เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ขอร้อง “เดอะ ค็อป” ว่าต่อจากนี้ไปไม่ควรจะร้องเพลงเชียร์เชิงต่อต้านคนรักร่วมเพศอีก โดยมองว่าหากเป็นการร้องแบบขำๆ มันก็เป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์ ส่วนถ้าคนที่ร้องมีทัศนคติเชิงต่อต้านคนรักร่วมเพศจริงๆ มันก็หมายความว่าคนกลุ่มที่ร้องเพลงแบบนั้นเป็นคนงี่เง่า
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ขอร้องแฟนบอลบางส่วนว่าให้เลิกร้องเพลงเชิงต่อต้านกลุ่มคนรักร่วมเพศ หลังจากที่มี “เดอะ ค็อป” กลุ่มเล็กๆ ที่ร้องเพลงเชิงดังกล่าวในนัดที่ “หงส์แดง” เอาชนะ นอริช ซิตี้ 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา
สำหรับการที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล บางส่วนร้องเพลงเชิงต่อต้านการรักร่วมเพศในเกมกับ นอริช นั้น เป็นการพุ่งเป้าไปที่ บิลลี่ กิลมัวร์ กองกลางดาวรุ่งที่ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” ยืมตัวมาจาก เชลซี โดยคำพูดหลักๆ ที่กองเชียร์กลุ่มเล็กๆ ของ ลิเวอร์พูล ใช้คือประโยคว่า “เด็กหนุ่มผู้ขายตัวจาก เชลซี” ซึ่งไม่นานหลังจบเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ก็เคยแถลงการณ์เชิงตำหนิการกระทำแบบดังกล่าวไปแล้ว และล่าสุด คล็อปป์ ก็บอกว่าไม่ชอบใจกับเรื่องแบบนั้นเช่นกัน
กุนซือชาวเยอรมันเผยบว่า “ทำไมคุณถึงต้องร้องเพลงที่เกี่ยวกับการต่อต้านบางอย่างในสนามฟุตบอลด้วยล่ะ ? ผมไม่เคยเข้าใจถึงเรื่องนั้นเลย ผมไม่เคยชอบการกระทำแบบนั้น และผมก็ไม่ชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่มันเกิดขึ้นกับทีมของเราเอง ทั้งที่จริงๆ แล้วเราน่าจะเป็นทีมที่มีลิสต์เพลงเชียร์ดีที่สุดในโลกแล้วแท้ๆ การตัดสินใจที่จะไม่ร้องเพลงแบบนั้นอีกต่อไปน่ะมันเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ”
“ผมได้ยินเพลงที่พวกเขาร้อง มันไม่ใช่เพลงเชียร์ที่ดีที่สุดในโลกเลย ดังนั้นมันก็หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องร้องมันแม้แต่นิดเดียว เห็นได้ชัดว่ามันทำให้หลายคนรู้สึกไม่ดีกับกลุ่มแฟนบอลของเรา ซึ่งสำหรับแฟนบอลของเราและสำหรับผมแล้วนั้น ถ้ามันทำให้คนอื่นรู้สึกแบบนั้นขึ้นแล้วน่ะมันก็หมายความว่าเราควรจะเลิกร้องเพลงแบบนั้น และไปร้องเพลงเชียร์แบบอื่นจะดีกว่า”
“ผมคิดจริงๆ นะว่ามัน (การเลิกร้องเพลงเชิงต่อต้านกลุ่มคนรักร่วมเพศ) เป็นการตัดสินใจที่ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย และมันก็ควรจะเป็นการตัดสินใจที่ง่ายดาย แน่นอน ผมพอเดาออกว่าบางคนอาจจะคิดว่า -ไม่เอาน่า เราก็แค่ร้องแบบขำๆ เพื่อจะทำให้พวกเขาหัวเสียเท่านั้นเอง- อะไรประมาณนั้น แต่นั่นแหละคือปัญหา ส่วนใหญ่แล้วเราไม่เข้าใจว่าคนที่ร้องน่ะร้องด้วยแนวคิดแบบไหน (หมายถึงไม่รู้ว่าคนที่ร้องมีทัศนคิต่อต้านแนวคิดแบบนั้นอย่างจริงจัง หรือร้องแบบขำๆ)”
“ดังนั้นตอนนี้เราจึงสามารถตัดสินใจได้ง่ายๆ เลยว่าเพลงแบบนั้นจะไม่ใช่เพลงของเราอีกต่อไป ผมไม่มั่นใจหรอกนะว่าจะมีคนยอมทำตามความเห็นของผมรึเปล่า แต่ถ้าพวกเขาทำตามที่ผมพูดมันก็จะเป็นเรื่องที่ดีเลย มันมีหลายเหตุผลที่ทำให้ผมไม่อยากได้ยินเพลงเชียร์แบบนั้นอีกแล้ว จากมุมมองของคนเป็นนักเตะหรือโค้ชแล้วน่ะผมบอกได้เลยว่าเพลงแบบนั้นมันไม่ได้เป็นผลดีต่อเราแม้แต่นิดเดียวเช่นกัน มันเหมือนกับเป็นการเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์”
“การร้องเพลงแบบนั้นมันเป็นการเสียเวลาไปเปล่าๆ เพราะเราไม่สนใจที่จะฟังเพลงแบบนั้น สิ่งที่ผมได้ยินตอนอยู่ในสนามคือตอนที่พวกเขาเริ่มร้องเพลงของ บ็อบบี้ ฟีร์มีโน่, โม ซาลาห์ และเพลง ยู วิว เนเวอร์ วอล์ค อะโลน (คล็อปป์ หมายความว่าเพลงเชียร์ที่เขายอมรับมีแต่เพลงเชียร์ปกติ ส่วนเพลงเชิงต่อต้านเป็นเพลงที่เลวร้ายจนตนไม่ให้ความสำคัญแม้แต่นิดเดียว) เพลงเชียร์ดีๆ แบบนั้นทำให้คุณรู้สึกฮึกเหิม มันทำให้คุณมีแรงผลักดันในการสู้ ส่วนเพลงอื่นๆ น่ะมันเป็นการร้องแบบเปล่าประโยชน์”
“ถ้าคุณมีความคิดตรงกับเพลง (เชิงลบ) ที่ร้องออกมาจริงๆ น่ะ มันก็หมายความว่าคุณเป็นไอ้งี่เง่าคนหนึ่ง ส่วนถ้าคุณไม่ได้มีความเชื่อตรงกับเพลงที่ร้องออกมามันก็หมายความว่ามันเป็นการร้องที่เสียเวลาไปเปล่าๆ ลืมมันซะ และไปร้องเพลงอื่นดีกว่า”
arisapps.com
|