การให้ไฟเขียวกฎกระทรวงครั้งนี้ คงจะไม่เป็นที่พูดถึงขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะร่างแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิต หรือ ที่เรียกกันว่า พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ของพรรคก้าวไกล จะเข้าพิจารณาวาระ 2 วาระ 3 ในสภาวันนี้ จนถูกมองว่า เป็นการออกกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565 เป็นการปาดหน้าหรือเตะตัดขากันหรือไม่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่า กฎกระทรวงที่ปรับปรุงนี้ โดยหลักบอกว่า ไม่เอื้อเฉพาะนายทุน พิจารณาถึงชุมชน ประชาชนให้ผลิตสุราได้ง่ายขึ้น แต่มีมาตรฐานความปลอดภัย ความรัดกุมเรื่องการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง
นายวิษณุยังระบุว่า เป็นเรื่องที่ต้องการให้มีกฎเกณฑ์เพื่อผ่อนปรนให้สามารถผลิตสุรา โดยเฉพาะสุราที่ไม่ได้มีเพื่อการค้า โดยเฉพาะสุราพื้นบ้าน เนื่องจากมองว่า 1.เป็นการรักษาภูมิปัญญาชาวบ้าน 2. กฎกระทรวงฯนี้ไม่ได้ทำให้รายได้ของรัฐบาลลดลง และ 3.ผู้ที่ประสงค์จะผลิตสุรา สามารถทำได้โดยไปไม่ต้องไปขออนุญาตหรือเป็นเป็นภาระแก่ประชาชน
สาระสำคัญ คือ 1.เปิดโอกาสให้สุราชุมชนขนาดเล็ก สามารถขยายกำลังการผลิตเป็นระดับกลางที่ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังการผลิตสูงกว่า 5 แรงม้า แต่ไม่เกิน 50 แรงม้า และสามารถใช้คนงานมากกว่า 7 คนได้ แต่ต้องไม่เกิน 50 คน แต่ยังมีเงื่อนไขคือ ต้องได้รับใบอนุญาตผลิตสุราแช่ หรือ สุรากลั่นชุมชนขนาดเล็กมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เคยกระทำความผิดกฎหมายภาษีสรรพสามิต
2.มีการยกเลิกการกำหนดกำลังการผลิตขั้นต่ำและทุนจดทะเบียน สำหรับทั้งกรณีผลิตเบียร์เพื่อขาย
3.เปิดโอกาสให้บุคคลธรรมดาที่มีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และนิติบุคคล ขอใบอนุญาตผลิตสุราที่มิใช่เพื่อขาย โดยต้องผลิตสุราไม่เกิน 200 ลิตรต่อปี
jawaali.com