นักศึกษาสาวแจ้งจับดาบตำรวจข่มขืน ถ่ายคลิปแบล็กเมล์ ข่มขู่ไม่ให้เอาเรื่อง

นศ.สาวแจ้งจับดาบตำรวจมอมเหล้าข่มขืนถ่าย คลิปขู่แบล็กเมล์ หลังไปนั่งกินข้าวกับเพื่อน คู่กรณี มาขอนั่งด้วย แล้วชวนไปต่อร้านเหล้า คะยั้นคะยอให้ดื่มจนเมาพาไปต่ออีกร้าน ออกอุบายให้เพื่อนลงไปจองโต๊ะ แล้วขับพาผู้เสียหายเข้าโรงแรม บังคับขืนใจสำเร็จความใคร่ แฟนหนุ่มติดต่อไม่ได้ เช็กจีพีเอสโทรศัพท์ตามมาที่โรงแรม กลับถูกพนักงานกันไม่ให้เข้า เคลียร์ทางให้คู่กรณีพาผู้เสียหายไปพักอีกโรงแรม ขู่ถ่ายคลิปแบล็กเมล์จำยอมนอนค้างยันเช้า ผู้เสียหายร้องเพจสายไหมพาพบ ผกก.เอาผิดถึงที่สุด

นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยดังแจ้งความจับดาบตำรวจมอบเหล้าขืนใจถ่ายคลิปขู่แบล็กเมล์รายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 มี.ค.นายอาชาน โอภาสธนากุร ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา น.ส.ไอซ์ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านคลองหก จ.ปทุมธานี เข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ พัชรนิตยธรรม ผกก.สภ.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อให้ดำเนินคดีกับดาบตำรวจในโรงพัก สภ.คลองห้า มอมเหล้าข่มขืน น.ส.ไอซ์ ก่อนถ่ายคลิปขู่แบล็กเมล์

นายอาชานเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมาเพจสายไหมต้องรอดรับแจ้งจากผู้เสียหายว่าขณะไปนั่งกินข้าวกับเพื่อนที่ร้านแห่งหนึ่งมีคู่กรณีเป็นตำรวจยศ ด.ต.อยู่ใน สภ.คลองห้า เข้ามาขอทานข้าวด้วย แล้วชวนไปดื่มต่อที่ร้านอีกแห่ง คาดว่าน่าจะเป็นร้านของตำรวจคนดังกล่าว พยายามคะยั้นคะยอให้ผู้เสียหายดื่มเหล้า หลังรู้ตัวเองว่าเมา น.ส.ไอซ์ขอกลับบ้าน แต่คู่กรณีชวนไปต่ออีกร้าน พอขับรถไปถึงออกอุบายบอกเพื่อนผู้เสียหายที่มาด้วยลงไปจองโต๊ะ อ้างว่าจะขับรถวนไปหาที่จอด แต่กลับขับรถออกจากร้านพาไปโรงแรมบังคับขืนใจจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง

ระหว่างนั้นแฟนหนุ่มของผู้เสียหายติดต่อไม่ได้ เช็กจีพีเอสโทรศัพท์ตามมาที่โรมแรม แต่ถูกพนักงานกันไม่ให้เข้าไปด้านในแล้วเคลียร์ทางให้ตำรวจคนดังกล่าวบังคับพาผู้เสียหายไปอีกโรงแรม ขู่ว่าถ่ายคลิปตอนมีอะไรกัน ผู้เสียหายกลัวว่าหากไม่ยอมจะถูกแบล็กเมล์ กระทั่งนอนค้างแรมจนถึงเช้าจึงพาผู้เสียหายไปส่งบ้าน หลังเกิดเหตุ น.ส.ไอซ์ตัดสินใจขอความช่วยเหลือเพจสายไหม ตำรวจคู่กรณีรู้ข่าวโทรศัพท์มาเคลียร์กับทางเพจและผู้เสียหายเพื่อไม่ให้เข้าแจ้งความ แต่นักศึกษาสาวยืนยันว่าต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม ในฐานะที่เพจสายไหมก่อตั้งมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนก็ต้องดำเนินการตามความต้องการของผู้เสียหาย โดยมีหลักฐานสำคัญเป็นภาพถ่ายในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย

พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์เปิดผยว่า ตำรวจที่ถูกกล่าวหาอยู่ใน สภ.คลองห้าจริง ทำหน้าที่สายสืบ จากการโทรศัพท์สอบถามให้การภาคเสธ รับบ้างไม่รับบ้าง ตอนนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำนักศึกษาผู้เสียหายเบื้องต้นและส่งไปตรวจร่างกายประกอบสำนวน ขณะนี้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยควบคู่ไปกับคดีอาญา หากผิดจริงถือว่ามีความผิดทางวินัยร้ายแรงด้วย ส่วนกรณีที่บอกว่าตำรวจที่ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าของหรือหุ้นส่วนร้านผับบาร์ เจ้าตัวบอกว่าไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่เป็นคนชอบเที่ยว เรื่องนี้ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ใครผิดว่าไปตามผิด

ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ร่วมกับพนักงานสอบสวน พา น.ส.ไอซ์ผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุต่างๆ ตั้งแต่ไปนั่งกินอาหารกับเพื่อน ร้านที่ดาบตำรวจคู่กรณีพาไปดื่มเหล้าและโรงแรมที่ก่อเหตุที่อยู่ไม่ไกลจากร้านเหล้าก่อนข่มขืนเหยื่อแล้วถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล์ และช่วงเช้าวันที่ 27 มี.ค.พนักงานสอบสวนจะเรียกดาบตำรวจคนดังกล่าวมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

ขอบคุณรูปภาพจาก : thairath.co.th

ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th

ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net