หนึ่งในสองเกมบิ๊ก แมตช์ พรีเมียร์ลีก ประจำค่ำคืนวันอาทิตย์ ที่สนาม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์

เจ้าถิ่น “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส เปิดบ้านรับมือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
ผลงานที่ดีในบอลยุโรป ไม่ได้บ่งบอกว่าฟอร์มในลีกจะดีเสมอไป ซึ่ง ลิเวอร์พูล ทำให้เห็นสิ่งนั้น ที่ยามลงเตะบอลลีกเมื่อไหร่ “เดอะ ค็อป” มักไม่ค่อยได้เห็นผลการแข่งขันตามที่คาดสักเท่าไหร่

สองเกมก่อนหน้านี้ “หงส์แดง” เสียท่าให้กับทีมรองบ่นท้ายตารางอย่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ ลีดส์ ยูไนเต็ด

– บาร์นส์ชี้ลิเวอร์พูลไม่ควรปลดคล็อปป์-รับสภาพหมดลุ้นแชมป์ลีก
– ต้องแก้ไข!คีโอว์นชี้ฟานไดค์ไม่พยายามเข้าขวางคู่แข่ง
– อาร์เซน่อล สะดุด-ลิเวอร์พูล มาแน่!ซัตตัน-เมอร์สัน ฟันธงพรีเมียร์ฯ
ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการชัยชนะเพื่อสร้างแรงกระตุ้นกระเตื้องอันดับในลีกให้ดีขึ้น

– เกมเยือนนัดสุดท้ายก่อน คริสต์มาส ของ ลิเวอร์พูล

อย่างที่ทราบกันแล้วว่า พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้จะถูกคั่นกลางด้วยมหกรรมฟุตบอลโลก
หลังเสร็จสิ้นเกมกับ สเปอร์ส นั้น “เร้ด แมชชีน” มีคิวเกมกลางสัปดาห์ในบอลถถ้วย คาราบาว คัพ ซึ่งจะเจอกับ ดาร์บี้ และเกมลีกสัปดาห์หน้าจะเล่นใน แอนฟิลด์ รับมือ เซาธ์แฮมป์ตัน
ถึงตอนนี้ ลิเวอร์พูล จะคว้าชัยเกมเยือนใน พรีเมียร์ลีก ไม่เจอ และนี่อาจเป็นเกมที่จะเรียกความมั่นใจกลับมา แต่หากเป็นในทางตรงกันข้ามก็กลับมาลุ้นเกมเยือนอีกทีช่วงปลายปีเลย

– คล็อปป์ ดวล คอนเต้ สูสี

6 เกมที่วัดฝีมือกันของทั้งคู่ ปรากฏว่ากินกันไม่ลง ต่างคนต่างคว้าชัยคนละนัด และอีกสี่เกมลงเอยด้วยผลเสมอ
ฤดูกาลก่อน ทั้งสองทีมแชร์แต้มกัน ด้วยผลเสมอ 2-2 ที่กรุงลอนดอน และ 1-1 ที่ แอนฟิลด์ ซึ่งเกมนี้ หลุยส์ ดิอาซ ซัดประตีตามเจ๊าต่อหน้า เดอะ ค็อป
ในเรื่องของสไตล์การเล่น คล็อปป์ กับ คอนเต้ มีความต่างกันสิ้นเชิง แต่มักจะมีความน่าสนใจในเรื่องละเอียดแท็กติก

– แต้มห่าง 10 คะแนน

ถึงตอนนี้ แฟนบอล ลิเวอร์พูล หลายคนรับได้แล้วหากทีมรักมีลุ้นแค่ติดท็อปโฟร์ก็พอแล้ว และคงไม่คาดหวังถึงแชมป์ลีก
แต่ถึงแม้จะไม่คาดหวังถึงบัลลังก์ พรีเมียร์ลีก แต่หากทีมไม่กระตุ้นฟอร์มขึ้นมาให้ดีขึ้น พวกเขาอาจจะเจองานหนักมากขึ้นไปอีกในเรื่องการแย่งชิงโควต้าไปบอลยุโรป ถ้วยใหญ่
“หงส์แดง” มีแต้มห่างจาก “ไก่เดือยทอง” มากถึง 10 คะแนน แต่ฝ่ายแรกลงเล่นน้อยกว่า
ส่วน สเปอร์ส หลังจากพ่ายสองเกมติดต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด คอนเต้ ก็ปลุกลูกทีมให้พลิกกลับมาเอาชนะ บอร์นมัธ ได้ 3-2

– ซน และตัวอื่นๆ ที่บาดเจ็บ

ซน ฮึง-มิน กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ของ สเปอร์ส จะชวดลงสนามเกมนี้แน่นอน หลังได้รับบาดเจ็บกระทบกระเทือนทางศีรษะในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก
ขณะเดียวกัน ริชาร์ลิซอน กองหน้าแซมบ้า ก็จะไร้ชื่อ เช่นเดียวกับ เดยาน คูลูเซฟสกี้ ที่ไม่ได้ลงสนามเลยนับตั้งแต่เดือนกันยายน
นอกจากนี้ คริสเตียน โรเมโร่ มีแนวโน้มที่จะเรียกความฟิตกลับมาไม่ทันอีกคน และจากการให้สัมภาษณ์ของ คอนเต้ ลูกัส มูร่า จำเป็นต้องพร้อมสำหรับเกมนี้ เพราะแดนหน้าแทบไม่เหลือใครให้ใช้งานแล้ว
การมี มูร่า สเปอร์ส น่าจะจัดแผนมาในระบบ 3-5-2 ประกอบไปด้วย อูโก้ โยริส, เอริค ดายเออร์, เกลม็อง ล็องเล่ต์, เบน เดวี่ส์, เอแมร์ซอน, ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก, อีฟส์ บิสซูม่า, โรดริโก้ เบนทานคูร์, อิวาน เปริซิช, ลูกัส มูร่า และ แฮร์รี่ เคน

– 4-3-3 ของ หงส์แดง

ลิเวอร์พูล ยกระดับผลงานขึ้นมาได้ดีขึ้นในเกมเอาชนะ นาโปลี ด้วยแท็กติกที่คุ้นเคย นั่นก็คือ 4-3-3
อิบราฮิม่า โกนาเต้ น่าจะยึดตัวจริงต่อเนื่อง ขณะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จะกลับมายืนแบ็กซ้ายอีกครั้ง
แดนกลาง ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า น่าจะได้ออกสตาร์ทพร้อมกัน โดยมีสามประสานแดนหน้าคือ ดาร์วิน นูนเญซ, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

– แง่ของสถิติ

ลิเวอร์พูล ยังไม่ชนะใครเกมเยือนในลีกเลย และหนล่าสุดที่พวกเขาไร้ชัยแบบนี้ตอนเริ่มฤดูกาลต้องย้อนไปเมื่อซีวั่น 2006/07
ถึงกระนั้น ในรอบ 10 เกมหลังสุดที่เจอกัน “หงส์แดง” ไม่แพ้ต่อ “คลับไก่” เลยสักนัด
นอกจากนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีลุ้นที่จะเก็บชัยชนะในฐานะกุนซือ ลิเวอร์พูล เป็นเกมที่ 250 อีกด้วย
https://have-a-look.net/2022/11/06/%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b9%87%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%99-%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b9%89/