5 สายพันธุ์มดน่าเลี้ยงในประเทศไทย

สำหรับใครที่เริ่มเลี้ยงมด เป็นมือใหม่ที่กำลังหัดเลี้ยงและดูมดยังไม่เก่งเรา แต่อยากได้มดที่เลี้ยงง่ายเหมาะกับมือใหม่ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็มีหลากหลายวิธี ที่จะทำให้การเลี้ยงมดของคุณนั้นง่าย และสะดวกสบายยิ่งขึ้น ตั้งแต่การไปดูที่ฟาร์ม การออกไปหาผู้รู้หรือการเข้ากลุ่มคนรักมดเพื่อไปศึกษาหาข้อมูล แต่ทุกครั้งเรามักจะเจอแต่มดที่มีราคาสูง หายาก แต่ละสายพันธุ์นี่เรียกได้ว่าสามารถฉีกกระเป๋าของคุณได้เลย แต่จะดีกว่าไหมหากเราสามารถหามดได้ตามบ้านของเรา หรือมดที่มีสายพันธุ์ที่เหมาะกับมือใหม่อย่างเรา ซึ่งวันนี้ผมจะพาทุกคนทำไปทำความรู้จักกับสายพันธุ์มดที่มือใหม่นิยมเลี้ยงกันว่ามีอะไรบ้างที่น่าสนใจกับ 5 สายพันธุ์มดน่าเลี้ยงในประเทศไทย ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ทุกเพศทุกวับ

1. มดคันไฟ (solenopsis geminata)

มดคันไฟ เป็นมดที่เรานั้นสามารถเห็นได้ทั่วไปตามบ้าน และแทบจะทุกพื้นที่ของประเทศไทย โดยมดชนิดนี้นั้น หากเป็นมดงานจะมีขนาดตัวที่เล็ก ก้นของมดมีสีแดงเข้ม ออกตัดไปทางสีดำ มดชนิดนี้หาได้ง่าย มักจะอยู่กันในบ้านของมนุษย์ และมักจะเดินขบวนออกมาเพื่อหาอาหาร หรือย้ายรัง มดคันไฟเป็นมดที่ขึ้นชื่อว่าสามารถกินได้ทุกอย่าง แต่อาหารที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็นน้ำหวาน นอกจากนี้เหตุผลที่มือใหม่ควรเลี้ยงมดคันไฟนั้น มดชนิดนี้เป็นมดที่ปรับตัวได้ง่าย และมีการขยายพันธุ์ที่ค่อนข้างเร็ว นอกจากนี้ มดคันไฟ ถือเป็นมดที่มีความอึด และอดทน ที่สำคัญตายยากมากอีกด้วย นั่นจึงทำให้มดคันไฟ เป็นหนึ่งสายพันธุ์ที่ผู้คนนิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ดีการเลี้ยงมดคันไฟนั้นมีข้อควรระวังอย่างหนึ่งคือ การโดนต่อย เพราะมดคันไฟจะมีเหล็กใน ถึงแม้ว่าพิษที่มาจากตัวมดจะไม่ได้รุนแรง แต่หากเกิดกับคนที่แพ้พิษนี้ ก็อาจจะส่งผลให้ป่วยได้อย่างกะทันหันเลยทีเดียว

2. มดดำทุ่ง (Iridomyrmex anceps)

หากจะบอกว่ามดทุ่งดำ กับมดคันไฟเป็นญาติกันก็คงไม่ผิด เพราะมดสองชนิดนี้มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันทั้งตัวของมดงาน และมดนางพญาโดยมดทุ่งดำเป็นมดที่มีขนาดเล็กอาศัยอยู่ตามบ้าน พบเจอได้ง่าย ลำตัวจะมีลักษณะสีดำ และมีขนาดที่เล็กกว่ามดคันไฟในระดับหนึ่ง ความถึก และอดทนก็น้อยกว่ามดคันไฟ แต่ที่น่าสนใจคือ มดทุ่งดำ ไม่มีพิษและเหล็กใน ทำให้หลายคนที่เลี้ยงรู้สึกปลอดภัย และมดทุ่งดำก็ได้กลายเป็นหนึ่งในมดเลี้ยงที่ได้รับความนิยมในหมู่คนเลี้ยงมดมือใหม่ไปในทันที

3. มดคัน (Pheidole Sp.)

มดคันชื่อนี้เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นหูไม่น้อยเลย เพราะมดคันสามารถเจอได้ทั่วไป แต่หากแบ่งแยกออกมาจริงๆแล้ว มดคันนั้นมีหลายสปีชีส์มาก แต่รวมๆ ผู้เลี้ยงหรือกลุ่มคนทั่วไปจะเรียกมดชนิดนี้รวมๆ ว่ามดคัน มดคันอยู่ในวงศ์ตระกูลเดียวกันกับมดง่าม และลักษณะที่ไม่เหมือนใครนี้เอง ที่ทำให้มดคันโดดเด่นกว่ามดอื่นๆ มดคันเป็นมดที่มีขนาดเล็ก แต่หากเป็นมดทหารจะมีขนาดที่ใหญ่กว่ามดงานทั่วไป และตัวราชินีเองก็มีขนาดใหญ่ และมีปีก ทำให้การแบ่งแยกชนชั้นของมดคันไม่ยากเป็นเรื่องง่าย สิ่งที่ผู้เลี้ยงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันคือ การเลี้ยงมดคัน ที่เป็นมดไม่มีพิษนี้ เวลาออกล่ามดเหล่านี้จะออกล่าเป็นฝูง และการต่อสู้ หรือการล่าเหยื่อ ก็จะช่วยกัน เรียกได้ว่าเป็นฉากบู๊ที่หาไม่ได้จากที่ไหนมาก่อนเลย

4. มดตะลานอกส้ม (Componotus Sp.)

เรียกได้ว่าเป็นสายพันธุ์มดที่นิยมอย่างมากสายพันธุ์หนึ่ง เพราะมดตะลานอกส้มมีขนาดตัวที่ใหญ่ไม่ว่าจะเป็นมดราชินี หรือมดงาน ก็ต่างมีขนาดตัวที่เรียกได้ว่าใหญ่โตอย่างมาก นอกจากนี้มดตะลานอกส้ม ยังถือเป็นมดที่มีประสาทสัมผัสไว ตื่นตัวง่าย ทำให้เราจะเห็นมดชนิดนี้ ตื่นตัวตลอดเวลา บางทีเกิดแรงสั่นสะเทือนนิดหนึ่งถึงขั้นพากันขนของย้ายกันเลยทีเดียวและด้วยความตัวใหญ่ แต่ขี้ตกใจนี้เอง เวลาเราให้อาหาร หรือไปเล่นกับน้อง ให้ระวังน้องวิ่งออก เพราะน้องตัวค่อนข้างใหญ่ และมีความเร็วมาก แต่ถึงอย่างไรมดตะลานอกส้ม ก็ถือเป็นหนึ่งในมดที่มือใหม่ และมือเก่าหลายคนยังคงเลี้ยงกันอยู่

5. มดน้ำผึ้ง YCA (Anoplolepis gracilipes)

มดน้ำผึ้ง มดชนิดนี้เป็นมดเพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่ถูกตั้งฉายาให้ในชื่อ YCA (Yellow Crazy Ant) ฉายานี้มาจากลักษณะนิสัยของน้องที่ชอบวิ่ง และการวิ่งของน้องนั้นไม่ธรรมดา น้องวิ่งเร็ว เหมือนมดบ้า ที่คุมสติตัวเองไว้ไม่ได้ มดน้ำผึ้งหาได้ตามทุกพื้นที่ในประเทศไทย มดชนิดนี้ชอบกินน้ำหวาน และมีอัตราการเกิดที่สูงมาก มีความอดทนต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้อย่างดี จึงทำให้มดน้ำผึ้ง กลายเป็นสายพันธุ์ที่คนนิยมเลี้ยง เพราะหาได้ง่าย แทบทุกพื้นที่ในประเทศไทยเลยทีเดียว

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ 5 สายพันธุ์มดน่าเลี้ยงในประเทศไทย ที่ทาง Petsayhi ได้นำมาฝากทุกท่านกันในวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่มือใหม่ต้องรู้ เพราะไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดใดก็ตาม จะเล็กจะใหญ่ หรือรูปแบบใดๆ การเลี้ยงสัตว์ตัวแรกในชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ถือเป็นเรื่องของความมั่นใจที่เราจะต้องมี หากใครที่เลี้ยงสัตว์ และไม่สามารถเลี้ยง ดูแลได้ตลอดรอดฝั่ง ก็อาจจะกลายเป็นความรู้สึกผิดให้ไม่กล้ารับผิดชอบชีวิตใดๆเลย ไม่ว่าชีวิตนั้นจะเล็ก หรือใหญ่ก็คือชีวิต เมื่อรับมาแล้วอยากให้ทุกคนดูแลให้ดีที่สุด และคุณจะรู้ว่าสัตว์เหล่านี้ได้สอนอะไรให้กับคุณมากกว่าแค่การมีเพื่อนแก้เหงา

ขอบคุณแหล่งที่มา : petsayhai.com

ติดตามข่าวสาร ได้ที่  : mydeedees.com