
[ คลิกที่รูปเพื่อดูขนาดจริง ]
ลิเวอร์พูลแสดงผลงานได้เต็มที่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดในพรีเมียร์ลีกของสโมสร ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดรู้สึกท่วมท้นที่แอนฟิลด์
ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการของยูไนเต็ดภายใต้ผู้จัดการทีมเอริก เทน ฮากมีรางวัลที่จับต้องได้ของคาราบาว คัพอยู่แล้ว แต่ลิเวอร์พูลปล่อยการตรวจสอบความเป็นจริงที่โหดร้ายเกี่ยวกับความก้าวหน้าของพวกเขาด้วยการหวดอย่างรุนแรง
ลิเวอร์พูลครองเกมที่สูสี โดยบรูโน่ แฟร์นานเดส และมาร์คัส แรชฟอร์ด พลาดโอกาสที่ควรจะทำได้ เมื่อโคดี้ กัคโป อดีตเป้าหมายของโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จ่ายบอลได้อย่างราบรื่นกับการจ่ายบอลที่สมบูรณ์แบบของแอนดี้ โรเบิร์ตสัน สองนาทีก่อนพักครึ่ง
ครึ่งหลังเป็นเรื่องราวแห่งความสุขอย่างแท้จริงสำหรับลิเวอร์พูลและความทุกข์ยากที่ไม่สิ้นสุดสำหรับยูไนเต็ด เริ่มหลังจากนาทีที่ 47 เมื่อลูกโหม่งของดาร์วิน นูเนซเปลี่ยนทิศทางการครอสของฮาร์วีย์ เอลเลียตผ่านผู้รักษาประตูดาบิด เด เคอา
ซาลาห์หลอกให้ลิซานโดร มาร์ติเนซเล่นใน Gakpo เพื่อจบสกอร์อย่างมีระดับอีกครั้งในอีก 3 นาทีต่อมา ก่อนที่นักเตะชาวอียิปต์จะกลับมารับบทผู้ทรมานยูไนเต็ดมาอย่างยาวนานอีกครั้งโดยทำประตูด้วยตัวเอง
ซาลาห์จบเกมโต้กลับอย่างรวดเร็วด้วยการซัดโด่งผ่านเด เคอา และความพ่ายแพ้ยังคงดำเนินต่อไปเมื่อนูเนซเปิดโหม่งอีกครั้งจากลูกครอสของจอร์แดน เฮนเดอร์สัน
จากนั้น ซาลาห์เบียดแย่งอันดับที่ 6 ขึ้นเป็นดาวซัลโวสูงสุดในพรีเมียร์ลีกของลิเวอร์พูลด้วยจำนวน 129 ประตู แซงหน้า ร็อบบี ฟาวเลอร์ เขายังเป็นนักแม่นปืนสูงสุดของลิเวอร์พูลที่พบแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วย 12 - และ 10 ในนั้นเป็นการเผชิญหน้ากัน 5 ครั้งหลังสุด และในการฟิตติ้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน ซึ่งประกาศว่าเขาจะออกจากแอนฟิลด์เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ปิดท้ายเกมที่น่าทึ่งด้วยการเอาชนะ 7-0 จากระยะเผาขน
นี่คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน โดยผ่านชัยชนะ 7-1 ของลิเวอร์พูลในดิวิชั่นสองฤดูกาล 1895-96
ตอนนี้ลิเวอร์พูลกลายเป็นลางร้ายในการไล่ล่าตำแหน่งแชมป์เปี้ยนส์ ลีก โดยมีแต้มตามหลังท็อตแนมเพียง 3 แต้มกับเกมในมือ
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวแวดวงกีฬา เทรนใหม่ๆ ได้ที่
bostonareahomesales.com
|