แชมป์เก่า ลิเวอร์พูล เป่าปากทีเดียวกว่าจะเอาชนะน้องใหม่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ไปแบบสุดมันส์ 4-3 เกมนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตะบันแฮตทริก พาทีมเฉือนคว้าชัยในช่วงท้ายเกมแบบหืดจับ เก็บสามแต้มประเดิมนัดแรก พรีเมียร์ลีก ซีซั่นใหม่ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
สนาม : แอนฟิลด์
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-21 นัดเปิดฤดูกาล เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่าง ลิเวอร์พูล เจ้าของแชมป์เมื่อซีซั่นก่อนรับการมาเยือนของ ลีดส์ ยูไนเต็ด น้องใหม่ดีกรีแชมป์จากแชมเปี้ยนชิพ ที่คว้าตั๋วเลื่อนชั้นขึ้นมาในรอบ 16 ปี
เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมผ่านความฟิตลงเป็นตัวจริง ปั้นเกมร่วมกับ นาบี เกอิต้า และจอร์จินโย่ ไวนัลดุม ส่วนแนวรุกสามประสานยังเป็น โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และซาดิโอ มาเน่ ส่วนทางฝั่งของ มาร์เชโล่ บิเอลซ่า กุนซือวัยเก๋าของ "ยูงทอง" ใช้ขุมกำลังจากซีซั่นก่อนเป็นหลักมี แคลวิน ฟิลลิปส์ คุมจังหวะร่วมกับ แจ็ค แฮร์ริสัน โดยเลือก แพทริก แบมฟอร์ด เป็นหน้าเป้าก่อน โรดริโก้ โมเรโน่ หัวหอกทีมชาติสเปนที่ออกสตาร์ทเป็นสำรอง
เริ่มเกมมาได้แค่ 4 นาทีแรก ลิเวอร์พูล มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ยิงไปติดแขน โรบิน คอช เซ็นเตอร์แบ็กตัวใหม่ของ "ยูงทอง" ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ ซาลาห์ จะสังหารจุดโทษเข้าไปอย่างเต็มแรง ให้ "หงส์แดง" ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0
ทว่า นาที 12 "แชมป์เก่า" มาเสียท่าโดน ลีดส์ ยูไนเต็ด ไล่ตีเสมอ 1-1 จนได้ จากความยอดเยี่ยมของ แคลวิน ฟิลลิปส์ ที่วางบอลยาวมาให้ แจ็ค แฮร์ริสัน เกี่ยวบอลหลบ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก่อนตัดเข้ากลางแล้วโยกหลบ โจ โกเมซ แล้วซัดด้วยขวาเสาแรกผ่านมือ อลีสซง เข้าไปอย่างเฉียบขาด
นาที 16 ลูกทีมของ คล็อปป์ พลาดได้ประตูที่สองอย่างน่าเสียดาย หลัง อิลลัน เมส์ลิเยร์ นายด่านลีดส์ออกมาสกัดบอลพลาดไปเข้าทาง มาเน่ ซัดกว่า 40 หลาเข้าไปแล้ว ทว่า ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ เชิ้ตดำปฎิเสธไม่ให้ประตูเนื่องจากก่อนหน้านั้น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ล้ำหน้าไปก่อน
กระนั้น อีก 4 นาทีต่อมา ทัพหงส์ มาแซงขึ้นนำ 2-1 ได้สำเร็จ จากลูกคอนเนอร์ทางด้านซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดเตะมุมไปเสาแรกที่จุดนัดพบให้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ วิ่งหนีตัวประกบขึ้นโขกเต็มหัวไม่ถึง 6 หลา เข้าไปอย่างสวยงาม
เกมเปิดแลกกันสุดมันส์ นาที 25 เจ้าบ้านเกือบได้ลุ้นเม็ดที่สาม ซาดิโอ มาเน่ จ่ายบอลให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วิ่งมาอัดด้วยขวาเกือบ 25 หลา บอลพุ่งแรงแต่ไปตรงตัว อิลลัน เมส์ลิเยร์
นาที 30 แนวรับของหงส์แดงมาทำพลาดอีกครั้ง หลัง โจ โกเมซ เข้าพรวดกลางสนาม ก่อนโดน สจ๊วร์ต ดัลลัส วางบอลยาวมาหน้าประตู เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ พยายามเคลียร์บอลแต่ไปโดน แพทริก แบมฟอร์ด ที่วิ่งมาตัดบอลได้ก่อนฉกเข้าไปซัดติดขา อลีสซง ก่อนกลิ้งเข้าประตูไป "ยูงทอง" ไล่ตีเสมอ 2-2
ทว่า "แชมป์เก่า" มาแซงขึ้นนำ 3-2 อีกครั้งในนาทีที่ 33 คราวนี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดฟรีคิกทางด้านซ้ายเข้ามาในกรอบ ปาสกาล สเตราค์ แนวรับยูงทองสกัดบอลไม่ดีไปเข้าทางปืนของ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ จับบอลด้วยขวาก่อนวอลเลย์ด้วยซ้ายเต็มแรงส่งบอลเสียบสามเหลี่ยมเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นประตูที่สองของดาวยิงทีมชาติอียิปต์ในเกมนี้ มีลุ้นแฮตทริกทันที
จบครึ่งแรก "แชมป์เก่า" ลิเวอร์พูล แซงขึ้นนำ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-2
กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง แค่นาที 49 เจ้าบ้านเกือบได้เม็ดที่สี่ หลัง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หักบอลเข้ามากลางประตู บอลเลยทั้ง เกอิต้า และมาเน่ มาเข้าทาง จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ปั่นด้วยขวาแต่ไปติดเซฟ อิลลัน เมส์ลิเยร์
นาที 58 "หงส์แดง" รอดการเสียประตูหวุดหวิด หลัง โรบิน คอช วางบอลยาวให้ แจ็ค แฮร์ริสัน หลุดเข้าไปยกบอลข้ามหัว อลีสซง แม้ว่า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะพุ่งมาโขกบอลเข้าประตูตัวเอง แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะที่ แฮร์ริสัน ล้ำหน้าไปก่อน
อีกนาทีถัดมา เจอร์เก้น คล็อปป์ แก้เกมหนแรกเปลี่ยนเอา ฟาบินโญ่ ลงไปเล่นแทน นาบี เกอิต้า
ทัพยูงทองของ บิเอลซ่า ไม่เกรงกลัวเปิดเกมรุกเข้าแลก และนาที 66 มาไล่ตีเสมอหงส์แดง 3-3 ได้สำเร็จ จากความยอดเยี่ยมของ มาเตอุส คลิช ที่รับลูกจ่ายของ เอลแดร์ คอสต้า ก่อนจะแต่งบอลแล้ววอลเลย์ด้วยขวาผ่านมือ อลีสซง เข้าไปอย่างเด็ดขาด
นาที 76 ทีมเยือนเกือบได้ลุ้นแซงนำเป็นหนแรก หลัง แคลวิน ฟิลลิปส์ ปั่นฟรีคิกนอกกรอบบอลพุ่งเฉียดเสาออกไปแบบได้เสียว
แต่แล้ว นาที 87 "ยูงทอง" มาพลาดท่าเสียจุดโทษอีกครั้งหลัง โรดริโก้ โมเรโน่ ตัวสำรองไปทำฟาวล์ใส่ ฟาบินโญ่ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็น ซาลาห์ คนเดิ่มที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ชนิดที่นายด่านลีดส์พุ่งผิดทาง และเป็นแฮตทริกของดาวเตะเลือดอียิปต์ในเกมนี้พา "หงส์แดง" แซงขึ้นนำ 4-3
เพิ่มเติม : nashvillefashiongroup.com
|