การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 รอบคัดเลือก นัดแรก กลุ่มซี ทีมชาติอิตาลี เปิดสตาดิโอ ดิเอโก อาร์มันโด มาราโดนา เมืองเนเปิลส์ ต้อนรับการมาเยือนของ ทีมชาติอังกฤษ

โรแบร์โต มันชินี กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ใช้แนวรุกเป็น โดเมนิโก เบราร์ดี, มาเตโอ เรเตกี และ ลอเรนโซ เปเยกรินี

ด้านทัพสิงโตคำรามของ แกเร็ธ เซาธ์เกต วางหมากมาในแผน 4-3-3 เช่นกัน บูกาโย ซากา, แฮร์รี เคน และ แจ็ค กรีลิช นำทัพล่าตาข่าย

เริ่มเกมได้ 13 นาที อังกฤษ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุมฝั่งขวาที่ บูกาโย ซากา เปิดลึกไปเสาไกลถึง แฮร์รี เคน จับแล้วยิงด้วยขวาติดบล็อกแนวรับอิตาลีมาเข้าทาง ดีแคลน ไรซ์ จับแล้วยิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย

นาทีที่ 44 ผู้ตัดสินเช็ก VAR จังหวะที่ โจวานนี ดิ ลอเรนโซ ยกแขนไปโดนลูกบอลขณะที่กำลังกระโดดแย่งโหม่งกับ แฮร์รี เคน ก่อนจะชี้ขาดให้จุดโทษแก่สิงโตคำราม และเป็น แฮร์รี เคน รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้เขาผงาดทำสถิติเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอังกฤษแต่เพียงผู้เดียวแล้ว ด้วยผลงาน 54 ประตู

จบครึ่งแรก อังกฤษ บุกมานำ อิตาลี 2-0

ครึ่งหลัง อิตาลี มาได้ประตูตีไข่แตก ในนาทีที่ 56 จากจังหวะที่ ลอเรนโซ เปเยกรินี จ่ายทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ มาเตโอ เรเตกี จับแล้วยิงด้วยขวาอย่างเด็ดขาด กลายเป็นประตูแรกในนัดประเดิมสนามทีมชาติของเจ้าตัวด้วย ทำให้ขุนพลอัซซูร์รีไล่มาเป็น 1-2

ท้ายเกมนาทีที่ 80 อังกฤษ ต้องมาเหลือ 10 คน จากจังหวะที่ ลุค ชอว์ ไปตัดฟาวล์ใส่ มาเตโอ เรเตกี จนโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกไป

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้จบเกมเป็น อังกฤษ บุกมาเฉือนชนะ อิตาลี หวุดหวิด 2-1 เก็บสามแต้มประเดิมศึกยูโร 2024 รอบคัดเลือกได้สำเร็จ

https://sharkmaine.com