.khmer440.com/chat_forum/viewtopic.php?t=68592 ที่ SEAhistory โพสต์เป็นภาษาอังกฤษ โดยมีใจความดังนี้
"นายขนมต้มนั้นแท้จริงเป็นชาวเขมร และวิชาที่นายขนมต้มใช้นั้นไม่ใช่มวยไทย แต่เป็นมวยเขมรตามหลักฐานที่ปรากฏบนกำแพงนครวัด 'ตำนานนายขนมต้ม' ซึ่งพูดถึงเรื่องนักมวยไทยที่ถูกพม่าจับตัวไป และสามารถใช้วิชามวยไทยต่อยชนะพม่าถึงสิบคนนั้น เป็นเรื่องที่ชาวไทยแต่งขึ้น โดยลอกไปจากตำนานของเขมร
ตำนานเขมรอันเป็นเรื่องราวที่แท้จริงเล่าแบบนี้ กาลครั้งหนึ่งเมื่อกษัตริย์พม่ารบชนะอยุธยา และกวาดต้อนชาวไทยไปนั้น ได้มีทาสชาวเขมรคนหนึ่งอยู่ในหมู่เชลยไทย มีหน่วยก้านดี จึงถูกเรียกมาให้ต่อยมวยให้กษัตริย์พม่าดู
ทาสเขมรคนนั้นชื่อนายขนมต้ม แต่แทนที่จะต่อยมวย เขาได้ใช้วิชาร่ายรำอันงดงามและทรงพลัง ทำให้นักมวยพม่าที่เป็นคู่ชกมีอาการมึนเมา และถูกเขาสยบลงในที่สุด
กษัตริย์พม่ารู้สึกประหลาดใจจึงเรียกนักมวยพม่ามาสู้อีก ก็ล้วนถูกนายขนมต้มใช้การร่ายรำทำให้เมามายไปทั้งสิ้น รวมแล้วเป็นสิบคน
วีรกรรมนี้ทำให้กษัตริย์พม่ามีความพึงพอใจ จึงประทานเงินทองและภรรยาให้กับนายขนมต้ม จนนายขนมต้มอยู่สอนวิชามวยเขมรในเมืองพม่า กลายเป็นต้นตำรับมวยพม่า หรือที่เรียกว่า เลตเหว่ (Lethwei)
ชาวเขมรชื่อนาย SEAhistory ชี้ให้เห็นว่าไม่มีหลักฐานใดๆ ระบุว่านายขนมต้มเป็นชาวไทย แต่หลักฐานชิ้นใหญ่ที่สนับสนุนเรื่องราวของเขา คือชื่อของนายขนมต้มเอง เพราะคำว่า 'ขนมต้ม' เป็นคำที่ไม่มีความหมายในภาษาไทย โดยคำว่า 'ขนม' นั้นแปลว่าของหวาน ส่วนคำว่า 'ต้ม' แปลว่าต้มอาหาร หรือแปลว่าซุป ใครกันจะเอาของหวานไปต้มทำซุปเล่า?
ในทางตรงข้าม คำว่า ขนมต้ม กลับมีความหมายในภาษาเขมร โดยมาจากคำว่า 'ขยม' ที่แปลว่า 'ตัวฉัน' หรือ 'ข้ารับใช้' และคำว่า 'ธม' ที่แปลว่า 'ใหญ่' ดังนั้น นายขนมต้ม จึงมีชื่อที่แท้จริงว่า 'นายขยมธม' ที่แปลว่า 'ฉันใหญ่นะ'
เขาชี้ให้เห็นว่าเมื่อก่อนนั้นทาสเขมรถูกชาวไทยกดขี่ ห้ามไม่ให้เปิดเผยถึงเชื้อชาติที่แท้ของตน แต่ชาวเขมรมีความฉลาดเฉลียวจึงแอบตั้งชื่อตัวเองเป็นภาษาเขมร เพื่อส่งสัญญานให้ลูกหลานในอนาคตเรียนรู้ว่าชนชาติของตนนั้น 'ฉันใหญ่นะ' ขนาดไหน
ชาวเขมรชื่อนาย SEAhistory ชี้ว่าวิชาการร่ายรำแบบเขมรนั้นได้ถูกพัฒนามาเป็นการ 'รำไหว้ครู' ของมวยไทย สังเกตว่าท่วงท่าคล้ายกัน และคำว่า ครู ก็เป็นภาษาเขมรด้วย
นอกจากนั้นคำว่า 'มงคล' หรือเครื่องประดับศีรษะที่นักมวยไทยใช้สวมนั้น เป็นคำที่ไม่มีความหมายในภาษาไทย แต่กลับมีความหมายในภาษาเขมร ซึ่งแปลว่า 'มงคล' (งงมะ) ดังนั้น นี่จึงเป็นอีกหลักฐานว่ามวยไทยมาจากเขมรนั่นเอง
อนึ่งเรื่อง นายขนมต้ม เป็นเขมรนี้ไม่ได้มีลงที่นี่ที่เดียว ก่อนหน้านี้ตอนเกิดดราม่าเข็มขัดแชมป์มวยไทย ก็มีชาวเขมรมาบอกว่า นายขนมต้ม เป็นเขมรเช่นกัน แต่ไม่มีที่มาที่ไป บางทีเรื่องของนาย SEAhistory ที่ยกมาข้างต้นนี้อาจจะเป็น "ที่มาที่ไป" ของกระแสความเชื่อดังกล่าวก็ได้"
ทั้งนี้ เรื่องราว นายขนมต้ม ของไทย ปรากฏครั้งแรกในพระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน มีเนื้อหาดังนี้:
ขณะที่ พระเจ้าอังวะ ยังอยู่ ณ เมืองย่างกุ้ง ได้ทำการยกฉัตรยอดพระมหาเจดีย์เกษธาตุสำเร็จแล้วให้มีการฉลอง ขุนนางพม่ากราบทูลว่า นักมวยเมืองไทยมีฝีมือดียิ่งนัก จึงได้ตรัสสั่งให้จัดหามาโชว์ฝีมือ ซึ่งก็คือ นายขนมต้ม ผู้เป็นนักมวยดีมีฝีมือแต่ครั้งกรุงเก่านั่นเอง
พระเจ้าอังวะ จึงให้พม่าจัดนักมวยเข้ามาเปรียบกับ นายขนมต้ม แล้วให้ชกกันหน้าพระที่นั่ง นายขนมต้ม ชกพม่าไม่ทันครบ 1 ยก พม่าก็แพ้ จึงจัดคนอื่นเข้ามาชกอีก นายขนมต้ม ก็ชกพม่า, ชกมอญ แพ้รวด 9-10 คน
พระเจ้าอังวะ ทอดพระเนตรยกพระหัตถ์ตบพระอุระ ตรัสสรรเสริญฝีมือ นายขนมต้ม ว่า ไทยมีพิษอยู่ทั่วตัว ขนาดมือเปล่าไม่มีอาวุธเลยยังสู้ได้ คนเดียวชนะ 9-10 คน แต่เพราะเจ้านายไม่ดีจึงเสียบ้านเมืองแก่ข้าศึก ถ้าเจ้านายดีแล้วไหนเลยจะเสียกรุงศรีอยุธยา จากนั้นจึงพระราชทานรางวัลแก่ นายขนมต้ม โดยสมควร
https://trigsol.com
|